ชูบุ

ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ ทั้งสถานที่ชื่อดังและสถานที่ลับแห่งจังหวัดชิซึโอกะ Part 2


สำหรับบทความนี้เราก็จะขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจของจังหวัดชิซึโอกะกันต่อเลย หากใครที่ยังไม่ได้ดูบทความแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวชิซึโอกะ Part 1 สามารถกดคลิ๊กดูได้ด้านล่างนี้เลย สำหรับ Part 2 นี้เราเองก็จะขอแนะนำสถานที่น่าสนใจกันต่อเลย มาดูกันเลยว่าจะมีที่ไหนกันบ้าง

ชายฝั่งโจกาซากิ

IMG BY : itospa

ชายฝั่งโจกาซากิเป็นชายฝั่งที่เกิดจากลาวาที่ไหลออกมาจากภูเขาไฟโอมุโระปะทุเมื่อประมาณ 4,000 ปีที่แล้ว ที่ชายฝั่งแห่งนี้มีสะพานแขวนคาโดวากิซึ่งมีความยาวรวม 48 เมตร และสูงประมาณ 23 เมตร ซึ่งเป็นจุดชมวิวอันน่าตื่นเต้น นักท่องเที่ยวสามารถชมทิวทัศน์โดยรอบได้จากบนสะพานแขวน และจะรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนขณะเดิน และภาพหน้าผาสูงชันและคลื่นแรงด้านล่างจะทำให้หัวใจจะเป็นภาพที่งดงามมาก ใครที่ชอบความท้าทาย ความตื่นเต้น ยิ่งต้องไปลองดู

สะพานแขวนที่จะมอบความตื่นเต้น และทิวทัศน์อันงดงามให้กับผู้ที่เดินมานสะพาน
ภาพของพระอาทิตย์ตกของที่นี่ เป็นภาพที่สวยงามและน่าชมเป็นอย่างยิ่ง

IMG BY : knt, itospa

การเดินทาง เดินจากสถานี Jogasaki Kaigan ประมาณ 25 นาที

อาณาจักรสัตว์อิสุ

IMG BY : skyticket

ที่อาณาจักรสัตว์อิสุ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมสัตว์ต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ ชมเสือขาวพร้อมสัมผัสประสบการณ์ให้อาหารผ่านกรง นอกจากเสือขาวแล้วก็ยังมีสัตว์อื่น ๆ ที่สามารถสัมผัสและตอบโต้ได้อย่างพวกยีราฟ ช้าง ฯลฯ เมื่อเที่ยวชมสวนสัตว์เสร็จแล้ว ขอแนะนำให้ลองแวะไปที่สวนสนุกที่อยู่ติดกันด้วย ซึ่งสถานที่เหล่านี้จะทำให้เหล่านักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาสนุกสนานได้ทั้งวัน

รับชมและสัมผัสกับลูกเสือขาวได้อย่างใกล้ชิด
โซนสวนสนุกที่อยู่ใกล้ ๆ ก็เป็นโซนที่จะสร้างความเพลิดเพลินให้กับผู้มาเยือนได้ตลอดทั้งวัน

IMG BY : at-s., report.iko-yo

เวลาทำการ เมษายน – กันยายน : 9.00 – 17.00
ตุลาคม – มีนาคม : 9.00 – 16.00
การเดินทาง นั่งรถบัสจากสถานี Izu-Inatori ประมาณ 10 นาที

ถนนเพอร์รี่

IMG BY : izu-letters

ถนนเพอร์รีเป็นถนนที่ปูด้วยหินอันสวยงามที่ได้รับการสร้างขึ้นมาในสมัยก่อน โดยถนนนี้จะอยู่ริมแม่น้ำฮินาเมะกาวะ รอบ ๆ ก็จะมีร้านกาแฟเรียงรายที่มีสไตล์สถาปัตยกรรมในยุคสมัยก่อน โดยเสน่ห์ของพื้นที่นี้คือบรรยากาศที่จะพาเหล่านักท่องเที่ยวได้ย้อนยุคไปยังสมัยก่อน

ยามเย็นจะเป็นช่วงที่ให้บรรยากาศที่ดี เหมาะแก่การรับชมและถ่ายรูปในพื้นที่เป็นอย่างมาก
ผ่อนคลายไปกับเมนูของร้านกาแฟ พร้อมรับซึมซับบรรยากาศที่จะพาย้อนยุคไปยังอดีต

