คันโต

ย้อนวัยไปกับสวนสนุกสุดเหวี่ยงที่พลาดไม่ได้ หากเดินทางไปภูมิภาคคันโต

ภูมิภาคคันโต (Kanto) ประกอบด้วย 8 จังหวัดได้แก่ มหานครโตเกียว (Tokyo Metropolitan), จังหวัดอิบะระกิ (Ibaraki), จังหวัดโทชิงิ (Tochigi), จังหวัดกุมมะ (Gumma), จังหวัดชิบะ (Chiba), จังหวัดไซตะมะ (Saitama), จังหวัดคะนะงะวะ (Kanagawa) และจังหวัดยะมะนะชิ (Yamanashi) ซึ่งภูมิภาคนี้เป็นจุดศูนย์กลางของประเทศญี่ปุ่นและมีระบบการคมนาคมที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ค่ะ อีกทั้งเมืองหลวงอย่าง โตเกียว ก็ยังอยู่ในภูมิภาคนี้อีกด้วยด้วยค่ะ ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกที่จะเที่ยวภูมิภาคคันโตกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งในการเดินทางไปเที่ยวนั้น ยิ่งไปกันแบบครอบครัวด้วยแล้วล่ะก็สิ่งหนึ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลยนั่นก็คือการไปเที่ยวสวนสนุกนั่นเองค่ะ ดังนั้นวันนี้ผู้เขียนมีโอกาสจึงได้รวบรวมสวนสนุกในภูมิภาคคันโตมาฝากทุกคนกันด้วย โดยจะมีที่ใดบ้างนั้นเราไปเริ่มกันเลยดีกว่านะค้า

Tokyo Disneyland

IMG BY : en.wikipedia

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มกันที่สวยสนุกแห่งแรกกันเลยดีกว่าค่ะ โตเกียวดิสนีย์แลนด์จุดหมายปลายทางของการไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นสำหรับใครหลายๆท่านที่เป็นแฟนคลับของค่ายการ์ตูนอย่างดิสนีย์ อีกทั้งที่โตเกียวแห่งนี้ยังเป็นดิสนีย์แลนด์แห่งแรกที่ตั้งอยู่นอกสหรัฐอเมริกาด้วยนะคะ สวนสนุกแห่งนี้จะพาทุกท่านจะเข้าไปในดินแดนแห่งความฝันในวัยเด็ก อีกทั้งยังมีเครื่องเล่นและขบวนพาเรทที่ตระการตาอีกด้วยค่ะ

จุดเด่นของ Tokyo Disneyland

  • เครื่องเล่นในสวนสนุกจะอิงมาจากคาแรกเตอร์ในการ์ตูนของค่ายดิสนีย์
  • มีโชว์ขบวนพาเหรทในช่วง 12.00-15.00 น. และช่วง กลางคืนที่เป็นไฮไลท์ของทางสวนสนุก
  • หากท่านใดที่ไม่อยากเดินทางอาจจะจองห้องพักในสวนสนุก (โตเกียวดิสนีย์แลนด์รีสอร์ท) ได้อีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติมของ Tokyo Disneyland

วัน-เวลาทำการ จันทร์-อาทิตย์ 08.00-22.00 น.
อัตราค่าเข้า 7,900 – 9,400 เยน (ขึ้นอยู่กับวันที่เข้าชมและบางเครื่องเล่นอาจมีค่าบริการเพิ่มเติม)
วิธีการเดินทาง สามารถขึ้นรถไฟสายต่างๆที่อยู่ใกล้ดังนี้เพื่อไปลงที่ Maihama Station
1. สาย Chuo Line จาก Shinjuku Station
2. สาย JR Yamanote Line จาก ลIkebukuro Station และ Akihabara Station
3. สาย JR Tokaido Line หรือ JR Keihin-Tohoku Line จาก Yokohama Station
4. JR Narita Express จาก สนามบินนาริตะ
5. Tokyo Monorail จาก สนามบินฮาเนดะ
เมื่อเดินทางมาถึง Maihama Station ก็ใช้เวลาเดินต่ออีกเพียง 5 นาทีก็จะถึงทางเข้าหลักของ โตเกียวดิสนีย์แลนด์แล้วค่ะ
เบอร์โทรศัพท์ +81 45-330-5211
ที่อยู่ 1-1 Maihama, Urayasu, Chiba 279-0031, Japan

Tokyo DisneySea

IMG BY : japan-guide

เมื่อมีโตเกียวดิสนีย์แลนด์ไปแล้ว สวนสนุกอีกแห่งหนึ่งที่คงจะขาดไปไม่ได้เลย ก็เห็นทีจะเป็นในส่วนของโตเกียวดิสนีย์ซีใช่ไหมเล่าคะ โตเกียวดิสนีย์ซีได้รับแรงบันดาลใจมากจากเทพนิยายและตำนานแห่งท้องทะเล โดยมีแนวคิดหลักของพื้นที่ที่เกี่ยวกับน้ำ เช่น เมืองเวนีส ลำธารน้ำ ทะเล เรือไททานิก ถ้ำใต้น้ำในปล่องภูเขาไฟ เมืองในป่าดิบชื้นแถบอเมริกากลาง เงือกและเมืองบาดาล เป็นต้น โดยทั้งสวนสนุกแบ่งเป็น 7 ธีม ได้แก่

  1. เมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean Harbor) สร้างเป็นสไตล์อิตาเลียน
  2. เกาะลึกลับ (Mystery Island) ตั้งอยู่ภายในภูเขาไฟใจกลางของพาร์ค
  3. ทะเลสาบนางเงือก (Mermaid Lagoon) โลกใต้ท้องทะเลจากเรื่อง Little Mermaid ของตัวเอกอย่างแอเรียลนั่นเองค่ะ
  4. ชายฝั่งอาราเบียน (Arabian Coast) โลกของอาลาดินและ 1001 อาหรับราตรี อีกทั้งยังมี show มายากลจากยักษ์จินนี่ที่มาจากตะเกียงวิเศษอีกด้วย
  5. แม่น้ำเดลต้าที่สาบสูญ (Lost River Delta)
  6. พอร์ทดิสคัฟเวอรี่ (Port Discovery)
  7. อเมริกันวอเตอร์ฟร้อนท์ (American Waterfront)

จุดเด่นของ Tokyo DisneySea

  • นอกจากเป็นสวนสนุกแล้วยังมีร้านของที่ระลึกขายอีกด้วย
  • สามารถซื้อตั๋ว Fast pass เพื่อที่จะไม่ต้องเสียเวลาในการต่อคิวของหลายๆเครื่องเล่นได้
  • นอกจากขอเล่นต่างๆแล้วยังมีร้านอาหารต่างๆทั้งของคาวและขอหวานที่จัดเป็นธีมจากการ์ตูนดิสนีย์ต่างๆด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติมของ Tokyo DisneySea

วัน-เวลาทำการ จันทร์-อาทิตย์ 08.00-22.00 น.
อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ (18 ปีขี้นไป) ราคา 7,400 เยน, เยาวชน (12 – 17 ปี) ราคา 6,400 เยน, เด็ก (4 – 11 ปี) ราคา 4,800 เยน และเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี เข้าฟรี (1-Day Passport)
วิธีการเดินทาง สามารถขึ้นรถไฟสายต่างๆที่อยู่ใกล้ดังนี้เพื่อไปลงที่ Maihama Station
1. สาย Chuo Line จาก Shinjuku Station
2. สาย JR Yamanote Line จาก ลIkebukuro Station และ Akihabara Station
3. สาย JR Tokaido Line หรือ JR Keihin-Tohoku Line จาก Yokohama Station
4. JR Narita Express จาก สนามบินนาริตะ
5. Tokyo Monorail จาก สนามบินฮาเนดะ
เมื่อเดินทางมาถึง Maihama Station จากนั้นสามารถเดินมาต่อรถไฟสาย Disney Resort Line ที่สถานี Resort Gateway เพื่อมาลงที่สถานี Tokyo DisneySea ได้เลยค่ะ
เบอร์โทรศัพท์ +81 570-008-632
ที่อยู่ 1-13 Maihama, Urayasu, Chiba 279-8511, Japan

