เมื่อพูดถึงการเที่ยวญี่ปุ่นในภูมิภาคชูบุ หลาย ๆ คนอาจนึกถึงแต่เมืองนาโกย่า แต่ว่านอกจากเมืองนาโกย่าแล้วจังหวัดไอจิเองก็เป็นขุมทรัพย์แห่งกิจกรรมที่ผสมผสานความสุดยอดเอาไว้ได้อย่างลงตัว! ที่นี่คือศูนย์กลางอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีของญี่ปุ่น แต่ก็ยังคงรักษาเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์อันรุ่งเรืองในสมัยอดีตและวัฒนธรรมอาหารที่เป็นเอกลักษณ์เอาไว้อยู่ บทความนี้ได้รวบรวมกิจกรรมน่าสนใจในจังหวัดไอจิที่ห้ามพลาด เพื่อให้ทริปในภูมิภาคชูบุของคุณเต็มไปด้วยความประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกจนก้าวสุดท้าย ตามเรามาสำรวจกันเลยว่ามีที่ไหนบ้างที่ต้องปักหมุด!
ดูรายละเอียดบัตร JR Pass ได้ที่นี่
จองโรงแรมได้ที่ |
||
|---|---|---|
| จองที่ HOTELS.com | ||
| จองที่ EXPEDIA | ||
| จองที่ AGODA | ||
| จองที่ BOOKING.COM |
สารบัญ
สัมผัสความยิ่งใหญ่แห่งอดีตของปราสาทนาโกย่า
IMG BY : vacation.eztravel
การมาเยือนจังหวัดไอจิจะขาดปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) ไปไม่ได้ เพราะที่นี่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางย้อนเวลาสู่ยุคอดีตของญี่ปุ่น ปราสาทแห่งนี้สร้างโดยโชกุนโทคุกาวะ อิเอยาสุในสมัยเอโดะ ซึ่งนอกจากความยิ่งใหญ่ของป้อมปราการแล้ว สิ่งที่ดึงดูดสายตาคือ “ชาจิโฮโกะ (Shachihoko)” หรือรูปปลาโลมาทองคำคู่ที่ส่องประกายอยู่บนยอดปราสาท ถือเป็นสัญลักษณ์ของปราสาทแห่งนี้
IMG BY : chunichi
แม้ตัวปราสาทหลักจะถูกสร้างขึ้นใหม่ แต่เหล่านักท่องเที่ยวยังสามารถเยี่ยมชมพระราชวังฮอมมารุที่ได้รับการบูรณะใหม่อย่างประณีต จนได้รับยกย่องว่าเป็นหนึ่งในอาคารไม้ที่มีความหรูหราที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยงานตกแต่งด้วยภาพวาดบนแผ่นทองคำอันสวยงาม นอกจากนี้ หากมาในช่วงเวลาที่เหมาะสม จะสามารถชมการแสดงสุดพิเศษจากกลุ่มนักแสดงซามูไรและนินจาในชุดแบบดั้งเดิม ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในอดีตเลยทีเดียว และแน่นอนว่าในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปราสาทนาโกย่ายังเป็นจุดชมซากุระชั้นเยี่ยมที่ห้อมล้อมด้วยความงามของดอกไม้สีชมพูอีกด้วย
การเดินทาง
หากเดินทางมาที่สถานี JR Nagoya สามารถนั่งรถบัสจากสถานีไปประมาณ 20 นาที
หากนั่งรถไฟสาย Meijo มาลงที่สถานี Nagoyajo เมื่อออกจากสถานีแล้วให้เดินประมาณ 5 นาที
ชมพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า
IMG BY : aichinow.pref.aichi
สำหรับผู้ที่หลงใหลในเทคโนโลยีและนวัตกรรม พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า (Toyota Commemorative Museum of Industry and Technology) เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดในจังหวัดไอจิ โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในอาคารอิฐแดงเก่าแก่ ซึ่งเคยเป็นโรงงานต้นแบบในการวิจัยและพัฒนาเครื่องทอผ้าอัตโนมัติของผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัทโตโยต้า ซึ่งการจัดแสดงแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก
หอจัดแสดงเครื่องจักรสิ่งทอ
IMG BY : aichinow.pref.aichi
เหล่าผู้มาเยือนจะได้เห็นการสาธิตการทำงานของเครื่องจักรต่าง ๆ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าอัจฉริยภาพในการคิดค้นกลไกของบริษัทโตโยต้าไม่ได้เริ่มต้นที่รถยนต์ แต่มาจากอุตสาหกรรมสิ่งทอ
