ทางตะวันตกของเกาะฮอนซู ยังมีภูมิภาคหนึ่งที่เราสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสความญี่ปุ่นได้โดยแท้ พื้นที่แห่งเรียกว่าภูมิภาคชูโงกุ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ติดกับธรรมชาติ และติดทะเลด้วย ใครที่มาถึงญี่ปุ่น แนะนำว่าจะต้องลองเดินทางมาที่แห่งนี้ เพราะมีแลนมาร์คมากมายให้เราได้เลือกเช็คอิน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เรียกได้ว่าเราจะได้เห็นถึงความเจริญของญี่ปุ่นในสมัยก่อน ว่าที่นี่มีความเจริญรุ่งเรืองมากเพียงใด สิ่งที่น่าสนใจของชูโงกุ ก็คงจะเป็นอาหารท้องถิ่น ที่หารับประทานได้ยาก รวมถึงแลนมาร์คที่ต่างๆที่เราจะพาทุกคนไปแนะนำ เพื่อจะตัดสินใจว่าไปชูโงกุคราวนี้ จะต้องไปสัมผัสสถานที่ดีดี และเช็คอินในจุดไหนได้บ้าง
สารบัญ
วัดรูริโคจิ
IMG BY : byfood
วัดดังที่ใครหลายคนต่างก็ต้องเดินทางมาที่นี่ เพราะเป็นวัดที่สวยงาม มีเจดีย์ที่ใหญ่มากและสวยงามมาก เป็นวัดที่มีความเก่าแก่ จุดเด่นของวัดรูริโคจิ ก็คือมีเจดีย์ 5 ชั้น ที่สูงมากๆ สูงถึง 31 เมตร เป็นจุดเด่นในวัดที่เราจะเห็นได้ชัดและเห็นมาแต่ไกล นอกจากเป็นวัดที่มีเจดีย์ที่เก่าแก่สวยงามแล้ว ที่นี่ยังเป็นสถานที่สำหรับศึกษาเรื่องราวของเจดีย์ในญี่ปุ่นอีกด้วย มาเที่ยวที่นี่ได้ทั้งความสุขและความรู้กลับไปในคราวเดียวกัน นักท่องเที่ยวสามารถศึกษาพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กภายในวัดได้ มีการจำลองโมเดลของเจดีย์ขนาดเล็กเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ดูและศึกษา ฤดูที่นักท่องเที่ยวนิยมมาที่นี่ก็คือ “ฤดูใบไม้ผลิ” เพราะว่าจะมีใบไม้สวยงาม และดอกซากุระที่เบ่งบานได้ที่ ทำให้วัดรูริโคจิแห่งนี้มีความสวยงามขึ้นไปอีกขั้น นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจะได้ภาพธรรมชาติสวยๆกลับไปอย่างแน่นอน
ศาลเจ้าโมโตโนะซุมิอินาริ
IMG BY : visit-nagato
ศาลเจ้าที่มีเรื่องราวเล่าขานต่อกันมาว่า ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศาลเจ้าที่เกิดจากเทพเจ้า แปลงกายเป็นสุนัขจิ้งจอก มาเข้าฝันชาวบ้านชาวประมงเพื่อให้สร้างศาล จึงกำเนิดศาลนี้ขึ้นมา สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่ จะเห็นได้ว่าที่แห่งนี้มีการตกแต่งด้วยรูปภาพของสุนัขจิ้งจอกด้วยเช่นกัน ตามตำนานเรื่องเล่านานเกิดจากเทพเจ้าที่เล่าต่อกันมา จุดเด่นของที่นี่ คือมีเสาแดงจำนวน 123 ต้น เรียงต่อกันเป็นแถวไปจนถึงปลายหน้าผา ตรงจุดของเสาแดงนี้จะเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวเดินลอดไปเรื่อยๆเพื่ออธิษฐานขอพรกับศาลเจ้าโมโตโนะซุมิอินาริ
สวนโมมิจิดานิ
IMG BY : zekkeijapan
เดินทางไปที่ญี่ปุ่น ต้นไม้ที่มีอยู่มากมาย ก็คือ ต้นเมเปิ้ล เป็นต้นไม้ที่มีหลากหลายสายพันธุ์ อีกทั้งสถานที่ท่องเที่ยวดังๆของญี่ปุ่นก็ยังมีต้นเมเปิ้ลถูกปลูกเอาไว้มากมาย ที่ชูโงกุ แลนมาร์คแห่งนี้ก็คือ สวนโมมิจิดานิที่มีต้นเมเปิ้ลราว 700 ต้น สีสันสดใสแน่นอนเมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง ให้ทั้งความสวยงามและให้ทั้งร่มเงาแก่นักท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวที่อินกับธรรมชาติ แลนมาร์คนี้ก็ถือว่าเป็นสถานที่ที่น่าเข้ามาถ่ายรูปมากๆทีเดียว มาชมธรรมชาติกันแบบยาวๆ