Small Worlds Tokyo

IMG BY : timeout

สมอลเวิลด์โตเกียว สวนสนุกย่อส่วนและเมืองจำลองจากสถานที่ต่างๆทั่วโลก ไม่เพียงแต่โลกของเราเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงโลกในจินตนาการอย่างการ์ตูนเรื่องดังของญี่ปุ่นหลายเรื่อง เช่น เซเลอร์มูน หรือ Evangelion เป็นต้น ซึ่ง Small Worlds Tokyo นี้ ตั้งอยู่ในย่านอาริอาเคะ (Ariake) ในโตเกียว โดยเพิ่งเปิดเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมานี่เองค่ะ

จุดเด่นของ Small Worlds Tokyo

  • มีการจัดแสดงสิ่งของย่อส่วน เมืองจำลอง สถานที่ต่างๆทั่วโลก ทั้งของจริง และในโลกจินตนาการ
  • มีพื้นที่กว้างถึง 8,000 ตร.ม. เลยทีเดียว

ข้อมูลเพิ่มเติมของ Small Worlds Tokyo

วัน-เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 11.00-19.00 น. และ เสาร์-อาทิตย์ 11.00-20.00 น.
อัตรค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 2,700 เยน, เด็กนักเรียน 1,900 เยน และ เด็กเล็ก (4-11 ปี) 1,500 เยน (1-Day Passport)
วิธีการเดินทาง สามารถเดินทางด้วยรถไฟมาได้ 2 สถานี คือ
1. สถานี Ariake-Tennis-no-mori ของรถไฟสาย Yurikamome
เมื่อออกมาแล้วให้ลงบันไดทางออก 1A เมื่อลงมาถึงข้างล่างแล้วให้เลี้ยวขวาเข้าซอยไปเพื่อเดินไปทางเข้าใช้เวลาเดินประมาณ 3 นาที
2. สถานี Kokusai-tenjijo ของรถไฟสาย Rinkai
เมื่อเดินออกไปด้านนอกสถานีแล้ว ให้เดินไปทางด้านขวา เดินตรงผ่านร้าน LAWSON ไป จะเจอสะพานลอยใหญ่ ให้เดินข้ามสะพานลอยไป ซึ่งระหว่างเดินก็จะเห็นอาคารสีขาวอยู่ด้านหน้า ถ้าหากสังเกตดีๆ จะเห็นชื่อ SMALL WORLDS โดยจะใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาทีด้วยกัน
เบอร์โทรศัพท์ ไม่ระบุ
ที่อยู่ Japan, 〒135-0063 Tokyo, Koto City, Ariake, 1 Chome−3−33

Asakusa Hanayashiki

IMG BY : e-asakusa

สวนสนุกฮานายาชิกิตั้งอยู่บริเวณย่านอาซากุสะ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดเซ็นโซจิมากนัก เดิมในปี 1853 เปิดทำการในรูปแบบของ Flower Park (สวนดอกไม้) ซึ่งชื่อของสวนสนุกก็มาจากของเดิมที่เปิดเป็นสวนดอกไม้คือคำว่า Hana (ดอกไม้) และ Yashiki (คฤหาสน์) รวมเป็น Hanayashiki (ฮานายาชิกิ) ที่แปลความหมายได้ประมาณว่า คฤหาสน์ดอกไม้นั่นเองค่ะ ภายหลังจากการเปิดสวนดอกไม้ในปี 1872 อุปกรณ์และเครื่องเล่นต่างๆของสวนสนุกก็ถูกนำมาตั้งไว้ภายใน แต่ทว่าหลังจากนั้นสวนสนุกแห่งนี้ก็ถูกปิดลงชั่วคราวเนื่องจากแผ่นดินไหวและสงคราม ซึ่งเมื่อสงครามสิ้นสุดลงแล้ว ก็ได้กลับมาเปิดขึ้นใหม่อีกครั้งและใช้เป็นสวนสนุกขนาดเล็กมาจนถึงปัจจุบันนี้นั่นเองค่ะ

