คิวชู

รวม 10 เช็คลิสต์ที่ไม่ควรพลาด เมื่อไปเยือน “จังหวัดคุมาโมโตะ”

จังหวัดคุมาโมโตะ (Kumamoto) เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ ณ ตอนกลางของภูมิภาคคิวชู (Kyushu Region) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รวบรวมความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์อันล้ำค่าของเมืองเอาไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังมีกิจกรรมต่างๆ ที่ทำให้เราสามารถเพลิดเพลินในธรรมชาติ น้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงของจังหวัด และอาหารท้องถิ่นอันเลิศรส หากเพื่อนๆ กำลังวางแผนการเดินทางเที่ยวจังหวัดคุมาโมโตะ อย่าลืม 10 เช็คลิสต์ที่ไม่ควรพลาดนะคะ จะมีอะไรบ้างตามกันมาดูเลยจร้า

ขับรถเที่ยวดินแดนแห่งภูเขาไฟอะโซะ (Mt.Aso)

เขตภูเขาไฟอะโซะ (Mt.Aso) เป็นพื้นที่ทางธรรมชาติขนาดใหญ่ในจังหวัดคุมาโมโตะ และเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางอันยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปในแถบภูมิภาคคิวชู (Kyushu) โดยแนะนำให้เช่ารถขับเที่ยว เพราะถนนบริเวณรอบภูเขาไฟอะโซะนั้นเหมาะแก่การขับรถชมธรรมชาติตลอดทั้งเส้นทาง และยังสามารถแวะเที่ยวและถ่ายรูปตามจุดต่าง ๆ ได้ตามต้องการ ถือเป็นวิธีการเดินทางที่สะดวกสบายไม่ว่าจะมากับครอบครัว เพื่อนฝูง หรือคู่รัก ก็เที่ยวด้วยกันได้อย่างเพลิดเพลิน

หนึ่งในจุดชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยที่สุดระหว่างขับรถเที่ยวบริเวณภูเขาไฟอะโซะ ก็คือ “ทุ่งหญ้าคุซะเซนริ” (Kusasenri) ซึ่งมีลักษณะเป็นทุ่งหญ้าสีเขียวอันกว้างใหญ่ ประกอบไปด้วยบึงน้ำ และไฮไลต์สำคัญคือ “ปากปล่องภูเขาไฟนาคาดาเคะ” (Nakadake Crater) ซึ่งยังคงคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลาตั้งตระหง่านอยู่เป็นฉากหลัง และเนื่องจากพื้นที่ในบริเวณนี้เหมาะแก่การทำปศุสัตว์ จึงมีโอกาสได้พบกับฝูงม้าและฝูงวัวที่ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ซึ่งช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาและบรรยากาศอันน่าประทับใจแบบชนบทญี่ปุ่นและที่สำคัญในช่วงระหว่างเดือนมีนาคมถึงธันวาคม จะมีให้บริการนักท่องเที่ยวสามารถขี่ม้าเพื่อชมธรรมชาติโดยรอบบริเวณนี้ได้ด้วย

การเดินทาง

เนื่องจากทุ่งหญ้าคุซะเซนริเป็นพื้นที่ทางธรรมชาติขนาดใหญ่ แนะนำให้เช่ารถขับเที่ยวจะสะดวกที่สุด หากไม่มีรถส่วนตัวจากสถานีคุมาโมโตะ (Kumamoto Station) สามารถนั่งรถไฟด่วน Limited Express Aso หรือ Kyushu Odan Tokkyu ไปลงที่สถานีอะโซะ (Aso Station) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที จากนั้นนั่งรถบัสจากหน้าสถานีรถไฟไปยังบริเวณทุ่งหญ้าคุซะเซนริ (Kusasenri) ใช้เวลาประมาณ 35 นาที

คุโรคาวะออนเซ็น (Kurokawa Onsen)


