ภูเขาโยเทย์ (Mount Yotei) หรือที่รู้จักอย่างเด่นชัดในชื่อ “เอโซะ ฟูจิ (Ezo Fuji)” เป็นภูเขาไฟสลับชั้นที่สวยงามตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติชิคตสึโทยะในฮอกไกโด ภูเขาไฟเป็นภาพที่สะดุดตาและเป็นสัญลักษณ์ทางธรรมชาติที่โดดเด่นของภูมิภาคนี้ ชื่อ “Yotei” แปลว่า “กีบแกะ” ซึ่งบอกเป็นนัยถึงความคล้ายคลึงกับกีบเมื่อมองจากมุมต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ความคล้ายคลึงกับภูเขาไฟฟูจินั้นไม่อาจปฏิเสธได้และได้รับฉายาว่า “เอโซะ ฟูจิ” โดยที่ “เอโซะ” เป็นชื่อเก่าของฮอกไกโดนั่นเอง
ประวัติของภูเขาโยเทย์
IMG BY : en.japantravel
ภูเขาโยเทย์เป็นส่วนหนึ่งของเขตภูเขาไฟชิชิมะซึ่งทอดยาวตั้งแต่หมู่เกาะคูริลไปจนถึงเกาะฮอกไกโด รูปทรงกรวยที่สมมาตรของภูเขาไฟบ่งชี้ว่าเป็นภูเขาไฟผสมหรือภูเขาไฟสลับชั้น ซึ่งประกอบด้วยชั้นลาวาที่แข็งตัว ภูเขาไฟ และเถ้าภูเขาไฟสลับชั้นกัน โดยมีระดับความสูง 1,898 เมตร (6,227 ฟุต) เหนือระดับน้ำทะเล นับเป็นจุดที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติชิคตสึโทยะ ความแตกต่างของสภาพอากาศที่นี่ส่งเสริมการพัฒนาของระบบนิเวศที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งเป็นที่อยู่ของพืชและสัตว์ต่าง ๆ หลายชนิดที่พบบนภูเขาโยเทย์ มีลักษณะเฉพาะ ทำให้ภูเขาไฟเป็นพื้นที่สำคัญต่อการอนุรักษ์ระบบนิเวศ
ภูมิศาสตร์ของภูเขายังให้ทัศนียภาพที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ในวันที่อากาศแจ่มใส ทิวทัศน์จากยอดเขาโยเทย์นั้นจะสวยงามอย่างมาก โดยจะมอบทัศนียภาพแบบพาโนรามาของภูมิทัศน์โดยรอบ เช่น เมืองซัปโปโร ทะเลสาบโทยะ และแม้แต่ที่ห่างไกลอย่างทะเลญี่ปุ่น ภาพมุมกว้างนี้ทำให้ภูเขาโยเทย์เป็นจุดหมายปลายทางที่พึงปรารถนาสำหรับนักปีนเขาและผู้รักธรรมชาติ
IMG BY : en.japantravel
การถือกำเนิดของยุคเมจิในปลายศตวรรษที่ 19 ทำให้การรับรู้เกี่ยวกับภูเขาโยเทย์เปลี่ยนไป เมื่อญี่ปุ่นเปิดรับโลกตะวันตก งานอดิเรกแบบตะวันตก เช่น การปีนเขาเริ่มได้รับความนิยม ภูเขาโยเทย์เริ่มดึงดูดนักผจญภัยที่ชื่นชอบความท้าทาย จนถึงทุกวันนี้เป็นสถานที่เดินป่ายอดนิยมในช่วงฤดูร้อน และในฤดูหนาวภูเขาโยเทย์เองก็เป็นสถานที่โปรดของผู้ชื่นชอบกีฬาฤดูหนาวอีกด้วย ทางลาดของภูเขาไฟมีสภาพที่ดีเยี่ยมสำหรับการเล่นสกีและสโนว์บอร์ด โดยพื้นที่จะมีหิมะตกหนัก ซึ่งเป็นลักษณะทั่วไปของสภาพอากาศในฤดูหนาวของฮอกไกโด ที่นิเซโกะที่อยู่ใกล้เคียงซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในสกีรีสอร์ทชั้นนำของญี่ปุ่นนั้นสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาโยเทย์ได้ดีเลยทีเดียว
ภูเขาโยเทย์ไม่ได้เป็นเพียงภูเขาแต่เป็นสัญลักษณ์ของความงามตามธรรมชาติ แต่ระบบนิเวศที่หลากหลายและประวัติศาสตร์อันยาวนานมีส่วนสำคัญต่อภูมิประเทศของญี่ปุ่น ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ และคงสถานะเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางธรรมชาติอันล้ำค่าของญี่ปุ่น