สำหรับบทความนี้ เราขอแนะนำทริปการท่องเที่ยวด้วยรถไฟ D&S จากจังหวัดคาโกชิมะไปจังหวัดมิยาซากิที่กำลังเป็นที่นิยมที่ภูมิภาคคิวชูในปัจจุบันกันค่ะ
โดยเราจะขอแนะนำรถไฟ D&S สามารถเพลิดเพลินได้ทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถเดินทางไปได้ด้วยรถไฟขบวนนี้ค่ะ
สารบัญ
รถไฟ D&S คือ?
รถไฟ D&S มาจากคำว่า “Design & Story” ซึ่งเป็นรถไฟขบวนพิเศษที่ผสมผสานการออกแบบที่สวยงามและการเล่าเรื่องเข้าด้วยกัน รถไฟแต่ละขบวนจะมีคอนเซ็ปต์ต่างๆ เป็นของตัวเองเพื่อมอบประสบการณ์พิเศษให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนภูมิภาคคิวชู และไม่เพียงแค่การตกแต่งทั้งภายนอกและภายในเท่านั้น แต่ยังมีอีเวนท์ต่างๆ รวมถึงอาหารและการจำหน่ายสินค้าบนรถไฟที่ได้ใส่ความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ลงไปอีกด้วย
ข้อมูลตั๋วเดินทาง:JR KYUSHU RAIL PASS
เราขอแนะนำตั๋วโดยสาร JR KYUSHU RAIL PASS ที่จะช่วยให้คุณเพลิดเพลินไปกับการเดินทางในภูมิภาคคิวชูอย่างอย่างสะดวกสบายและประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น
จุดเด่น:
- นั่งรถไฟ “สาย JR” ในภูมิภาคคิวชูได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
- ซื้อได้เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวญี่ปุ่นด้วยวีซ่าท่องเที่ยวระยะสั้น
ชนิดของตั๋ว:
- คิวชูทั้งภูมิภาค:ระยะเวลา 3 วัน / 5 วัน / 7 วัน
- ภูมิภาคคิวชูตอนเหนือ:ระยะเวลา 3 วัน / 5 วัน
- ภูมิภาคคิวชูตอนใต้:ระยะเวลา 3 วัน
วิธีสั่งซื้อ:
- จากเว็บไซต์ทางการ JR KYUSHU RAIL PASS Online Booking
- จากบริษัทตัวแทนจำหน่ายในไทย
ตั๋วนี้สามารถใช้จองที่นั่งบนรถไฟชินคันเซ็นและรถไฟ D&S บางขบวนได้ ซึ่งจะสะดวกในการเดินทางเป็นอย่างมากเลยค่ะ
ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ที่ KLOOK
รถไฟ D&S : 36+3
36+3 คือ?