ปราสาทฮิโรชิม่า
IMG BY : theculturetrip
ปราสาทฮิโรชิม่า ให้กลิ่นไอความเป็นญี่ปุ่นยุคโบราณได้ดีมาก เป็นปราสาทที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางน้ำ ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นมานานแล้ว แต่หลังจากนั้นก็ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด แต่ก็มีการบูรณะปรับปรุงขึ้นมาใหม่ให้อยู่ในสภาพเดิมได้ ปัจจุบันนี้เป็นปราสาทกลางน้ำที่สวยงามมาก นักท่องเที่ยวจะเห็นวิวทิวทัศน์ตรงนี้ได้ชัดและสวยงาม เมื่อตัวของปราสาทสะท้อนไปบนผิวของน้ำ สะท้อนกับผืนฟ้า ทำให้ได้ภาพที่ออกมาสวยงามยิ่งนัก ตัวปราสาท 5 ชั้นที่สูง ทำให้ชั้นบนที่สูงที่สุดของตัวปราสาทนั้นสามารถเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดได้ มองลงมาก็จะเห็นวิวของเมืองได้แบบกว้างๆ
เขตอนุรักษ์คุราชิกิบิคัง
IMG BY : theinvisibletourist
มาถึงชูโงกุทั้งที ก็ต้องไม่พลาดการเดินทางท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ แลนมาร์คแห่งนี้กับเมืองญี่ปุ่นที่สะอาดตาและสวยงาม ที่เขตอนุรักษ์คุราชิกิบิคังแห่งนี้เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากมาย สิ่งก่อสร้างที่นี่จะเป็นรูปร่างแบบสมัยก่อน ซึ่งบางที่เป็นของเก่าที่ถูกบูรณะและปรับปรุงขึ้นมาใหม่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาชมได้ จะเดินชมสถานที่ต่างๆ หรือนั่งเรือชมธรรมชาติไปด้วยก็สามารถทำได้ รับรองว่าเพลินมากๆแน่นอน กิจกรรมของที่นี่ก็คือการใส่ชุดยูกะตะเพื่อเดินเล่นและถ่ายรูป ได้สัมผัสความเป็นญี่ปุ่นไปอีกขั้น กิจกรรมที่สามารถทำได้ไม่มีเบื่อ เหมือนหลุดไปกลายเป็นชาวญี่ปุ่น เป็นจุดเด่นที่ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาที่คุราชิกิปิคังกันมาก
เนินทรายทตโตริ
IMG BY : japancheapo
เนินทรายที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่นี่ จะได้ความรู้สึกเหมือนกับได้อยู่กลางทะเลทรายอียิปต์ เนินทรายทตโตริ จะติดกับวิวของทะเล เมื่อถ่ายภาพ จึงได้ภาพออกมาที่สวยแบบพอดี เนินทรายสีเหลืองน้ำตาล บวกกับผืนน้ำทะเลสีฟ้า ทำให้ได้ภาพที่แปลกตาๆผอีกแบบหนึ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ฤดูที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวมากที่สุดก็คือ ฤดูใบไม้ร่วงกับฤดูหนาว กิจกรรมสำหรับสถานที่เนินทรายทตโตริก็คือ การขี่อูฐ ขี่ม้า เพื่อชมวิวทิวทัศน์ของที่นี่ อากาศร้อนนั้นไม่ร้อนมาก แต่เมื่อถึงฤดูหนาว สถานที่แห่งนี้ก็กลายเป็นเนินหิมะดีดีนี่เอง เลยเป็นจุดเด่นที่ดึงดูนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
สวนอุตสึบูกิ
IMG BY : zekkeijapan
เอาใจคนชอบซากุระโดยเฉพาะเลย เพราะที่นี่คือสถานที่เอาไว้สำหรับชมดอกซากุระเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังชูโงกุ ส่วนมากจะเดินทางมาที่นี่เพื่อชมดอกซากุระและถ่ายภาพ ไม่ใช่แค่ช่วงกลางวันเท่านั้นที่สามารถเที่ยวได้ แต่ช่วงกลางคืนก็จะเป็นช่วงที่มีการประดับไฟสวยงาม จุดเด่นของที่นี่คือสะพานสีแดง ที่เป็นจุดถ่ายภาพของนักท่องเที่ยว อยากสัมผัสกับดอกซากุระ และธรรมชาติที่สวยงามแนะนำว่าสวนอุตสึบูกิ เป็นแลนมาร์คอีกที่ที่น่าสนใจในชูโงกุเลย