คุโรคาวะออนเซ็น เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่โดดเด่นด้วยทัศนียภาพที่งดงามและบรรยากาศแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเงียบสงบ เรียกได้ว่าเป็นทิวทัศน์แบบญี่ปุ่นแท้ๆ กิจกรรมยอดนิยมคือ การตระเวนแช่น้ำพุร้อน หรือออนเซ็น


เพื่อนๆสามารถซื้อ Onsen Hopping Pass ในราคา 1,500 เยนต่อคน และ การเดินเที่ยวเล่นในเมืองออนเซ็นที่อบอวลด้วยบรรยากาศน่ารักๆแบบดั้งเดิม น้ำแร่ของ Kurokawa Onsen ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุมีประโยชน์ทางการแพทย์และใช้มามากกว่า 300 ปี บรรยากาศเงียบสงบให้ทัศนียภาพสวยงามของภูเขา, น้ำตก ผ่อนคลายด้วยเสียงน้ำไหลจากลำธารที่ตัดผ่านกลางหมู่บ้าน


ไฮไลต์ของคุโรคาวะออนเซ็นจะอยู่ที่ เทศกาลยูอาการิ (Yu-Akari) ที่จัดขึ้นในช่วงปลายเดือนธันวาคมไปจนถึงปลายเดือนมีนาคม โดยในงานเทศกาลนี้จะมีการจุดไฟในกระบอกไม้ไผ่และภาชนะสานที่ทำจากไม้ไผ่ ณ บริเวณสะพานมารุสึสึ (Marusuzu Bridge) เรียกได้ว่าเป็นการประดับไฟที่ทำให้ค่ำคืนของย่านออนเซ็นแห่งนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์และสีสันมากเลยทีเดียวค่ะ

การเดินทาง

หากเดินทางมาจากฟุกุโอกะ ให้นั่งรถ Highway Bus จาก Hakata Station, Tenjin Bus หรือ Fukuoka Airport โดยใช้เวลาประมาณ 150 นาที

ปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto Castle)


ปราสาทคุมาโมโตะขึ้นชื่อว่าเป็น 1 ใน 3 สุดยอดปราสาทของญี่ปุ่น และสร้างขึ้นโดยคาโตะ คิโยมาซะ แม่ทัพใหญ่ในยุคเซนโงคุ ใช้เวลาสร้างกว่า 7 ปี โดยเริ่มสร้างเมื่อปี 1601 ปราสาทแห่งนี้เต็มไปด้วยกับดักมากมายเพื่อป้องกันไม่ให้ข้าศึกบุกเข้ามายึดได้ ในระหว่างเหตุการณ์กบฏซัตสึมะในปี 1877 กองกำลังของรัฐบาลมากกว่า 3,000 นายสามารถยืนหยัดต่อการล้อมโจมตีได้มากกว่า 50 วัน ตื่นตาตื่นใจไปกับความมั่นคงของปราสาทคุมาโมโตะที่คิโยมาซะได้สร้างขึ้นมาเมื่อ 270 ปีก่อนเหตุการณ์กบฏซัตสึมะ ไซโก ทากาโมริกล่าวว่า “ข้าไม่ได้พ่ายแพ้ต่อกองกำลังของรัฐบาล แต่พ่ายแพ้ต่อคิโยมาซะ”

หลังจากที่ตัวปราสาทได้รับความเสียหายร้ายแรงจากเหตุแผ่นดินไหวคุมาโมโตะในปี 2016 ด้วยความช่วยเหลือจากผู้สนับสนุนมากมาย หอคอยปราสาทจึงฟื้นฟูเสร็จสิ้นในปี 2021 แต่ยังต้องใช้เวลาอีกยาวนานกว่าการฟื้นฟูจะเสร็จสมบูรณ์ แต่ปราสาทแห่งนี้ได้รับสมญานามว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความก้าวหน้าที่มั่นคงที่มีต่อการบูรณะของคุมาโมโตะ

การเดินทาง

1. เดินจาก City Hall Station โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที
2. นั่งรถบัส Shiromegurin Shuttle Bus จากหน้าสถานีรถไฟ JR Kumamoto Station ไปลงที่ Ninomaru Parking Lot โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที

Amakusa Christian Museum (พิพิธภัณฑ์อามาคุสะ)


หากเพื่อนๆ เป็นคนที่ชอบเยี่ยมชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ อย่าลืมแวะไปที่พิพิธภัณฑ์อามาคุสะในจังหวัดคุมาโมโตะนะคะ อามาคุสะเป็นสถานที่ซึ่งชาวคริสต์ที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ศรัทธาและดูแลอยู่ ภายในมีซากปรักหักพังและโบสถ์หลายแห่งที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ถูกบูรณะขึ้นใหม่ ถือเป็นอนุสรณ์สถานอันสำคัญสำหรับชาวคริสต์เลยก็ว่าได้ค่ะ

โบสถ์โอเอะ เป็นที่รู้จักในฐานะโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดที่สร้างขึ้นในอามาคุสะ หลังจากยกเลิกการห้ามนับถือศาสนาคริสต์ในญี่ปุ่น โบสถ์นี้ยังคงถือเป็นสัญลักษณ์ของชาวคริสต์ในอามาคุสะอีกด้วย

หากเพื่อนๆ ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์แล้วล่ะก็ เราขอแนะนำพิพิธภัณฑ์อามาคุสะในจังหวัดคุมาโมโตะนะคะ ภายในพิพิธภัณฑ์จะแบ่งออกเป็น 4 โซน มีการอธิบายเรื่องราวความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ของสถานที่แห่งนี้ เอาไว้อย่างครบถ้วนและเข้าใจง่าย

ลิ้มรส ราเมงแห่งคุมาโมโตะ


คุมาโมโตะราเมนเป็นอาหารท้องถิ่นในจังหวัดคุมาโมโตะ โดดเด่นด้วยซุปกระดูกหมูที่เข้มข้นและน้ำมันกระเทียมเผา ช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับรสชาติที่เข้มข้นแบบที่ถ้าใครได้แวะไปจังหวัดคุมาโมโตะแล้ว ก็ไม่ควรพลาดค่ะ

หนึ่งในร้านราเมงที่อยากจะแนะนำให้ทุกคนรู้จัก ก็คือ 「桂花」”Keika” ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะตัวแทนร้านราเมงชื่อดังแห่งคุมาโมโตะค่ะ ด้วยเคล็ดลับการเติมกระดูกไก่ทั้งตัวลงในซุป และเคี่ยวจนได้นำ้ซุปรสเข้มข้นกลมกล่อม เมนูแนะนำของร้านนี้คือ “Dai Nikumen” หรือ “บะหมี่เส้นหนา” มีหมูสามชั้นและกะหล่ำปลีราดหน้าอันเป็นเอกลักษณ์

นอกจากนี้ ยังมีร้านราเมงชื่อดังอีกมากมาย เช่น 「黒亭」”Kurotei” และ 「こむらさき」”Komurasaki” สำหรับใครที่ชอบทานราเมงก็อย่าลืมแวะไปทานกันให้ได้นะคะ

การเดินทาง

เดินประมาณ 3 นาทีจากสถานีรถราง Hanabatakecho ในเมืองคุมาโมโตะ

เวลาเปิด-ปิด

11:00〜24:00(เฉพาะวันอาทิตย์เปิดถึง 16:20)

สนุกไปกับกิจกรรมท่ามกลางธรรมชาติ


จังหวัดคุมาโมโตะมีชื่อเสียงในด้านธรรมชาติอันงดงาม โดยบริเวณพื้นที่ภูเขาไฟอะโซะนั้น มีกิจกรรมกลางแจ้งให้ เพื่อนๆได้ทำมากมาย เช่น การเดินทางทางอากาศด้วยการนั่งบอลลูนลมร้อนหรือการร่อนร่ม ที่ Aso Nature Land เพื่อนๆ สามารถเพลิดเพลินกับการเดินทางบนอากาศชมภิมิทัศน์ที่งดงามหายากและเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์อันงดงามของธรรมชาติที่มองเห็นได้จากท้องฟ้าโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง การเดินป่า และ พายเรือแคนูบนภูเขา Aso ก็เป็นที่นิยมมากเช่นกัน

