คันโต

แนะนำสวนดอกไม้ Ashikaga Flower Park ในภูมิภาคคันโต (Kanto)



IMG BY : www.ashikaga.co.jp/season/season03.html

เกี่ยวกับสวนดอกไม้อาชิคางะ (Ashikaga Flower Park)

สวนดอกไม้อาชิคางะ (Ashikaga Flower Park) เป็นสวนดอกไม้ที่มีชื่อเสียงในจังหวัดโทชิงิ (Tochigi) เป็นหนึ่งในสวนดอกวิสทีเรียที่สวยงามและอลังการที่สุดของประเทศญี่ปุ่น บนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 60 ไร่ หรือ ประมาณ 1,000 ตารางเมตร
ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมาชมดอกไม้นานาชนิดได้ตลอดทั้งปี แต่สวนนี้จะมีไฮไลท์ในช่วงกลางเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม คือ เทศกาลดอกวิสทีเรีย A Tale of the Wisteria “The Great Wisteria Festival” ทีสามารถชมดอกวิสทีเรียหรือดอกฟูจิกำลังบานสะพรั่ง อุโมงค์ต้นวิสทีเรียยาวเกือบ 100 เมตร และต้นวิสทีเรียขนาดใหญ่ยักษ์ ที่มีอายุกว่า 160 ปี โดยสวนแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ เมืองอาชิคางะ(Ashikaga) จังหวัดโทชิกิ(Tochigi) ซึ่งห่างจากโตเกียวประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น
สำหรับใครที่ไปเที่ยวแถบโตเกียว (Tokyo) ช่วงตอนประมาณปลายเดือนเมษายน – ต้นเดือนพฤษภาคม ก็อย่าลืมเพิ่มสวนนี้เข้าไปในโปรแกรมการท่องเที่ยวด้วยนะคะ รับรองว่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกที่หนึ่งที่จะต้องสวยถูกใจอย่างแน่นอนค่ะ

IMG BY : www.tokyoweekender.com/travel/

ต้นวิสทีเรียของสวนอาชิคางะ จะมีการทำตัวค้ำยันไว้เหนือหัว แล้วจะปล่อยให้ดอกห้อยลงมาจากกิ่งเป็นพวงทำให้เกิดเป็นทางเดินใต้ดอกวิสทีเรียหลากหลายสี เช่น สีม่วง, สีขาว, สีเหลือง และสีชมพู ถ้าต้นไหนอายุมากก็จะยิ่งแผ่รัศมีของกิ่งก้านออกไปได้ไกลมากหลายสิบเมตรเลยทีเดียว โดยเฉพาะต้นวิสทีเรียที่เก่าแก่ที่สุดของสวนนี้ มีอายุมากกว่า 140 ชื่อว่า “Great Miracle Wisteria” ที่ดูยิ่งใหญ่อลังการมากทีเดียว ซึ่งในช่วงพีคจะเปิดจนถึงดึกและมีการเปิดไฟส่องที่ดอกและต้นของวิสทีเรียด้วย ทำให้ได้บรรยายกาศการชมที่แตกต่างออกไปจากตอนกลางวันอีก

นอกจากอุโมงค์ต้นวิสทีเรียที่มีอยู่มากมายภายใน Ashikaga Flower Park นี้แล้ว ก็ยังมีการจัดสวนในโซนต่างๆอีกมากมายให้เดินชมกัน เช่น การสร้างพีรามิดดอกไม้ลอยอยู่กลางสระน้ำ, โดมดอกไม้, น้ำตกจำลอง และสระน้ำมากมายในสวนที่สะท้อนเอาสีสันของดอกไม้ต่างๆลงไปในน้ำด้วย

มารู้จักกับดอกไม้ต่างๆตามฤดูกาล ที่บานตลอดทั้งปี

สวนดอกไม้อาชิคางะ (Ashikaga Flower Park) มีดอกไม้ผลัดกันผลิบานตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะมาฤดูไหนก็จะได้ชมความสวยงามที่ต่างบรรยากาศกันไป ดังนี้

Heralding spring (บานช่วงต้นมกราคมถึงปลายกุมภาพันธ์)

