IMG BY : wamazing
ภูเขาไฟฟูจิได้รับการยอมรับว่าเป็น “วัตถุแห่งศรัทธาและแหล่งสร้างแรงบันดาลใจของงานศิลปะ” ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 2013 ทิวทัศน์บริเวณโดยรอบจากระยะไกล หรือเหนือทะเลสาบนั้นสวยงามมาก ยิ่งถ้าได้ลองสัมผัสประสบการณ์การปีนเขาและชมพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดเขาก็แทบจะเป็นประสบการณ์ที่ไม่อาจบรรยายได้
สารบัญ
- ภูเขาไฟฟูจิที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
- รับชมทิวทัศน์ที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นได้จากบนยอดเขา
- สนุกกับการปีนภูเขาไฟฟูจิ
- สนุกกับการเดินชมปล่องภูเขาไฟ
- เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งและอาหารเลิศรส
- เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงามของภูเขาไฟฟูจิจากทะเลสาบฟูจิทั้ง 5
- เสน่ห์ของภูเขาไฟฟูจิที่ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชม
- การเดินทาง
ภูเขาไฟฟูจิที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
IMG BY : jw-webmagazine
ภูเขาไฟฟูจิมีระดับความสูงอยู่ที่ 3,776 เมตร และเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ในปี 2013 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม และได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นและวัฒนธรรมญี่ปุ่น ไม่เพียงแต่ภูเขาไฟฟูจิเท่านั้นแต่ยังรวมถึงศาลเจ้า เส้นทางบนภูเขา และทะเลสาบโดยรอบที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย ตัวภูเขาไฟเกิดการปะทุหลายครั้งจนสัมผัสได้ถึงความงามของธรรมชาติที่ถูกสร้างขึ้นมานานหลายปี
รับชมทิวทัศน์ที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นได้จากบนยอดเขา
IMG BY : travelpeanuts
การชมพระอาทิตย์ขึ้นจากบนยอดเขา และการยืนอยู่บนจุดสูงสุดในญี่ปุ่นและชมทิวทัศน์ต่าง ๆ ถือเป็น 1 ในส่วนที่ดีที่สุดของภูเขาไฟฟูจิ แสงที่ค่อย ๆ ลอดผ่านช่องว่างในทะเลเมฆนั้นสวยงามเป็นอย่างมาก นักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนก็พยายามปีนภูเขาไฟฟูจิเพียงเพื่อที่จะได้เห็นภาพนี้ นอกจากยอดเขาแล้ว ภูเขาฟูจิ ยังมีสถานที่หลายแห่งที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นได้อีกด้วย ดังนั้น บนยอดเขาจะคับคั่งไปด้วยผู้คนในตอนเช้า
สนุกกับการปีนภูเขาไฟฟูจิ
IMG BY : travelroad
การปีนภูเขาไฟฟูจิเป็นที่นิยมในหมู่นักปีนเขา แม้ว่าจะยากเย็นแต่ทิวทัศน์จากยอดเขาและความรู้สึกถึงความสำเร็จที่ได้ขึ้นมานั้นคุ้มค่าเป็นอย่างมาก เส้นทางปีนเขาจะมีอยู่ 4 เส้นทาง ได้แก่ โยชิดะ ฟูจิโนมิยะ ซูบาชิริ และโกเท็มบะ โดยแต่ละเส้นทางก็มีเอกลักษณ์และเสน่ห์ในตัวเอง ซึ่งสามารถเลือกเส้นทางได้อย่างอิสระ นอกจากนี้ อุณหภูมิระหว่างฐานและยอดภูเขาไฟฟูจิมีความแตกต่างกันถึง 20°C หากต้องการจะปีนเขาก็ขอให้เตรียมตัวให้พร้อม!
