โอจิจูกุ (Ochi Juku) เมืองโบราณที่ยังคงรักษาบรรยากาศของสมัยเอโดะ

โอจิจูกุเป็นหมู่บ้านที่ได้รับการพัฒนาให้เป็นเมืองหลังที่เชื่อมระหว่างไอซุและนิกโกะ และได้รับการกำหนดให้เป็น “เขตอนุรักษ์ที่สำคัญสำหรับกลุ่มอาคารแบบดั้งเดิม” ของญี่ปุ่น ตัวเมืองจะมีภูมิทัศน์ที่ยังคงรักษารูปแบบในสมัยโบราณ ซึ่งรวมไปถึงโรงแรมและสถานีรถไฟ มีบ้านหลังคามุงจากตั้งเรียงรายอยู่ตามพื้นที่ภูเขา ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในเมืองช่วงสมัยโบราณของญี่ปุ่น

สำหรับการเดินทางมาที่หมู่บ้านโอจิจูกุนั้นย่อมต้องมีการใช้บริการขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟ JR อย่างแน่นอน โดยเราก็ขอแนะนำตั๋วรถไฟ JR Pass ที่จะพาให้คุณเดินทางไปกับรถไฟ JR ได้อย่างสะดวกและตรงตามเวลาที่วางแผนเอาไว้ หากสนใจก็สามารถคลิ๊กดูรายละเอียดได้เลยค่ะ

สัมผัสบรรยากาศของเมืองแห่งประวัติศาสตร์

IMG BY : tohokukanko

ทิวทัศน์เมืองโอจิจูกุถูกล้อมรอบด้วยภูเขาและเรียงรายไปด้วยบ้านหลังคามุงจากทั้งสองด้าน ซึ่งเป็นการวางโครงสร้างเมืองในสมัยโบราณช่วงยุคเอโดะ ซึ่งจะทำให้เหล่านักท่องเที่ยวรู้สึกเหมือนได้เดินทางย้อนเวลากลับไปในช่วงสมัยก่อนของญี่ปุ่น ที่นี่จะมีถนนบ้านพื้นเมืองโบราณที่ยาวประมาณ 500 เมตร โดยจะมีร้านค้าต่าง ๆ มากมายสองข้างทาง ทำให้เหล่าผู้มาเยือนได้เพลิดเพลินกับการชมบรรยากาศและช็อปปิ้งที่นี่

เดินชมตัวเมืองอันสวยงามพร้อมสัมผัสบรรยากาศของเมืองไปตามเส้นทางเดิน

มีภูเขาล้อมรอบเมือง ทำให้รับชมธรรมชาติอันงดงามได้อีกด้วย

IMG BY : zekkeijapan, gurutto-aizu

ชมทิวทัศน์อันสวยงามจากจุดชมวิว

IMG BY : travel.rakuten

มีจุดชมวิวที่ด้านหลังสุดของโอจิจูกุซึ่งเป็นจุดที่ดีเยี่ยมในการถ่ายภาพทิวทัศน์ของเมืองโอจิจูกุ เป็นสถานที่ที่สามารถมองลงไปตามถนนตรงที่ทอดยาวประมาณ 500 เมตร และบ้านหลังคามุงจากจากด้านบนได้ จุดนี้มักเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีและฤดูหนาว เพราะจะมีทิวทัศน์ที่งดงามเป็นอย่างมาก

มุมที่เหล่านักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพกันมากที่สุดในโอจิจูกุ

ฤดูหนาวที่มีหิมะตกและเป็นช่วงเย็น สร้างเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามมาก

IMG BY : pixpot, pref.fukushima

บทความที่อยากให้อ่านต่อพิ่มเติม

แนะนำ 7 สถานที่วิวสวยงามแห่งอาโอโมริ กับประสบการณ์ในการสัมผัสธรรมชาติที่ไม่เหมือนที่อื่น

เพลิดเพลินไปกับสองเทศกาลสำคัญในฤดูร้อนและฤดูหนาว

IMG BY : tif

ขอแนะนำให้ลองไปเยือนโอจิจูกุช่วงเทศกาลฤดูร้อนและฤดูหนาว โดยในฤดูร้อนจะมีเทศกาลโอจิจูกุฮังกะ ซึ่งจะจัดขึ้นที่ศาลเจ้าทาคาคุระ จะมีนักบวชสวมชุดแบบดั้งเดิมและเดินขบวนไปรอบ ๆ และเทศกาลหิมะโอจิจูกุในฤดูหนาวบ้านแต่ละหลังจะทำการจุดโคมหิมะ และจะมีการจุดพลุดอกไม้ไฟอันสวยงาม สร้างเป็นความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือน

เทศกาลโอจิจูกุฮังกะที่จัดขึ้นในช่วงฤดูร้อนของทุกปี

เทศกาลหิมะในฤดูหนาวที่สามารถรับชมดอกไม้ไฟอันสวยงาม

IMG BY : tif, tohokukanko

เพลิดเพลินกับเมนูโซบะชื่อดัง

IMG BY : dabeshita

ที่โอจิจูกุจะมีเมนูโซบะพิเศษที่ชื่อว่า “ทาคาโตะโซบะ” โดยจะเป็นเมนูที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เมนูนี้จะมีซุปที่มีส่วนผสมของหัวไชเท้าขูดรสเผ็ดและซีอิ๊วสูตรเฉพาะเพื่อชูรสชาติ ตัวเส้นโซบะทำจากแป้งในท้องถิ่น ทำให้เส้นโซบะมีความนุ่มเป็นพิเศษ หากได้ลองลิ้มรสแล้วจะต้องติดใจอย่างแน่นอน

เมนูทาคาโตะโซบะที่มาพร้อมกับต้นหอมญี่ปุ่นชิ้นใหญ่ 1 ต้น

นำต้นหอมนั้นมาตักเส้นพร้อมทานกับโซบะได้เลย

IMG BY : bimitankyu.blog80.fc2, instagram

บทความที่อยากให้อ่านต่อพิ่มเติม

แนะนำแลนด์มาร์คน่าเที่ยวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น

การเดินทาง

นั่งรถไฟมาลงที่สถานี JR Nishi-Wakamatsu และเปลี่ยนขบวนเป็นรถไฟสาย Aizu Railway และนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Yunokamionsen จากนั้นให้นั่งรถบัสไปยังโอจิจูกุประมาณ 20 นาที

สำหรับผู้ที่ต้องการไปสัมผัสบรรยากาศของเมืองโบราณเมื่อมาเที่ยวที่จังหวัดฟุคุชิมะ ก็ขอแนะนำให้ลองมาเยือนที่โอจิจูกุดู รับรองเลยว่าจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์และธรรมชาติอันสวยงาม รวมถึงบรรยากาศสมัยก่อนที่หาจากในไทยไม่ได้อย่างแน่นอน ดื่มด่ำกับบรรยากาศให้เต็มที่และเพลิดเพลินกับเมนูท้องถิ่นกันให้สุดเหวี่ยง สำหรับผู้ที่เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นมาแล้ว ก็อย่าลืมมาแชร์ความทรงจำในการไปเที่ยวญี่ปุ่นกับพวกเราได้ในกิจกรรม Memories of Japan ที่จัดขึ้นในเพจ FAV A GOOD LAB ทุก ๆ เดือนนะคะ