ช่วงปลายฤดูหนาว สเน่ห์อยู่ที่ดอกไม้จะผลิบานท่ามกลางหิมะหนาวเย็น จึงมีดอกบ๊วยสีแดงและสีเหลืองแต่งแต้มสีสันสดใสให้ชมกัน

IMG BY : www.tokyoweekender.com/travel/

Spring flower festival (บานช่วงต้นมีนาคมถึงกลางเมษายน)

ทิวลิป ไฮไลท์ของฤดูนี้ บานเต็มที่ช่วงต้นมีนาคมถึงกลางเมษายน ทิวลิปหลากสีกว่า 20,000 ต้นจะบานทั่วบริเวณที่ปลูกโดยไล่สีไว้อย่างสวยงาม


ซากุระ ดอกไม้อันเป็นสัญลักษณ์ประจำฤดูใบไม้ผลิ บานช่วงปลายมีนาคมถึงต้นเมษายน นอกจากนี้ยังมียูกิยานางิ ดอกไม้สีขาวห้อยระย้าเป็นพวง เป็นความสวยงามที่คนไทยน่าจะไม่ค่อยได้เห็น


IMG BY : www.tokyoweekender.com/travel/

Wisteria story (บานช่วงกลางเมษายนถึงกลางพฤษภาคม)

มาถึงฤดูที่เป็นไฮไลท์เด็ดของสวนที่จะเรียกว่าเป็นภาพจำของสวนนี้ก็คงไม่ผิด กับเทศกาลดอกวิสทีเรียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง พบกับวิสทีเรียสีม่วง ชมพู ขาว และเหลือง งดงามราวกับอยู่ในนิทาน
ช่วงพีคของดอกวิสทีเรียอยู่ในช่วงกลางเมษายนถึงกลางพฤษภาคม
นอกจากดอกวิสทีเรียแล้ว นี่ยังเป็นหน้าของดอกอาซาเลียอีกด้วย ซึ่งจะบานกลางเมษายนถึงต้นพฤษภาคม




IMG BY : www.ashikaga.co.jp/season/season03.html

บรรยากาศตอนกลางคืน ก็สวยงามไม่แพ้กันค่ะ




IMG BY : www.tokyoweekender.com/travel/

Rainbow garden (บานช่วงกลางพฤษภาคมถึงต้นมิถุนายน)

กลางพฤษภาคมถึงมิถุนายนคือ ฤดูกาลของกุหลาบค่ะ กุหลาบกว่า 2,500 จะบานสะพรั่งเต็มบริเวณที่จัดไว้อย่างสวยงาม ทั้งสวนพร้อมศาลาและซุ้มกุหลาบ นอกจากนี้ยังมีกุหลาบพันปีและเคลมาทิสอีกด้วย



IMG BY : www.ashikaga.co.jp/season/season04.html

Blue&white garden (บานช่วงมิถุนายน)

ไฮเดรนเยียที่จะบานในช่วงฤดูฝนกว่า 1,500 ต้นและไอริสอีกกว่า 200,000 ต้นจะพากันเบ่งบาน ระบายให้ทั่วบริเวณกลายเป็นสีฟ้าๆ ขาวๆ แซมด้วยสีม่วงดูเย็นตา



IMG BY : www.ashikaga.co.jp/season/season05.html

Water nymphs (บานช่วงต้นกรกฎาคมถึงปลายกันยายน)

ดอกบัวราว 1,500 ดอกที่ชูก้านผลิบานเหนือน้ำ แต่งแต้มสีสันให้กับสระน้ำ ไม่ว่าจะเป็นสีขาว เหลือง ชมพู และม่วง




IMG BY : www.tokyoweekender.com/travel/

Purple garden (ต้นตุลาคมถึงปลายพฤศจิกายน)

มาถึงฤดูใบไม้ร่วงก็ถึงเวลาของดอก Amethyst sage กว่า 300,000 ต้นที่ย้อมทั้งทุ่งให้เป็นสีม่วงพาสเทล