สนุกกับการเดินชมปล่องภูเขาไฟ
IMG BY : tabicoffret
หากเดินไปถึงยอดเขาแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการเดินสำรวจรอบปล่องภูเขาไฟได้ โดยจะมีทางเดินไปรอบ ๆ เส้นทาง 3 กิโลเมตร พร้อมภาพของปล่องภูเขาไฟที่เคยปะทุซ้ำแล้วซ้ำเล่าในอดีต ระหว่างทางจะมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้ชม เช่น เคนกามิเนะ ศาลเจ้าคุซูชิ ที่ทำการไปรษณีย์บนยอดเขา และฟูจิโอคุมิยะ
เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งและอาหารเลิศรส
IMG BY : fujiyoshida
เส้นทางปีนเขาฟูจิแต่ละเส้นทางจะมีร้านค้าและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อยู่ โดยเฉพาะฝั่งเส้นทางโยชิดะนั้นเต็มไปด้วยร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกมากมาย ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการช็อปปิ้ง นักท่องเที่ยวจึงสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามมองเห็นทะเลหมอกได้อย่างเต็มที่พร้อมกับลิ้มรสอาหารรสเลิศจากร้านอาหารต่าง ๆ รวมถึงช็อปปิ้งของที่ระลึกที่มีเฉพาะที่นี่ที่เดียวได้อย่างเต็มที่
เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงามของภูเขาไฟฟูจิจากทะเลสาบฟูจิทั้ง 5
IMG BY : tc.tabirai
มีทะเลสาบ 5 แห่งที่อยู่เชิงภูเขาไฟฟูจิ และจากรอบ ๆ ทะเลสาบเหล่านี้ จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาไฟฟูจิ เช่น พระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกเหนือยอดเขา และทิวทัศน์ของรอบ ๆ ที่แตกต่างกันตามฤดูกาล ทะเลสาบโมโตสุและทะเลสาบยามานากะมีทิวทัศน์ที่สวยงามและเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพ นอกจากนี้ ทุกฤดูร้อนจะมีการแสดงดอกไม้ไฟที่ทะเลสาบคาวากุจิ ทะเลสาบแต่ละแห่งมีมุมในการชมภูเขาไฟฟูจิที่แตกต่างกัน หากใครที่ชื่นชอบการถ่ายภาพสวย ๆ ก็ควรลองมาถ่ายภาพภูเขาไฟฟูจิกับทะเลสาบเหล่านี้ดู
เสน่ห์ของภูเขาไฟฟูจิที่ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชม
IMG BY : hq-yamanashi
ภูเขาไฟฟูจิถือเป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น ซึ่งแน่นอนว่าหลาย ๆ คนย่อมต้องรู้จักชื่อนี้เป็นอย่างดี ภูเขาไฟฟูจินั้นถือเป็นภูเขาที่เหล่านักท่องเที่ยวนิยมเดินทางเข้ามาและปีนขึ้นไปถึงยอดเขา แม้ว่าจะเหนื่อยเพียงใด แต่รางวัลที่ได้นั้นคุ้มค่าเป็นอย่างมาก เพราะจะได้พบกับทิวทัศน์ที่หาจากที่ไหนไม่ได้อีก นอกจากนี้รอบ ๆ ภูเขาไฟฟูจิเองก็ยังมีทิวทัศน์ที่สวยงามไม่แพ้กัน โดยเฉพาะทะเลสาบทั้ง 5 ของภูเขาไฟฟูจิก็เป็นจุดเช็คอินที่เหล่านักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปด้วยเช่นกัน
การเดินทาง
หากใครต้องการที่จะปีนเขา หรือรับชมทิวทัศน์จากภูเขาไฟฟูจิสามารถนั่งรถบัสท้องถิ่น แท็กซี่ หรือจะเช่ารถขับไปที่สถานี Mt.Fuji 5th โดยเราขอแนะนำให้ขึ้นรถบัส Keio Highway-Buses จากสถานี JR Shinjuku มาลงที่นี่ได้ โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที