ย่าน ‘โดทงโบริ’ (Dotonbori) แหล่องช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโอซาก้า ซึ่งย่านนี้เป็นถนนสายเล็กๆเลียบคลองโดทงโบริ ที่เต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ รวมไปถึงร้านอาหารมากมายที่ตั้งอยู่ในย่านนี้ โดยไฮไลท์ที่โดดเด่นเลยของย่านนี้เลน นั่นคือป้ายโฆษณาและป้ายร้านค้าขนาดใหญ่ยักษ์ เพื่อบ่งบอกจุดเด่นและจุดขายของร้าน อีกทั้งป้ายหลายๆป้ายยังเป็นแลนด์มาร์คของที่นี่อีกด้วยค่ะ ซึ่งสถานที่และห้างร้านต่างๆที่ห้ามพลาดของห้างนี้จะมีที่ไหนกันบ้างนั้น วันนี้ผู้เขียนรวบรวมจุดที่น่าสนใจมาไว้ในบทความนี้เรียบร้อยแล้วค่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปชมกันเลยดีกว่าค่าา
สารบัญ
วิธีการเดินทาง
การเดินทางจากสนามบินไปยังโดทงโบริ
การเดินทางด้วยรถไฟ
- นั่งรถไฟ JR จากสถานี Kansai Airport ไปลงที่สถานี Tennōji ใช้เวลาประมาณ 34 นาที จากนั้นต่อรถไฟสาย Midosuji line จาก Tennōji station ไปลงที่ Numba station (3 สถานี) ใช้เวลาเพียง 6 นาทีเท่านั้น และจากนั้นเดินออกมาจากสถานีเพียง 4 นาทีก็จะถึงโดทงโบริแล้วค่ะ
- นั่งรถไฟสาย Nankai-Kuko จากสถานี Nankai Airport ไปลงที่ Numba station (11 สถานี) ใช้เวลาประมาณ 45 นาที และจากนั้นเดินจากสถานีไปอีกเพียง 5 นาทีก็จะถึงจุดหมายปลายทางโดทงโบริค่ะ
การเดินทางด้วยรถบัส
- เมื่อถึงสถามบินแล้วให้เดินไปขึ้นรถบัสที่ Kansai-Airport Station เพื่อขึ้นรถที่ป้ายรอรถบัสหมายเลข 5 เลือกคันที่ไป Osaka Station City (ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร) ใช้เวลาเดินประมาณ 52 นาทีค่ะ
- สามารถนั่งรถไฟที่สถานี Umeda สาย Midosuji line เพื่อไปลงที่สถานี Numba (4 สถานี) ใช้เวลาประมาณ 8 นาทีนะคะ
- สามารถนั่งรถไฟจากสถานี Nishi-Umeda สาย Yotsubashi line ไปลงที่ Numba Station (4 สถานี) ใช้เวลา 7 นาทีโดยประมาณค่ะ
Dotonbori Glico sign
IMG BY : maido-bob.osaka
เรามาเริ่มกันกับที่แรกเลยนะคะ กิจกรรมแรกที่ขาดไปไม่ได้เลยเมื่อเดินทางมายังย่านโดทงโบริแห่งนี้ นั่นคือถ่ายรูปเก๋ๆกับแลนด์มาร์คของย่านนี้อย่างป้ายกูลิโกะสุดโด่งดังที่แม้ว่าจะไม่บอกว่าไปเที่ยวที่ไหน แต่หากโพสต์รูปที่ถ่ายคู่กับป้ายนี้ไปล่ะก็ไม่ว่าใครๆก็ต้องทราบว่าเป็นที่ไหนกันอย่างแน่นอนเลยล่ะค่ะ
จุดเด่นของ Dotonbori Glico sign
- สามารถแวะเวียนไปถ่ายรูปได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- ป้ายไฟ LED ที่มีไฟถึง 140,000 ดวง
- เป็นป้ายไฟ LED ที่ได้รับรางวัลโนเบลโดนนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ช่วยประหยัดพลังงานอีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
รายละเอียดของ Dotonbori Glico sign
| เวลาทำการ | ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง, ไฟ LED จะเปิดเฉพาะ 18.00-24.00 น.เท่านั้น |
|---|---|
| ค่าใช้จ่าย | ไม่มีค่าเข้าชม |
| ที่อยู่ | 1 Chome-10-3 Dotonbori, Chuo Ward, Osaka, 542-0071, Japan |
| เบอร์โทรศัพท์ | +81 1 2091 7111 |
ร้าน Kani Doraku
IMG BY : danielfooddiary
ถัดจากป้ายนักวิ่งกูลิโกะมาไม่ไกล เราก็จะมาพบกับสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของย่างโดทงโบริ นั่นคือเจ้าปูสีส้มตัวยักษ์ซึ่งเป็นของร้าน Kani Doraku ร้านอาหารที่ขายปูยักษ์เป็นหลัก ด้วยความนิยมทำให้ร้านนี้มีหลากหลายสาขา โดยในย่านนี้เองก็จะมีร้านนี้ถึง 3 สาขาเลยทีเดียวค่ะ ซึ่งผู้เขียนขอแนะนำว่าหากท่านใดว่งแผนจะไปทานร้านนี้ล่ะก็แนะนำให้จองไปก่อนนะคะ เนื่องจากคน walk-in ค่อนข้างเยอะและอาจจะรอค่อนข้างนานเลยค่ะ อย่างไรก็ตามถือเป็นร้านหนึ่งที่ไม่ควรพลาดในย่านนี้เลยนะคะ
จุดเด่นของร้าน Kani Doraku
- เมนูมีทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ
- มีเมนูปูให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบบเซ็ทหรือแบบ a la carte
- เพื่อไม่ต้องไปยืนรอคิวหน้าร้านสามารถจองคิวจากเว็บไซต์ของร้านก่อนไปทานได้เลย
รายละเอียดของร้าน Kani Doraku
| เวลาทำการ | ทุกวัน 11.00 – 22.00 น. (สามารถสั่งอาหารได้จนถึงเวลา 21.00 น.) |
|---|---|
| ค่าใช้จ่าย | ประมาณ 3,000 – 6,000 เยน |
| ที่อยู่ | 1 Chome-6-18 Dotonbori, Chuo Ward, Osaka, 542-0071 Japan |
| เบอร์โทรศัพท์ | +81 6 621 18975 |
Konamon Museum
IMG BY : livejapan
สถานที่ถัดไปที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลยคือ พิพิธภัณฑ์โคนะมง โดดเด่นด้วยป้ายโฆษณาของร้านซึ่งเป็นรูปปลาหมึกยักษ์ ที่ด้านล่างของตึกเป็นร้านขายทาโกะยากิและด้านบนเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติศาสตร์และเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับทาโกะยากิ ซึ่งทุกท่านสามารถทดลองทำทาโกะยากิได้ทั้งที่เป็นแบบของจำลอง(โมเดล)และสามารถมาเรียนรู้การวิธีทำทาโกะยากิของจริงได้อีกด้วยค่ะ
จุดเด่นของ Konamon Museum
- สำหรับคนที่สนใจทำทาโกะยากิสามารถจองคิวผ่านเว็บไซต์ได้
- ในการทดลองทำทาโกะยากินั้น ทุกท่านสามารถเลือกวัตถุดิบด้วยตนเองได้เลย
- หากไม่ได้ทำทาโกะยากิกสามารถแวะไปซื้อทาโกะยากิที่ร้านขายชั้น 1 ของร้านได้เช่นกัน
รายละเอียดของร้าน Konamon Museum
| เวลาทำการ | จันทร์ – ศุกร์ 11.00 – 21.00 น. และ เสาร์ – อาทิตย์ 10.00 – 21.00 น. |
|---|---|
| ค่าใช้จ่าย | ค่าเข้า – ไม่มีค่าใช้จ่าย ค่าทำทาโกะยากิจำลอง (โมเดล) – 1,600 เยน ค่าทำทาโกะยากิ – 850 เยน |
| ที่อยู่ | Japan 〒542-0071 Osaka, Chuo Ward, Dotonbori, 1 Chome−6−12 コナモンミュージアム内 |
| เบอร์โทรศัพท์ | +81 6 6214 6678 |
Tonbori River Cruise
IMG BY : osaka-yanen
อีกกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เมื่อได้มาท่องเที่ยวในย่านโดทงโบริที่ติดกับแม่น้ำก็คือ การล่องเรือไปตามแม่น้ำโดทงโบรินั่นเองค่ะ ซึ่งการล่องเรือนี้จะใช้เวลาประมาณ 20 นาทีนะคะ แต่ผู้เขียนขอบอกก่อนเลยค่ะ ว่าแต่ละรอบเรือจะเต็มค่อนข้างเร็วค่ะ อาจจะต้องไปสำรองที่นั่งที่ช่องแลกตั๋วเอาไว้ก่อน ถึงอย่างไรก็ตามรับรองว่าบรรยากาศที่จะพบในการล่องเรือครั้งนี้คุ้มค่าอย่างแน่นอนค่ะ
จุดเด่นของ Tonbori River Cruise
- ในขณะล่องเรือจะมีไกด์คอยแนะนำที่ต่างๆที่ล่องเรือผ่าน (ภาษาญี่ปุ่น)
- สามารถใช้บัตร Osaka Amazing Pass ในการแลกตั๋วได้
- บรรยากาศดี เพลิดเพลินไปกับแสงสีโดยรอบ
รายละเอียดของร้าน Tonbori River Cruise
| เวลาทำการ | จันทร์ – ศุกร์ 13.00 – 21.00 น. และ เสาร์ – อาทิตย์ 11.00 – 21.00 น. |
|---|---|
| ค่าใช้จ่าย | ค่าตั๋ว 900 เยนหรือสามารถใช้ Osaka Amazing Pass ได้ |
| ที่อยู่ | 7 Souemoncho, Chuo Ward, Osaka, 542-0084 Japan |
| เบอร์โทรศัพท์ | +81 6 6441 0532 |
ตรอก Hozenji Yokocho
IMG BY : livejapan
ตรอก Hozenji Yokocho เป็นตรอกเล็กๆที่เงียบสงบใจกลางย่านการค้าที่มีผู้คนเนืองแน่น ซึ่งตรอกนี้มีความยาวราว 80 เมตรและความกว้าง 3 เมตร ที่ตรอกนี้ถนน 2 สายยาวทอดจากทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตก โดยตลอดสองข้างทาง มีร้านอาหารญี่ปุ่นที่เป็นร้าน Traditional ที่มีอายุอย่างยาวนานหรือเปิดมาตั้งแต่สมัยเริ่มแรกอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นอีกที่หนึ่งที่ต้องใส่ไว้ในลิสต์ที่เที่ยวเลยล่ะค่ะ
จุดเด่นของตรอก Hozenji Yokocho
- บรรยากาศโรแมนติกเหมาะกับการไปเดินเล่น
- มีวัด Hozenji ซึ่งตั้งอยู่สุกตรอกทางเดิน
- ยังคงกลิ่นอายของโอซาก้าในสมัยก่อน
- เป็นที่ที่มีความสงบมาก ในขณะที่ภายนอกเป็นย่านช้อปปิ้งที่ค่อนข้างจอแจ
รายละเอียดของตรอก Hozenji Yokocho
| เวลาทำการ | ทุกวัน ทั้งวัน (ขึ้นอยู่กับเวลาเปิด – ปิดของร้านต่างๆในตรอก) |
|---|---|
| ค่าใช้จ่าย | ไม่มีค่าใช้จ่าย |
| ที่อยู่ | 1 Chome-1-6 Nanba, Chuo Ward, Osaka, 542-0076 Japan |
| เบอร์โทรศัพท์ | ไม่ระบุ |
วัดโฮเซ็นจิ (Hozenji)
IMG BY : en.japantravel
วัดโฮเซ็นจิก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1637 ซึ่งในตอนนั้นเป็นวัดที่มีขนาดใหญ่กว่าในปัจจุบันมาก เนื่องจากการโจมตีทางอากาศในปี 1945 ทำให้ตัววัดถูกทำลายไปจนหมด เหลือเพียง พระพุทธรูป Fudo-son ที่ยังคงไม่ถูกทำลายไปและอยู่มาจนถึงปัจจุบัน โดยหลังจากสงครามจบลง รูปปั้นนี้ถูกเรียกว่า “Mizukake Fudo-son” หรือ “Mizukake Fudo-san” เนื่องจากมีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า หญิงคนหนึ่งสรงน้ำรูปปั้นพระพุทธรูปนี้และอธิษฐานขอให้สิ่งนั้นสมหวัง จากนั้นสิ่งที่เธออธิษฐานก็เป็นจริง ตั้งแต่นั้นมาผู้คนก็เริ่มทรงน้ำใส่รูปปั้นนี้มากขึ้น จนทำให้ถูกปกคลุมไปด้วยมอสและตะไคร่น้ำในที่สุด (“มิสุคาเคะ” แปลว่า การสาดน้ำ) นั่นเองค่ะ
จุดเด่นของวัดโฮเซ็นจิ (Hozenji)
- บรรยากาศของวัดยังคงเหมือนโอซาก้าในสมัยก่อนต่างจากด้านนอกที่เป็นย่านการค้า
- เป็นที่ประดิษฐานของโอคายามะไซโจอินาริไดเมียวจิน เป็น 1 ใน 3 เทพอินาริที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
- จัดงานเทศกาลดอกไม้ ในวันเสาร์หรือวันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายนของทุกปี
- จัดเทศกาลโฮเซ็นจิซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 10 และ 11 สิงหาคมของทุกปี
- จัดเทศกาลจิโซบงในวันที่23 และ 24 สิงหาคมของทุกปี
- จัดเทศกาลใหญ่คอมปิระ 9 และ 10 ตุลาคมของทุกปี
รายละเอียดของวัดโฮเซ็นจิ (Hozenji)
| เวลาทำการ | ทุกวัน ทั้งวัน |
|---|---|