36+3 คือ รถไฟท่องเที่ยวแบบพิเศษที่ทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่นและทิวทัศน์อันสวยงามในภูมิภาคคิวชู ซึ่งรถไฟนี้จะวิ่งให้บริการตามเส้นทางที่แตกต่างกันในแต่ละวัน เพื่อให้เหล่านักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินไปกับเสน่ห์ของภูมิภาคนี้อย่างเต็มที่ ภายในรถไฟจะมีการตกแต่งอย่างหรูหราและมีเมนูอาหารสุดพิเศษคอยให้บริการ เพื่อให้เพื่อนๆมีความทรงจำแสนพิเศษระหว่างการเดินทาง และสำหรับการเดินทางในครั้งนี้ เราจะไปตามเส้นทางการเดินรถไฟของวันศุกร์ โดยจะวิ่งจากสถานี JR คาโกชิมะชูโอ (JR Kagoshima Chuo Station) ไปยังสถานี JR มิยาซากิ (JR Miyazaki Station) ค่ะ
ดู YouTube ได้ที่นี่
เส้นการเดินรถของวันศุกร์
คุณจะสนุกและเพลิดเพลินไปกับเสน่ห์ของภูมิภาคคิวชูตอนใต้ที่เชื่อมจากคาโกชิมะชูโอไปยังมิยาซากิ ชมทัศนียภาพของเกาะซากุระจิมะและแนวชายฝั่งอันงดงาม และยังสามารถเพลิดเพลินไปกับวัฒนธรรมและสินค้าท้องถิ่นที่จุดจอดระหว่างทางได้อีกด้วย ถือเป็นการเดินทางอันแสนวิเศษที่แต่งแต้มไปด้วยภูมิทัศน์ของประเทศทางตอนใต้ของญี่ปุ่น
สิ่งที่แนะนำ
- ตัวรถไฟมีความหรูหรา
- ภายในมีการตกแต่งและที่นั่งสไตล์ญี่ปุ่นแบบเรียบง่ายแต่ดูแพง
- เมนูอาหาร
- กิจกรรมภายในรถไฟ
ตัวรถไฟเป็นสีดำและโลโก้สีเงินที่ทำให้รู้สึกถึงความหรูหรา
ภายในรถไฟทั้งขบวนจะดูหรูหราและเงียบสงบ ไม่ว่าจะเป็นหลังคาไปจนถึงกำแพง ที่นั่งส่วนตัวและนั่งแบบธรรมดา ซึ่งที่นั่งภายในรถไฟขบวนนี้จะมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าแบบไหนก็ให้ความรู้สึกในการตกแต่งแบบญี่ปุ่นอย่างดีเยี่ยมเลยค่ะ
ด้วยที่นั่งอันหลากหลายและตัวรถไฟที่ตกแต่งให้ดูเหมือนร้านเสริมสวย มันทำให้ลืมไปเลยล่ะค่ะว่ากำลังนั่งรถไฟอยู่ เห็นที่นั่งแต่ละที่แล้วก็อยากจะลองนั่งดูให้หมดไปเลย
อาหารกลางวันที่ให้บริการภายในรถไฟนั้นเป็นอาหารที่ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นตามแต่ละฤดูกาล อีกทั้งยังมีเชฟมือดีเป็นคนปรุงอาหารด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะแตกต่างกันไปตามวันและเส้นทางในการเดินรถไฟ ช่วงเวลาที่รับประทานอาหารไปพร้อมกับการชมภูมิทัศน์โดยรอบอันแสนงดงามจะช่วยสร้างความทรงจำในการเดินทางให้พิเศษยิ่งขึ้นกว่าเดิม
นอกจากนี้ 36+3 มีแพคเกจเมนูอาหารกลางวันในรูปแบบสินค้าสำหรับเดินทาง โดยแพคเกจนี้จะมีเซ็ตตั๋วเดินทาง ห้องส่วนตัว และอาหารมาให้เลยค่ะ แต่แพคเกจนี้จะไม่สามารถใช้กับ JR KYUSHU RAIL PASS ได้นะ และถ้าหากต้องการใช้ JR KYUSHU PASS เพื่อขึ้นรถไฟ 36+3 ก็จำเป็นที่จะต้องซื้อตั๋วสีเขียวแยกต่างหากด้วย คุณสามารถนำอาหารของตัวเองขึ้นมารับประทานได้ และยังสามารถเพลิดเพลินกับการรับประทานเมนูอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ภายในรถไฟและซื้ออาหารและเครื่องดื่มที่สถานีระหว่างทางได้อีกด้วย
รายละเอียดสามารถเช็คจากเว็บไซต์