การเดินทาง

จากหน้าสถานี Kumamoto ขึ้นรถบัส Kyushu Sanko ที่มุ่งหน้าไปยัง Yufuin จากนั้นเดินต่อประมาณ 5 นาทีจากป้ายรถบัส Aso Plaza Hotel

วัน-เวลาทำการ

มีนาคม – ตุลาคม : 09.00~18.00 น
พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ : 09:00~17:00 น
หยุดทุกวันพฤหัส (เปิดทำการในวันหยุดนักขัติฤกษ์)

ลิ้มรส ซาชิมิเนื้อม้า (Basashi)


บาซาชิ (Basashi) หรือ ซาชิมิเนื้อม้า (Horse Sashimi) ถือเป็นอาหารท้องถิ่นที่สุดแสนจะเป็นเอกลักษณ์ประจำจังหวัดคุมาโมโตะเลยก็ว่าได้
แต่สำหรับที่คุมาโมโตะนั้นเขาทานเมนูนี้กันเป็นจานหลักเลยทีเดียว โดยสาเหตุที่เนื้อม้าเป็นที่นิยมในหมู่คนญี่ปุ่นนั้นก็เป็นเพราะว่ามันมีปริมาณไขมันน้อยและมีโปรตีนสูงค่ะ นอกจากนี้เนื้อม้ายังมีรสชาติที่หวานกลมกล่อมอีกด้วย

แม้ว่าเนื้อม้าอาจจะเป็นของแปลกสำหรับคนไทยอย่างเรา แต่ถ้าได้มาเที่ยวจังหวัดคุมาโมโตะแล้วล่ะก็ อยากให้สายซาชิมิได้ลองมาทานบาซาชิกันดูสักครั้งค่ะ รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน


ในบทความนี้เลยจะขอแนะนำ ร้าน “Suganoya” ให้ทุกคนได้รู้จักค่ะ เป็นร้านอาหารเก่าแก่ที่เชี่ยวชาญด้านอาหารเนื้อม้า สามารถสั่งซาซิมิม้าจากหลายส่วนได้ เช่น เนื้อบริเวณสะโพก เนื้อสันนอก เป็นต้น และเพื่อนๆยังสามารถเพลิดเพลินกับอาหารเนื้อม้ารูปแบบอื่นๆ เช่น สเต็กและแฮมเบอร์เกอร์ ได้อีกด้วย

การเดินทาง

เดิน 1 นาที จาก Kumamoto Station

วัน-เวลาทำการ

มื้อกลางวัน 11.00~15.00 (รับออเดอร์สุดท้าย 14.30)
มื้อเย็น 17.00~22.00 (รับออเดอร์สุดท้าย 21.00)

น้ำตกนาเบะกาทากิ และหุบเขาคิคุจิ


หากเพื่อนๆ มาเที่ยวที่จังหวัดคุมาโมโตะในฤดูร้อน อีกที่หนึ่งที่จะไม่แนะนำไม่ได้เลย คือ น้ำตกนาเบะกาทากิ และหุบเขาคิคุจิ หุบเขาคิคุจิตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติอะโซะคุจูในส่วนทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองคิคุจิ จังหวัดคุมาโมโตะ เป็นอีกหนึ่งสถานทีที่นักท่องเที่ยวหลายคนไม่ค่อยรู้จัก แต่สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้ว สถานที่นี้ค่อนข้างมีชื่อเสียงและยังเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นอีกด้วย