IMG BY : fujiyama-navi, ameblo

การเดินทาง เดินจากสถานี Izukyu-Shimoda ประมาณ 10 นาที

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชิโมดะ

IMG BY : skyticket

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชิโมดะเป็นที่อยู่อาศัยของปลาและเหล่าปลาโลมาที่เลี้ยงอย่างอิสระ ที่พิพิธภัณฑ์นี้นักท่องเที่ยวสามารถโต้ตอบกับสัตว์ทะเลหลากหลายชนิดได้ เพลิดเพลินไปกับการรับชมนกเพนกวิน และสัมผัสประสบการณ์ว่ายน้ำกับปลาโลมา นอกจากนี้ ยังสามารถสัมผัสประสบการณ์การฝึกปลาโลมาภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้อีกด้วย

รับชมความน่ารักและสัมผัสกับนกเพนกวินได้อย่างใกล้ชิด
สนุกไปกับปลาโลมา พร้อมสัมผัสและตอบโต้กับปลาโลมาได้อย่างใกล้ชิด

IMG BY : at-s, fujinokuni-passport

เวลาทำการ 8.30 – 17.30
*เวลาทำการอาจแตกต่างกันตามฤดูกาล
การเดินทาง เดินจากสถานี Shimoda ประมาณ 25 นาที

ถ้ำทะเลริวงู

IMG BY : shizuoka.hellonavi

ถ้ำทะเลริวงูเป็นถ้ำที่โดดเด่นด้วยเพดานถ้ำที่เป็นรู และรับแสงอย่างสวยงาม เมื่อมองลงไปที่ช่องรับแสงจากทางเดิน จะให้ความรู้สึกลึกลับและพิศวง เมื่อทะเลเต็มไปด้วยน้ำ รูปหัวใจจะสามารถมองเห็นได้อย่างโดดเด่น ไม่เพียงแต่การมองลงไปที่ถ้ำริวงูได้เท่านั้น แต่ยังสามารถเข้าไปข้างในและมองขึ้นไปบนได้อีกด้วย โดยจะได้สัมผัสถึงแสงที่ส่องเข้ามาจากรูขนาดใหญ่ด้านบน สร้างเป็นภาพที่สวยงามไปอีกแบบ

ชมภาพอันสวยงามของท้องฟ้าที่มองลอดรูขนาดใหญ่ภายในถ้ำ โดยรูที่มองผ่านจะดูคล้ายกับรูปหัวใจ
นอกจากการมองขึ้นไปด้านบนแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถมองผ่านรูด้านบนถ้ำจากจุดชมวิวได้อีกด้วย

IMG BY : izugeopark, izugeo13.sakuraweb

การเดินทาง นั่งรถบัสจากสถานี Izukyu Shimoda ไปยังป้าย Tagyu Maenohama และเดินต่ออีกประมาณ 4 นาที

หาดฮิริโซะ

IMG BY : nakagi

ชายหาดฮิริโซะเป็นจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยได้มีการโพสต์ไปบน SNS จากเหล่านักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ไฮไลท์ของที่นี่คือ น้ำที่ใสสะอาดจะติดอันดับโลกโลก และความรู้สึกของการเป็นพื้นที่ลับที่สามารถเข้าถึงได้โดยทางเรือเท่านั้น สายน้ำใสมากจนสามารถมองเห็นได้ลึกถึง 5 เมตร ทำให้เป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมสำหรับการดำน้ำตื้น เป็นที่ตั้งของแนวปะการังอันล้ำค่าและปลานานาชนิด

รับชมปลาต่าง ๆ ที่แหวกว่ายอยู่ในน้ำที่ใสสะอาดที่มองเห็นลึกไปถึงก้น
นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับการดำเนินและเล่นไปกับปลาที่แหวกว่ายไปมา

IMG BY : nakagimc, d3-plus.hatenablog

เวลาทำการ เปิดช่วงกลางเดือนกรกฎาคม – กลางเดือนกันยายนช่วงเวลา 8.30 – 16.00
การเดินทาง นั่งเรือจากท่าเรือ Nakagi ประมาณ 5 นาที