หมู่บ้านซามูไร
IMG BY : kankou-shimane
แลนมาร์คที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ อย่างเช่น หมู่บ้านซามูไร คือเสน่ห์ของญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์นั้นชื่นชอบ บรรยากาศความเก่าแก่แบบญี่ปุ่นจะกลับมาอีกครั้ง ใครที่เคยดูซีรี่ย์ญี่ปุ่นที่เกี่ยวกับซามูไรมาก่อน จะอินกับแลนมาร์คนี้เป็นพิเศษ เพราะบ้านเรือน เส้นทาง มุมต่างๆ ในหมู่บ้านแห่งนี้เหมือนถอดแบบมาจากหนังซามูไรเลยก็ว่าได้ เมื่อเดินทางไปถึงแล้วจะได้พบกับบ้านพักซามูไร ที่เป็นต้นตระกูลของซามูไรแท้ๆในอดีตของญี่ปุ่น ที่ชื่อว่าอาคารมัตสึเอะ บ้านพักที่ตระกูลซามูไรที่นักท่องเที่ยวสายประวัติศาสตร์ ซีรีย์ จะต้องไปด้วยตัวเองสักครั้ง
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชิมาเนะ
IMG BY : kankou-shimane
พาไปชมสถานที่สำคัญ ที่เป็นธรรมชาติกันมามากแล้ว มาชมสถานที่ที่เป็นพิพิธภัณฑ์เอาใจเด็กๆกันบ้างดีกว่า ที่บอกว่าน่าจะถูกใจเด็กๆก็คือ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชิมาเนะ ที่ชูโงกุ ที่มีสัตว์มากมาย โดยเฉพาะที่น่าสนใจและน่าดูมากที่สุดก็คือโลมา และวาฬเบลูกา เพราะสัตว์พวกนี้มีความสามารถต่างๆที่จะโชว์ให้กับนักท่องเที่ยวได้ชมได้ นอกจากนั้นก็ยังมีสัตว์น้ำชนิดอื่นๆให้ได้ชมกันอีกเพียบ และเด็กๆคนไหนที่กำลังรอชมเพนกวิน ก็สามารถรอชมได้ที่สวนน้ำชิมาเนะได้เลย
สวนสาธารณะฟูจิ
IMG BY : opief
ช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงเดือนที่เราจะได้พบเจอกับดอกไม้ชนิดหนึ่งที่ชูโงกุ นั่นก็คือดอกวิสทีเรีย ที่สวนสาธารณะฟูจิ ที่เต็มไปด้วยดอกวิสทีเรียสีขาวและสีชมพูสวยงามสดใส ซึ่งอยู่รวมกันจนกลายเป็นอุโมงค์ดอกไม้ที่มีความยาวกว่า 500 เมตร เป็นดอกไม้ที่ใครๆต่างก็ชื่นชอบ อีกทั้งยังส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่แห่งนี้ นอกจากจะได้ชมสถานที่ ชมดอกไม้ ถ่ายรูปสวยๆแล้ว ยังจะต้องหลงใหลไปกับกลิ่นหอมๆของดอกวิสทีเรียตลอดทางเดินในอุโมงค์ เรียกได้ว่าไม่อยากออกจากอุโมงค์กันเลยทีเดียว ที่นี่ขึ้นชื่อมากๆในเรื่องของความสวยงาม เพราะฉะนั้น เดินทางมาถึงชูโงกุแล้ว จะไม่เช็คอินแลนมาร์คที่นี่ก็คงไม่ได้ ถือว่าพลาดอย่างหนัก
แต่ละสถานที่ ทุกแลนมาร์คของชูโงกุ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีทั้งความสวยงาม และเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ต่างๆมากมายให้เราได้ศึกษา นอกจากความเพลิดเพลินตาแล้วก็ยังได้ความรู้กลับไปอีกมากมาย เป็นแลนมาร์คให้นักท่องเที่ยวได้เลือกเช็คอิน แต่ละที่ส่วนใหญ่จะเปิดให้เข้า และสวยงามที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง สีของดอกไม้และใบไม้กำลังเบ่งบานอย่างเต็มที่นั่นเอง ใครที่มองหาสถานที่ท่องเที่ยวของญี่ปุ่นแบบแจ่มๆ ชูโงกุ มีแลนมาร์คมากมาย รอให้คุณได้ลองไปเยือนสักครั้ง