| ค่าใช้จ่าย | ไม่มีค่าใช้จ่าย |
| ที่อยู่ | 1 Chome-1-6 Nanba, Chuo Ward, Osaka, 542-0076 Japan |
| เบอร์โทรศัพท์ | ไม่ระบุ |
ตรอกอุคิโยะ โชจิ (Ukiyo Shoji)
IMG BY : find-your-jpn
ตรอกอุคิโยะ โชจิ อีกสถานที่หนึงในโดทงโบริที่ยังคงกลิ่นอายของโอซาก้าในสมัยก่อนเอาไว้ ซึ่งตรอกนี้มีความกว้าง 1.5 เมตรและมีความยาวของถนนประมาณ 20 เมตร อีกทั้งตรอกนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์การพัฒนาย่านบริเวณนี้ผ่านงานศิลปะ รูปปั้นและป้ายในรูปแบบที่เต็มไปด้วยสีสัน ความสร้างสรรค์และเป็นเอกลักษณ์อีกด้วยค่ะ
จุดเด่นของตรอกอุคิโยะ โชจิ (Ukiyo Shoji)
- ประดับประดาด้วยโคมไฟช่วยเพิ่มบรรยากาศให้สวงามยิ่งขึ้น
- สามารถเดินชมเรื่องราวประวัติศาสตร์สั้นๆของพื้นที่นี้ได้
- ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างร้านคาราโอเกะขนาดใหญ่และร้านอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่อยู่ติดกัน
รายละเอียดของตรอกอุคิโยะ โชจิ (Ukiyo Shoji)
| เวลาทำการ | ทุกวัน ทั้งวัน |
|---|---|
| ค่าใช้จ่าย | ไม่มีค่าใช้จ่าย |
| ที่อยู่ | 1 Chome-7 Dotonbori, Chuo Ward, Osaka, 542-0071 Japan |
| เบอร์โทรศัพท์ | +81 6 6267 9986 |
IMG BY : eateryjapan ดองกิโฮเต้ร้านขายของที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ซึ่งร้านนี้มีของขายตั้งแต่สากะเบือยันเรือรบเลยล่ะค่ะ หรือพูดง่ายๆคือ มีแทบทุกอย่างที่ทุกท่านตามหานั่นเองค่า เป็นร้านที่แค่ย่างกรายเข้าไปก็รู้สึกเพลิดเพลินกับสินค้าต่างๆภายในแล้วค่ะ อีกทั้งที่สาขานี้ยังมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอยู่ที่ชั้น 1 ด้วยนะคะ แบะนอกจากนี้แต่ละชั้นจะมีการแบ่งโซนของต่างๆดังนี้ ชั้น 1 เคาน์เตอร์ tax refund, ขนม, สินค้าของฝาก, ยา ชั้น 2 ของใช้ประจำวัน เช่น เครื่องสำอาง, แปรงสีฟัน, สบู่, คอนแทคเลนส์ เป็นต้นค่ะ ชั้น 3 จุดขึ้นชิงช้าสวรรค์, สินค้าประจำวัน, เคาน์เตอร์บริการ ชั้น 4 เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน, ของเล่น ชั้น 5 กระเป๋าเดินทาง และ ชั้น 6 สินค้าแบรนด์เนมต่างๆ รับรองได้เลยนะคะว่า หากไปที่นี่แล้ว ครบและจบในที่เดียวแน่นอนค่า เป็นอย่างไรกันบ้านคะกับสถานที่ต่างๆที่ไม่ควรพลาดในย่านโดทงโบริที่ผู้เขียนนำมาฝากกันในวันนี้ หวังว่าคงมีสถานที่ที่ถูกใจทุกท่านไม่มากก็น้อยนะคะ โดยสำหรับค่าใช้จ่ายและเวลาทำการของสถานที่ต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์และวันสำคัญต่างๆของประเทศญี่ปุ่น อย่างไรก่อนไปสถานที่ข้างต้นทุกท่านอย่าลืมที่จะรีเช็กกับสถานที่ต่างๆกันอีกครั้งหนึ่งนะค้า สำหรับวันนี้คงต้องลากันไปก่อนค่ะ แล้วมาพบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ รักษาสุขภาพกันด้วยน้า
จุดเด่นของ Don Quijote Dotonbori Store
รายละเอียดของ Don Quijote Dotonbori Store
เวลาทำการ
ทุกวัน 11.00 – 02.00 น.
ค่าใช้จ่าย
ไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับเข้าชม (ขึ้นอยู่กับสินค้าที่เลือกซื้อ)
ที่อยู่
7-13 Souemoncho, Chuo Ward, Osaka, 542-0084, Japan
เบอร์โทรศัพท์
+81 5 7002 6511