และในพื้นที่หุบเขาคิคุจินั้น ยังมีน้ำตกนาเบกาทากิ ซึ่งว่ากันว่าน้ำตกแห่งนี้เกิดจากการปะทุครั้งใหญ่ที่ทำให้เกิดแอ่งภูเขาไฟอะโซะ กลายมาเเป็นน้ำตกที่มีความสูงประมาณ 10 เมตร และกว้างประมาณ 20 เมตร และเป็นสถานที่ยอดนิยมที่ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ในหลายๆเรื่องด้วยค่ะ น้ำจากแม่น้ำใต้ดินที่ไหลมาจากภูเขาอะโซะก็มีความบริสุทธิ์มาก ทำให้ได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน “100 แหล่งน้ำที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น”

ธารน้ำใสที่ให้ความรู้สึกเย็นแม้ในฤดูร้อนนี้ยังมีอีกชื่อว่า “เครื่องทำความเย็นธรรมชาติ” ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการเป็นเมืองพักผ่อนบนภูเขาจริงๆ

สวนซุยเซนจิ (Suizenji Garden)


สวนซุนเซนจิ (Suizenji Garden) เป็นสวนญี่ปุ่นในจังหวัดคุมาโมโตะที่มีชื่อเสียงอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่มีทัศนียภาพสวยงาม และได้รับการกำหนดให้เป็นโบราณสถานแห่งชาติโดยรัฐบาลญี่ปุ่นอีกด้วย

สำหรับจุดประสงค์ของการสร้างสวนซุยเซนจินั้นก็มีขึ้นตั้งแต่สมัยที่ผู้ปกครองคนแรกของคุมาโมโตะยังมีชีวิตอยู่ค่ะ ตอนนั้นท่านต้องการสร้างสวนที่มีทิวทัศน์สวยงามตามฤดูกาล โดยใช้ภูมิทัศน์ที่ประกอบด้วยพื้นหญ้าสีเขียวขจี เนินเขาที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภูเขาฟูจิ และสระน้ำเล็กๆที่มีเกาะกลางน้ำ มาเนรมิตให้พื้นที่ว่างเปล่าแห่งนี้กลายเป็นสวนอันสวยงามอย่างที่เราได้เห็นกัน

การเดินทาง

นั่งรถ City Tram ไปลงที่ Suizenji Park จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
นั่งรถไฟ JR Higo Line ไปลงที่สถานี Shin-Suizenji Station จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที


อ้างอิงจาก : https://www.nta.co.jp/

Pick up


บทความแนะนำ

  1. เพลิดเพลินไปกับซากุระที่เกียวโต แนะนำสถานที่ชมดอกไม้ เครื่องแต่งกายและโรงแรมที่ใกล้กับสถานที่ชมดอกไม้

  2. แนะนําสถานที่ชมดอกไม้ในภูมิภาคกลางและตะวันตกของญี่ปุ่น

  3. แนะนำ 10 เทศกาลน่าสนใจในญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ผลิ อากาศเย็นสบาย เหมาะกับการท่องเที่ยวแบบชิลๆ

บทความล่าสุด

  1. แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองโกเบที่ใกล้กับสถานีรถไฟ JR

  2. แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดคานากาวะที่ใกล้กับสถานีรถไฟ JR

  3. เพลิดเพลินไปกับการท่องเที่ยวในเมืองคานาซาวะ เพลิดเพลินไปกับความงดงามของเมืองและสัมผัสถึงประวัติศาสตร์

  4. JR Hokuriku Arch Pass แนะนำพร้อมอธิบายรายละเอียดของตั๋ว

  5. แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในนาโกย่า ศูนย์กลางของภูมิภาคชูบุที่ต้องลองมาเยือน

  6. ชมธรรมชาติอันสวยงามกันได้ที่เมืองอาซาฮิคาวะ (Asahikawa) ฟุราโนะ (Furano) และบิเอ (Biei)

  7. JR Central Rail Pass แนะนำพร้อมอธิบายรายละเอียดของตั๋ว

  8. แนะนำเมนูแสนอร่อยของภูมิภาคฮอกไกโด ไปเยือนทั้งที ไม่ควรพลาด

  9. JR Hokkaido Rail Pass แนะนำพร้อมอธิบายรายละเอียดของตั๋ว

  10. แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวรอบภูเขาไฟฟูจิ

TOP