ภายในรถไฟจะมีทั้งเค้าเตอร์บาร์และอาหารบุฟเฟต์คอยให้บริการ สามารถเพลิดเพลินไปกับเหล้าสาเกของญี่ปุ่นได้ ยิ่งใครที่ชอบดื่มเหล้าสาเกยิ่งไม่ควรพลาดเลยล่ะค่ะ
การซื้อตั๋ว
จำเป็นจะต้องมีตั๋ว JR KYUSHU Pass และตั๋วสีเขียวสำหรับขึ้นรถขบวนนี้แยกกันค่ะ
โบกี้ที่ 1・2 จองห้องและที่นั่งส่วนตัว
โบกี้ที่ 5・6 จองที่นั่งส่วนตัว
ป้ายที่ 1 : สถานี JR คิริชิมะ จิงงู (JR Kirishima Jingu Station)
เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว จะมาถึงจุดจอดระหว่างทางอย่างสถานี JR คิริชิมะ จิงงู ระหว่างที่รถไฟจอดอยู่จะสามารถลงจากรถไฟและสนุกกับกิจกรรมง่ายๆ ได้เลยค่ะ โดยจะมีกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อและลองชิมอาหารท้องถิ่นหรือการลองเล่นกลองไทโกะของญี่ปุ่น (อีเว้นท์นี้ มีจัดขึ้นเป็นบางวันเท่านั้น)
ในระหว่างที่รถไฟจอดอยู่ สามารถออกไปนอกสถานีได้ด้วยนะ
โดยที่ทางเข้าสถานีจะมีประตูโทริอิประดับอยู่ด้วยค่ะ
ภายในอาคารสถานีรถไฟจะมีไม้ถูกใช้งานไปตามจุดต่างๆ อย่างมากมาย แม้แต่จุดเล็กๆ น้อยๆ อย่างกรอบนาฬิกาหรือตารางเวลา ทำให้ตัวอาคารสถานีน่าชมเป็นอย่างมากเลย
ป้ายที่ 2 : สถานี JR โอสึมิ โอคาวาระ (JR Osumi Okawara Station)
สำหรับสถานีนี้จะมีอาคารสถานีอันเก่าขนาดเล็กอยู่
โดยรถไฟจะหยุดที่สถานี JR โอสึมิ โอคาวาระ เป็นเวลา 45 นาที
Photos:363.buratakara.com
พอลงจากรถไฟแล้วจะเห็นรถขายอาหารต่างๆ เรียงรายกันอยู่มากมายนอกอาคารสถานี ทำให้มีโอกาสพบปะกับผู้คนท้องถิ่นด้วย โดยจะมีทั้งชาและอาหารท้องถิ่นที่สามารถรับประทานตรงจุดนั้นได้อีกด้วย
ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ที่ KLOOK
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในจังหวัดมิยาซากิ
ศาลเจ้ามิยาซากิ จิงงุ (Miyazaki Jingu)
ศาลเจ้ามิยาซากิจิงงุเป็นศาลเจ้าอันสวยงามที่ตั้งอยู่ในเมืองมิยาซากิ เป็นจุดอันเงียบสงบที่ล้อมรอบไปด้วยป่าไม้ เหล่านักท่องเที่ยวสามารถเดินชมพื้นที่อันกว้างใหญ่ภายในศาลเจ้า และยังเพลิดเพลินไปกับสถาปัตยกรรมของญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม รวมถึงธรรมชาติอันสวยงามได้อีกด้วยค่ะ
โดยเฉพาะซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้อันสวยงามในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่นี่จึงเป็นสถานที่ยอดนิยมในการถ่ายรูปเป็นอย่างมากเลยค่ะ ขอแนะนำให้กับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสถึงวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเลย
ศาลเจ้ามิยาซากิ จิงงุ
การเดินทาง:ขับรถหรือนั่งแท็กซี่จากสถานี JR มิยาซากิ (JR Miyazaki Station) 10 นาที
อาโอชิมะ (Aoshima)
อาโอชิมะเป็นเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่นอกชายฝั่งเมืองมิยาซากิที่มีความยาวรอบเกาะประมาณ 1.5 กิโลเมตร ถือเป็นจุดชมธรรมชาติอันสวยงามและทิวทัศน์ที่เป็นเอกลักษณ์เลยล่ะค่ะ ที่นี่เป็นที่นิยมสำหรับชาวต่างชาติเลย เพราะว่าจะได้เพลิดเพลินไปกับทะเลและธรรมชาติพร้อมกับสัมผัสถึงบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์ของญี่ปุ่น