แหลมแห่งคู่รัก

IMG BY : kanko.city.izu.shizuoka

แหลมแห่งคู่รักจะมีไฮไลท์อยู่ที่ระฆังแห่งความรักได้รับการติดตั้งที่นี่ และมีตำนานว่าหากคู่รักทั้ง 2 สั่นกระดิ่งสามครั้งพร้อมเรียกชื่อคนรักแล้วจะมีความรักไปชั่วนิรันดร์ จนทำให้มีคู่รักหลายคู่มาที่นี่เพื่อขอพร แน่นอนว่ายังสามารถรับใบรับรองประกาศคู่รักได้จากสำนักงานแหลมแห่งคู่รักเพื่อเป็นหลักฐานว่าได้ลั่นระฆังแห่งความรักอีกด้วย และที่แหลมแห่งคู่รักแห่งนี้มักถูกจัดงานแต่งงานอีกด้วย อีกทั้งสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้จากแหลมแห่งนี้ ทำให้เป็นจุดชมวิวที่ยอดเยี่ยม

ระฆังแห่งความรักที่จะมีคู่รักหลาย ๆ คู่มาสั่นกระดิ่งเพื่อขอพรแห่งความรัก
ชมทิวทัศน์อันสวยงามบริเวณรอบ ๆ พร้อมกับฉากของภูเขาไฟฟูจิ

IMG BY : at-s, shizuoka-hamamatsu-izu

การเดินทาง นั่งเรือจากท่าเรือ Nakagi ประมาณ 5 นาที

เส้นทางป่าไผ่

IMG BY : izu-letters

ชูเซนจิออนเซ็นเป็น 1 ในเมืองน้ำพุร้อนที่ดีที่สุดในอิซุ มีจุดถ่ายรูปในชูเซ็นจิที่เรียกว่า “ชิคุรินโนะโคมิจิ” ซึ่งเป็นเส้นทางปูด้วยหินในป่าไผ่เขียวขจีที่สวยงาม และซึ่งบรรยากาศนี้ทำให้ที่แห่งนี้ถูกเรียกว่า “เกียวโตน้อยแห่งอิซุ” นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับบ่อน้ำพุร้อนพร้อมกับการเดินเล่นรอบเมือง และทางเราขอแนะนำให้ลองไปเยี่ยมชมสะพานต่าง ๆ ภายในบริเวณนี้ เช่น สะพานคัตสึระ ซึ่งว่ากันว่านำมาซึ่งความโชคดีในความรัก

เพลิดเพลินไปกับบ่อน้ำพุร้อนและนั่งผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติของเส้นทางป่าไผ่
หากได้มาเยี่ยมชมในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ป่าไผ่แห่งนี้จะมอบทิวทัศน์อันสวยงาม น่าถ่ายภาพเป็นอย่างมาก

IMG BY : izupeninsula, rurubu

การเดินทาง นั่งรถบัสจากสถานี Shuzenji ประมาณ 10 นาที

หมู่บ้านชูเซ็นจิ

IMG BY : wikipedia

ที่หมู่บ้านชูเซ็นจิจะมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม มี “หมู่บ้านอังกฤษ” ที่สร้างภูมิทัศน์เมืองในยุคกลางขึ้นมาใหม่ “หมู่บ้านชาวแคนาดา” ซึ่งล้อมรอบด้วยป่าไม้ “สวนญี่ปุ่น” ซึ่งมีบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นและมีหลังคามุงจากที่มีป่าใบ้ไม้เปลี่ยนสี โดยแบ่งออกเป็นพื้นที่ต่าง ๆ เช่น “หมู่บ้านทาคุมิ” ซึ่งเรียงรายไปด้วยบ้านเก่าที่มีหลังคา ดอกไม้ต่าง ๆ และหัวรถจักรขนาด 15 นิ้วของอังกฤษแท้ ๆ เพียงแห่งเดียวของญี่ปุ่นที่วิ่งผ่านสวนสาธารณะ ทำให้ที่นี่เป็นดินแดนแห่งดอกไม้ที่เหล่านักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับหัวรถจักรไอน้ำและธรรมชาติได้

เพลิดเพลินไปกับหัวรถจักรไอน้ำที่จะพาเหล่านักท่องเที่ยวได้ชมหมู่บ้านชูเซ็นจิ
ที่หมู่บ้านในช่วงกลางคืน จะมีการประดับไฟอย่างสวยงาม เหมาะแก่การถ่ายภาพเก็บไว้เป็นอย่างมาก