หอจัดแสดงยานยนต์
IMG BY : nagoya-info
หอจัดแสดงยานยนต์นี้จะนำเสนอการเปลี่ยนผ่านจากเครื่องทอผ้าสู่การผลิตรถยนต์ โดยจัดแสดงตั้งแต่รถยนต์โตโยต้ารุ่นแรกที่เป็น Model AA ไปจนถึงการจำลองกระบวนการผลิตทั้งหมด ตั้งแต่การปั๊มตัวถัง การประกอบ ไปจนถึงการใช้หุ่นยนต์ที่ล้ำสมัยในสายการผลิตปัจจุบัน
IMG BY : ossanslife.tokyo
และที่พลาดไม่ได้คือโซน เทคโนแลนด์ (Technoland) พื้นที่กิจกรรมที่ให้เด็ก ๆ และผู้ใหญ่สามารถเรียนรู้หลักการทางวิทยาศาสตร์และกลไกการผลิตผ่านเกมและการทดลอง เป็นกิจกรรมที่เติมเต็มความรู้และสนุกสนานสำหรับทริปครอบครัวในภูมิภาคชูบุได้เป็นอย่างดี
การเดินทาง
นั่งรถไฟสาย Inuyama มาลงที่สถานี Sako และเดินต่อประมาณ 3 นาที
ชมพิพิธภัณฑ์เมจิมูระ
IMG BY : aichinow.pref.aichi
พิพิธภัณฑ์เมจิมูระ (Museum Meiji-Mura) เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่มีความโดดเด่นและมีผู้เข้าชมมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น โดยพิพิธภัฑณ์แห่งนี้จะตั้งอยู่ที่เมืองอินุยามะในจังหวัดไอจิ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้เก็บรักษาสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นจากในยุคเมจิ (ค.ศ. 1868 – 1912) ซึ่งเป็นยุคแห่งการปฏิรูปครั้งยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น โดยสถาปัตยกรรมในช่วงเวลานี้จึงมีการผสมผสานระหว่างเทคนิคการก่อสร้างแบบตะวันตก ที่มาพร้อมกับองค์ประกอบดั้งเดิมของญี่ปุ่นอย่างลงตัว
IMG BY : inuyama
บริเวณรอบ ๆ พิพิธภัณฑ์ ผู้มาเยือนสามารถโดยสารรถจักรไอน้ำและรถรางเกียวโตที่ยังคงใช้งานได้จริง เพื่อเดินทางไปยังส่วนต่าง ๆ ของพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่นี้ รวมถึงมีบริการให้เช่าชุดประจำในยุคเมจิ เช่น ชุดฮากามะ (Hakama) หรือชุดนักเรียนหญิง ทำให้การถ่ายรูปที่ระลึกดูน่าประทับใจยิ่งขึ้น และอาคารเก่าบางหลังได้ถูกดัดแปลงเป็นร้านอาหารต่าง ๆ ที่จำหน่ายเมนูอาหารและขนมสูตรดั้งเดิมจากญี่ปุ่นยุคเมจิ
การเดินทาง
ให้นั่งรถไฟสาย Inuyama มาลงที่สถานี Inuyama และต่อรถบัสจากสถานีประมาณ 25 นาที
ดูรายละเอียดบัตร JR Pass ได้ที่นี่
จองโรงแรมได้ที่ |
||
|---|---|---|
| จองที่ HOTELS.com | ||
| จองที่ EXPEDIA | ||
| จองที่ AGODA | ||
| จองที่ BOOKING.COM |
โครันเคย์ จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ดีที่สุดของภูมิภาคชูบุ
IMG BY : ppap.kinto-jp
หากคุณวางแผนเดินทางไปญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี และต้องการมองหาสถานที่ชมใบไม้แดงระดับพรีเมียมในภูมิภาคชูบุ โครันเคย์ถือเป็นสถานที่ที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง หุบเขาแห่งนี้เป็นแหล่งเหล่าพืชที่มีใบไม้เปลี่ยนสีหลายพันต้น โดยเมื่อถึงฤดู ใบไม้เหล่านี้จะพร้อมใจกันเปลี่ยนสีเป็นสีแดง ส้ม และทอง ในช่วงกลางถึงปลายเดือนพฤศจิกายน จุดที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นสัญลักษณ์ของโครันเคคือ “สะพานไทเก็ตสึเคียว” ซึ่งสะพานไม้สีแดงที่ทอดข้ามแม่น้ำโทโมเอะ ซึ่งเป็นฉากหลังสำหรับการถ่ายภาพที่งดงามราวภาพวาด
IMG BY : asuke
ความพิเศษของที่นี่คือ การจัดเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีพร้อมกิจกรรมประดับไฟยามค่ำคืน ทำให้เหล่านักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำกับทิวทัศน์ของใบไม้สีแดงที่ส่องสว่างในความมืดได้อย่างดี นอกจากวิวสวยแล้ว อย่าลืมลิ้มลองขนมท้องถิ่นอย่าง “โกเฮโมจิ” ที่มีขายอยู่ตามร้านค้าเพื่อเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีกัน
การเดินทาง
นั่งรถไฟสาย Meitetsu Toyota มาลงที่สถานี Toyotashi และต่อรถบัสจากสถานีประมาณ 45 นาที
ชมวิวของเมืองที่หอคอยฮิกาชิยามะ สกาย ทาวเวอร์
IMG BY : aichinow.pref.aichi
หอคอยชมวิวฮิกาชิยามะ สกาย ทาวเวอร์ ตั้งอยู่ในเมืองนาโกย่า เป็นจุดชมวิวที่น่าสนใจและเป็นส่วนหนึ่งของสวนสัตว์และสวนพฤกษศาสตร์ฮิกาชิยามะ เหล่านักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพแบบพาโนรามา 360 องศา ของเมืองนาโกย่า ในวันที่อากาศแจ่มใสจะสามารถมองเห็นได้ไกลไปถึงภูเขาองทาเกะและภูเขาสึซึกะเลยทีเดียว
IMG BY : knt
วิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเมืองนาโกย่าจากบนหอคอยก็เป็นที่นิยมมาก เพราะเหล่าผู้มาเยือนจะได้รับชมทิวทัศน์ของแสงไฟอันสวยงามที่ส่องมาจากอาคารต่าง ๆ สร้างเป็นบรรยากาศสุดโรแมนติก นอกจากนี้ ภายในหอคอยก็ยังมีร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหารคอยให้บริการอยู่อีกด้วย
การเดินทาง
นั่งรถไฟสาย Higashiyama มาลงที่สถานี Hoshigaoka และเดินต่อประมาณ 10 นาที
สนุกกับการช็อปปิ้งในย่านโอสึ
IMG BY : nagoya-info
โอสึมีประวัติยาวนานกว่า 400 ปี ซึ่งปัจจุบันนี้ได้กลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ที่มีร้านค้าและร้านอาหารมากกว่า 1,200 แห่ง โดยที่นี่เองก็ถูกเรียกว่าอากิฮาบาระแห่งชูบุ เพราะมีร้านขายของเล่น และสินค้าเกี่ยวกับอนิเมะและเกมอยู่มากมาย จึงไม่น่าแปลกใจที่จะได้เห็นผู้คนแต่งคอสเพลย์เป็นตัวละครอนิเมะหรือเกมชื่อดัง อีกทั้งที่นี่ก็ยังเป็นแหล่งรวมสินค้าเกี่ยวกับแฟชั่นต่าง ๆ
IMG BY : r.gnavi
ในย่านโอสึยังถือเป็นสวรรค์ของนักชิมอีกด้วย เพราะที่นี่จะเต็มไปด้วยร้านอาหารและสตรีทฟู้ดที่หลากหลาย ตั้งแต่ของกินเล่นริมทางอย่างทาโกะยากิ คาราอาเกะ เครปญี่ปุ่น ไปจนถึงร้านอาหารท้องถิ่นของนาโกย่าและร้านอาหารนานาชาติ อีกทั้งยังมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่นอย่างวัดโอสึคันนน (Osu Kannon Temple) ที่เป็นเสมือนเสาหลักของย่านนี้ ภายในวัดเองก็จะมีการจัดงานตลาดนัดขายของเก่าทุกวันที่ 18 และ 28 ของทุกเดือน
การเดินทาง
นั่งรถไฟสาย Meijo มาลงที่สถานี Kamimaezu และเดินต่อประมาณ 5 นาที
ดูรายละเอียดบัตร JR Pass ได้ที่นี่
จองโรงแรมได้ที่ |
||
|---|---|---|
| จองที่ HOTELS.com | ||
| จองที่ EXPEDIA | ||
| จองที่ AGODA | ||
| จองที่ BOOKING.COM |
จังหวัดไอจิถือเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์และปราสาทอันยิ่งใหญ่ หลงใหลในเทคโนโลยีสมัยใหม่ หรือต้องการลิ้มลองรสชาติอาหารท้องถิ่นที่ไม่เหมือนใคร จังหวัดไอจิก็พร้อมมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับนักเดินทางทุกรูปแบบ หากคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่ผสมผสานเสน่ห์แบบดั้งเดิมเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว จังหวัดไอจิเองก็เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดอย่างแรง ลองมาวางแผนการเดินทางครั้งต่อไปสู่ศูนย์กลางแห่งภูมิภาคชูบุแห่งนี้กันเลย