มีหินรูปร่างแปลกๆ ล้อมรอบบริเวณเกาะแห่งนี้ โดยหินเหล่านี้เกิดจากการถูกคลื่นกัดเซาะ และที่นี่ได้ถูกเรียกว่า “อ่างล้างหน้าปีศาจ (Oni no Sentakuita)” นั่นเอง เป็นสถานที่ที่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังของธรรมชาติเลยล่ะค่ะ
หากเดินลึกเข้าไปก็จะเจอกับศาลเจ้าอาโอชิมะ ซึ่งเป็นศาลเจ้าอันงดงามและให้พรเกี่ยวกับความรัก ทำให้เป็นศาลเจ้ายอดนิยมสำหรับคนหนุ่มสาวค่ะ
ภายในศาลเจ้าก็จะมีพืชไม้อยู่นานาชนิดที่พบได้ในเขตร้อนชื้น ให้ความรู้สึกเหมือนได้สำรวจป่าประมาณนึงเลย เกาะอาโอชิมะจึงเป็นเกาะที่มีบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ และควรค่าแก่การเยี่ยมชมเป็นอย่างมาก
อาโอชิมะ (Aoshima)
การเดินทาง : นั่งรถไฟจากสถานี JR มิยาซากิ (JR Miyazaki Station) มาที่สถานี JR อาโอชิมะ (JR Aoshima) ประมาณ 30 นาที และเดินต่ออีก 10 นาที
ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ที่ KLOOK
ซันเมสเซนิจินัน (Sun Messe Nichinan)
ที่นี่เป็นสถานที่ที่คุณจะได้เห็นรูปปั้นโมอายของจริง โดยรูปปั้นโมอายนั้นเป็นรูปปั้นที่มีความเกี่ยวข้องกับเกาะอีสเตอร์เป็นอย่างมาก แต่รูปปั้นโมอายของซันเมสเซนิจินันถือเป็นหนึ่งเดียวในโลกที่ได้รับการยอมรับจากเกาะอีสเตอร์ เมื่อได้นำมาเปรียบเทียบความสูงกับต้นมะพร้าวดู มันอาจจะทำให้ดูง่ายขึ้น แต่รูปปั้นโมอายนี้สูงใหญ่มากเลยค่ะ ลองถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับรูปปั้นโมอายดูนะคะ
คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับแนวชายฝั่งและธรรมชาติอันสวยงามได้ อีกทั้งยังมีจุดถ่ายรูปสวยๆ อยู่มากมายอีกด้วย เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพาครอบครัวหรือว่าคนรักมาด้วยกัน เป็นจุดที่ห้ามพลาดในการมาเที่ยวที่มิยาซากิเลยค่ะ
ซันเมสเซนิจินัน (Sun Messe Nichinan)
การเดินทาง : ขับรถจากสถานี JR มิยาซากิ (JR Miyazaki Station) ประมาณ 50 นาที
ศาลเจ้าอูโด จิงงุ (Udo Jingu)
ศาลเจ้านี้เป็นศาลเจ้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งของเมืองนิจินัน จังหวัดมิยาซากิ ตัวศาลเจ้านี้ตั้งอยู่ภายในถ้ำ ซึ่งเหล่านักท่องเที่ยวสามารถฟังเสียงคลื่นทะเลพร้อมกับสัมผัสบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้าได้เลยล่ะค่ะ ที่นี่ถือเป็นสถานที่ที่เหล่าผู้คนมักจะมาขอพรเกี่ยวกับความรักและการให้กำเนิดบุตร โดยเฉพาะการ “โยนลูกบอลเสี่ยงโชค (Fortune Ball Toss)” นั้นเป็นที่นิยมมาก ว่ากันว่าหากขอพรและโยนลูกบอลเสี่ยงโชคลงไปในโพรงหิน มักจะนำพาโชคลาภมาให้ อีกทั้งคุณยังจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมของญี่ปุ่นอันเป็นเอกลักษณ์และสนุกสนานไปกับการถ่ายภาพได้อย่างจุใจอีกด้วยค่ะ ที่นี่จึงเป็นสถานที่ที่แนะนำว่าต้องมาให้ได้ค่ะ!
มีโคมไฟหินรูปกระต่ายน่ารักๆ อยู่มากมายรวมถึงแผ่นคำอธิษฐานเรียงรายกันอยู่ แม้ว่าจะพาเด็กๆ มาเยี่ยมชมด้วยก็จะต้องสนุกอย่างแน่นอนค่ะ
ว่ากันว่าหากโยนลูกบอลหินอุนทามะลงไปในโพรงหินรูปเต่าที่อยู่เชิงผาได้ จะทำให้พรที่ขอมานั้นสมปรารถนา นั่นจึงทำให้เหล่าผู้คนมากมายมาลองโยนหินนี้กัน เราก็ขอแนะนำให้คุณลองโยนหินนี้ดูด้วยนะคะ
ศาลเจ้าอูโด จิงงุ (Udo Jingu Shrine)
การเดินทาง : ขับรถจากสถานี JR มิยาซากิ (JR Miyazaki Station) มาประมาณ 50 นาที
ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ที่ KLOOK
แนะนำเมนูอาหารท้องถิ่นในมิยาซากิ
ร้านอาหารไก่พื้นเมืองมิยาซากิ “กุนเคอิ”
ร้านนี้จะใส่ใจในเมนูอาหารทุกจาน ยิ่งเมนูชื่อดังอย่างเนื้อไก่ซาชิมิ หากไม่ได้รับประทานภายใน 30 นาทีหลังจากนำมาเสิร์ฟให้ความสดของเนื้อไก่ก็จะลดลงจนถูกลดระดับลงไป
เนื้อไก่ซาชิมิจะมีความสดเป็นอย่างมาก และจะไม่มีกลิ่นเหม็นคาวใดๆ ออกมา ตัวเนื้อมีความแน่นและยืดหยุ่น แถมยังมีรสหวานนิดๆ ด้วยค่ะ ในประเทศไทยจะไม่ค่อยมีเนื้อแบบนี้มากเท่าไร เราขอแนะนำให้ลองทานเนื้อที่สดใหม่และอร่อยแบบนี้ดูค่ะ
ในบรรดาเมนูไก่ย่างอย่างเมนู “ซึคุเนะ” นั้นเป็นเมนูที่อร่อยเป็นพิเศษ รวมถึงยังมีเมนูให้เลือกอีกหลากหลายอย่าง “ชีสซึคุเนะ” เช่นกัน ลองมาเพลิดเพลินกับการลิ้มรสชาติอันหลากหลายกันดูเลยค่ะ
เมนูไก่ทอดคาราอาเกะถือเป็นเมนูที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอเลย ตัวเนื้อไก่แน่นและอร่อยเต็มปากเต็มคำมากๆค่ะ
แน่นอนว่าต้องหนีไม่พ้นกับเมนูพิเศษขึ้นชื่อของมิยาซากิอย่างไก่นัมบังค่ะ จริงๆ เมนูไก่นัมบังนี้สามารถหาทานได้ทั่วญี่ปุ่น แต่ไก่นัมบังจากแหล่งท้องถิ่นอย่างมิยาซากินี้ถือว่าเป็นเนื้อไก่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างไปจากภูมิภาคอื่นๆ เมนูนี้ถือเป็นเมนูไก่นัมบังของแท้เลย 🎵
ร้านกุนเคอิ หน้าสถานี JR มิยาซากิ
การเดินทาง : เดินจากสถานี JR มิยาซากิ (JR Miyazaki Station) ระยะทางสั้นๆ
แนะนำโรงแรมในมิยาซากิ:JR Kyushu Hotel Miyazaki
โรงแรมนี้เดินจากทางออกฝั่งตะวันตกของสถานี JR มิยาซากิเพียง 1 นาที ไม่เพียงสะดวกแก่การท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการช็อปปิ้งและการหาเมนูอร่อยๆ ทานอีกด้วย ใครที่มาท่องเที่ยวที่มิยาซากิ ขอแนะนำโรงแรมนี้เลยค่ะ
เป็นห้องพักที่ดูสบายมากเลย ตัวห้องสว่างและกว้างอีกด้วย การจัดวางเฟอร์นิเจอร์อย่างเตียงและโซฟาก็เหมาะมากๆ แม้ว่าจะกางกระเป๋าเดินทางออกแล้ว ก็ยังมีพื้นที่เหลือเฟือในห้องค่ะ
ตัวห้องพักทั้งกว้างและสดใส โดยได้รับแรงบันดาลใจจากทะเลมิยาซากิ และยังมีห้องพักให้เลือกถึง 5 แบบตามวัตถุประสงค์ ห้องพักทุกห้องจะมีห้องน้ำพร้อมพื้นที่ซักล้างและเตียงนอนคุณภาพดีที่จะช่วยให้คุณนอนหลับสบายได้ตลอดทั้งคืน อีกทั้งยังสามารถชมวิวทิวทัศน์ของเมืองมิยาซากิได้อีกด้วยค่ะ
ที่โรงแรมยังมีอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์รวมถึงเมนูอาหารตะวันตกที่ใช้วัตถุดิบจาก 7 จังหวัดในคิวชู โดยจะเน้นวัตถุดิบของมิยาซากิเป็นส่วนใหญ่ สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับการรับประทานอาหารพร้อมกับชมทิวทัศน์ของมิยาซากิที่มีแสงแดดยามเช้าจากโซนประเทศตอนใต้ส่องลงมา แถมยังมีเมนูอาหารท้องถิ่นของมิยาซากิเตรียมไว้ให้อีกมากมายด้วยล่ะค่ะ
JR Kyushu Hotel Miyazaki
การเดินทาง : เดินจากทางออกฝั่งตะวันตกของสถานี JR มิยาซากิ (JR Miyazaki Station) 1 นาที
จองโรงแรมได้ที่ |
||
---|---|---|
จองที่ HOTELS.com | ||
จองที่ BOOKING.COM | ||
จองที่ EXPEDIA | ||
จองที่ AGODA |
ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ที่ KLOOK
การนั่งรถไฟ D&S 36+3 ในการท่องเที่ยวจากคาโกชิมะไปมิยาซากินั้นถือเป็นประสบการณ์พิเศษที่จะทำให้คุณหลงไหลไปกับเสน่ห์ของภูมิภาคคิวชูตอนใต้ได้อย่างเต็มที่ ทัศนียภาพอันงดงามจากหน้าต่างบนรถไฟ การหยุดพักระหว่างทางและสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นจะทำให้การเดินทางนั้นสนุกยิ่งขึ้นไปอีก ที่จังหวัดมิยาซากินั้นก็มีสถานที่ท่องเที่ยวแสนวิเศษอยู่มากมาย ซึ่งจะช่วยมอบประสบการณ์อันล้ำค่าที่หาจากที่ไหนไม่ได้ให้กับคุณได้อย่างแน่นอนค่ะ ลองมาค้นหามนต์เสน่ห์ของภูมิภาคคิวชูตอนใต้ พร้อมกับเดินทางด้วยรถไฟแสนวิเศษจากคาโกชิมะไปมิยาซากิกันดูเลยค่ะ!