IMG BY : kanko.city.izu.shizuoka, fashion-press

เวลาทำการ เมษายน – กันยายน : 10.00 – 17.00
ตุลาคม – มีนาคม : 10.00 – 16.00
*เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ารอบสุดท้ายก่อนเวลาปิดทำการ 1 ชั่วโมง
การเดินทาง นั่งรถบัสจากสถานี Shuzenji มาลงที่ป้าย Niji no Sato ประมาณ 20 นาที

รีสอร์ทนาไคซุ

IMG BY : kanko.city.izu.shizuoka

รีสอร์ทนาไคซุเป็นรีสอร์ทที่มีโรงกลั่นไวน์พร้อมไร่องุ่นกว้างขวาง ฟาร์มขี่ม้า รวมถึงโรงแรมหรูหรา อาคารโรงกลั่นเหล้าองุ่นมีลักษณะเหมือนปราสาทยุโรป และเหล่านักท่องเที่ยวสามารถชมกระบวนการผลิตไวน์ได้ภายในตัวอาคาร นอกจากนี้ ทางโรงแรมยังมีบ่อน้ำพุร้อนให้นักท่องเที่ยวได้ลองมาผ่อนคลาย และสามารถเพลิดเพลินกับการรับประทานอาหารที่ร้านอาหาร คาเฟ่บนระเบียง หรือร้านสเต็กภายในโรงกลั่นเหล้าองุ่น

รับชมทิวทัศน์ของไร่องุ่นที่กว้างใหญ่ และสวยงามได้อย่างเต็มที่
ใครที่ชอบดื่มไวน์ก็สามารถซื้อ หรือลองชิมรสชาติไวน์ที่ทำจากองุ่นในไร่ได้เลย

IMG BY : omosan-st, izumilu

เวลาทำการ 9.30 – 21.00
การเดินทาง นั่งแท็กซี่จากสถานี Shuzenji ประมาณ 15 นาที

ที่ชิซึโอกะมีสถานที่น่างท่องเที่ยวอยู่เต็มไปหมด โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวที่ให้ชมธรรชาติอันสวยงามนั้นมีอยู่มากมาย สำหรับการแนะนำสถานที่น่าสนใจในชิซึโอกะ Part 2 นี้เราจะขอเอาไว้เท่านี้ก่อน มาดูกัน Part ต่อไปจะมีสถานที่น่าสนใจอะไรอีกบ้าง

Pick up

บทความแนะนำ

  1. เพลิดเพลินไปกับซากุระที่เกียวโต แนะนำสถานที่ชมดอกไม้ เครื่องแต่งกายและโรงแรมที่ใกล้กับสถานที่ชมดอกไม้

  2. แนะนําสถานที่ชมดอกไม้ในภูมิภาคกลางและตะวันตกของญี่ปุ่น

  3. แนะนำ 10 เทศกาลน่าสนใจในญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ผลิ อากาศเย็นสบาย เหมาะกับการท่องเที่ยวแบบชิลๆ

บทความล่าสุด

  1. การเปรียบเทียบการจัดอันดับตัวละครยอดนิยมของซานริโอ : ความแตกต่างระหว่างญี่ปุ่นและไทย

  2. ทำความเข้าใจกับความสะดวกสบายของคำว่า “ซุมิมะเซ็น” ในภาษาญี่ปุ่น

  3. พาเที่ยวเกาะโชโดชิมะ (Shodoshima Island) สัมผัสธรรมชาติแบบชิลๆ

  4. แนะนำเมนูอาหารน่าทานสำหรับช่วงฤดูหนาวของญี่ปุ่น อบอุ่นทั้งร่างกายและดีต่อใจ

  5. แนะนำร้านทาโกะยากิที่ต้องไปทานให้ได้ หากไปเยือนโอซาก้า

  6. แนะนำย่านช็อปปิ้งโอสึ (Osu Shopping Street) ช็อปสนุกกันที่ย่านอากิฮาบาระแห่งเมืองนาโกย่า

  7. สกีรีสอร์ทนิเซโกะ (Niseko Ski Resort) แหล่งเล่นสกีที่มีชื่อเสียงระดับโลก กับการผสมผสานกับวัฒนธรรมท้องถิ่น

  8. แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นในช่วงฤดูหนาว

  9. แนะนำ 9 สถานที่ท่องเที่ยวที่สามารเพลิดเพลินได้ แม้จะอยู่ในช่วงฤดูฝน

  10. แนะนำเมนูอาหารที่สามารถเดินพร้อมทานไปด้วยกันได้ในย่านอาซากุสะ

TOP