IMG BY : www.ashikaga.co.jp/season/season07.html

Ashikaga Flower Park Illumination

เป็นเทศกาลประดับไฟ Bejeweled Flower Garden ที่จัดขึ้นในช่วงปลายตุลาคมถึงต้นกุมภาพันธ์ของทุกปี
งานประดับไฟนี้คือ 1 ใน 3 งานประดับไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เนรมิตดอกไม้ต่างๆ ให้ส่องแสงระยิบระยับในฤดูหนาวด้วยหลอดไฟ ไม่ว่าจะเป็นดอกวิสทีเรีย ดอกบัว ดอกกุหลาบ และอื่นๆ
การประดับไฟจะเปลี่ยนไปตามช่วงเทศกาลต่างๆ โดยในธีมช่วงคริสต์มาสจะสวยงามแบบแฟนตาซีมากๆ




IMG BY : www.ashikaga.co.jp/season/season08.html

สวนดอกไม้อาชิคางะ(Ashikaga Flower Park) แห่งนี้ยังเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่มีบรรยากาศคล้ายกับฉากในเรื่อง “ดาบพิฆาตอสูร” ที่เต็มไปด้วยดอกฟูจิ ซึ่งก็คือดอกวิสทีเรียนั่นเอง แฟนๆ ดาบพิฆาตอสูร อย่าลืมมาเที่ยวตามรอยถ่ายภาพสวยๆ เป็นที่ระลึกกันนะคะ

ข้อมูลอื่นๆ

พิกัด


ที่อยู่ : 607 Hasama, Ashikaga,Tochigi 329-4216
TEL : 0284-91-4939  FAX : 0284-91-4587

เว็บไซต์

www.ashikaga.co.jp/thailand/

การเดินทาง

นั่งรถไฟ JR ไปลงที่สถานี Ashikaga Flower Park แล้วเดินต่ออีก 6 นาที

วันและเวลาทำการ

เปิดให้บริการตลอดทั้งปี เวลา 9:30 – 18:00 น.
(ช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาว เปิดเวลา 10:00 – 17:00 น.)

ค่าเข้าชม


※ สำหรับหมู่คณะ (20 ท่านขึ้นไป) ได้รับส่วนลด 10%
※ ค่าบริการ เด็ก อายุ 4 ขวบจนถึงระดับประถมศึกษา
สามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ www.ashikaga.co.jp/thailand/

Pick up


บทความแนะนำ

  1. เพลิดเพลินไปกับซากุระที่เกียวโต แนะนำสถานที่ชมดอกไม้ เครื่องแต่งกายและโรงแรมที่ใกล้กับสถานที่ชมดอกไม้

  2. แนะนําสถานที่ชมดอกไม้ในภูมิภาคกลางและตะวันตกของญี่ปุ่น

  3. แนะนำ 10 เทศกาลน่าสนใจในญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ผลิ อากาศเย็นสบาย เหมาะกับการท่องเที่ยวแบบชิลๆ

บทความล่าสุด

  1. เมนูอาหารยอดฮิตประจำฟุกุโอกะ ไปเยือนแล้วก็ต้องลอง!!

  2. แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดฟุกุโอกะที่ใกล้กับสถานีรถไฟ JR

  3. แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองโกเบที่ใกล้กับสถานีรถไฟ JR

  4. แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดคานากาวะที่ใกล้กับสถานีรถไฟ JR

  5. เพลิดเพลินไปกับการท่องเที่ยวในเมืองคานาซาวะ เพลิดเพลินไปกับความงดงามของเมืองและสัมผัสถึงประวัติศาสตร์

  6. JR Hokuriku Arch Pass แนะนำพร้อมอธิบายรายละเอียดของตั๋ว

  7. แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในนาโกย่า ศูนย์กลางของภูมิภาคชูบุที่ต้องลองมาเยือน

  8. ชมธรรมชาติอันสวยงามกันได้ที่เมืองอาซาฮิคาวะ (Asahikawa) ฟุราโนะ (Furano) และบิเอ (Biei)

  9. JR Central Rail Pass แนะนำพร้อมอธิบายรายละเอียดของตั๋ว

  10. แนะนำเมนูแสนอร่อยของภูมิภาคฮอกไกโด ไปเยือนทั้งที ไม่ควรพลาด

TOP