จุดเด่นของ Asakusa Hanayashiki

  • เครื่องเล่นภายในสวนสนุกมีประมาณ 20 ประเภท อาจจะดูมีความโอลสคูลสูงมาก หลายเครื่องเล่นอาจดูเก่าไปบ้างตามกาลเวลา แต่ทางสวนสนุกได้มีการตรวจสอบสมรรถภาพในการทำงานอยู่เป็นประจำ
  • เป็นสวนสนุกที่ตอบโจทย์ของความการของเด็กๆ มากกว่าเนื่องด้วยเครื่องเล่นน่ารัก สีสันสดใส และไม่ได้หวาดเสียวมากนัก
  • มีจุดชมวิวย่านอาซากุสะจากบนดาดฟ้า

ข้อมูลเพิ่มเติมของ Asakusa Hanayashiki

วัน-เวลาทำการ จันทร์-อาทิตย์ 10.00-18.00 น. (ทั้งนี้เวลาทำการอาจจะขึ้นอยู่กับฤดูกาลและสภาพอากาศอีกด้วย) และสามารถเข้าสวนสนุกได้ช้าสุดคือ 30 นาทีก่อนสวนสนุกปิด
อัตรค่าเข้าชม อายุ 13-64 ปี 1,000 เยน, 7-12 ปี 500 เยน, 65 ปีขึ้นไป 500 เยน และ ผู้ทุพพลภาพเข้าฟรี (ค่าเข้าสวนสนุกไม่รวมกับค่าเครื่องเล่น)
หากอยากเล่นเครื่องเล่นทั้งหมด ทางสวนสนุกก็มี Free Ride Pass จำหน่ายค่ะ
อัตรา Free Ride Pass อายุ 13-64 ปี 2,300 เยน, 7-12 ปี 2,000 เยน, 65 ปีขึ้นไป 1,800 เยน, ต่ำกว่า 6 ปี 1,800 เยน (ทั้งนี้หากไม่ได้ต้องการเล่นทุกเครื่องอาจจะซื้อแยกเป็นแต่ละเครื่องเล่นไปก็ได้เช่นกันค่ะ Regular Ticket 100 เยน/ใบ และ Coupon Book 1,000 เยน/11 ใบ)
วิธีการเดินทาง 1. สามารถเดินโดยใช้เวลาประมาณ 3 นาทีจากสถานี Asakusa โดยขึ้นรถไฟ Tsukuba Express
2. ใช้เวลาเดิน 5 นาทีจากสถานี Asakusa โดยรถไฟ Tokyo Metro Ginza Line, Toei Asakusa Line หรือ Tokyo Skytree Line
เบอร์โทรศัพท์ ไม่ระบุ
ที่อยู่ 2 Chome-28-1 Asakusa, Taito City, Tokyo 111-0032, Japan

Sanrio Puroland

IMG BY : puroland

สวนสนุก Sanrio Puroland เป็นสวนสนุกที่มีแรงบรรดาลใจจากคาแรคเตอร์ในการ์ตูนอีกแห่งหนึ่งที่ใหญ่รองลงมาจากดิสนีย์แลนด์เลยค่ะ ซึ่งภายในสวนสนุกแห่งนี้จะตกแต่งเป็นธีมการ์ตูนที่มาจากค่ายซานริโอ (Sanrio) มีคาแรกเตอร์หลักหลายๆคาแรคเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น Hello Kitty, My Melody, Little Twin Stars, Kuromi, และอีกมากมายเลยค่ะ

จุดเด่นของ Sanrio Puroland

  • สามารถซื้อบัตร Puropass ที่ช่วยให้ไม่ต้องต่อคิวนานสำหรับแต่ละเครื่องเล่น
  • ร้านอาหารในสวนสนุกขายอาหารที่ตกแต่งในธีมของคาแรคเตอร์ต่างๆจากซานริโอ
  • นอกจากนั้นยังมีร้านที่ขายของที่ระลึก ให้ทุกท่านซื้อเก็บไว้หรือเป็นของฝากก็ได้เช่นกันค่า

ข้อมูลเพิ่มเติมของ Sanrio Puroland

วัน-เวลาทำการ วันจันทร์, อังคาร, และศุกร์ 10.00-17.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ 9.30-17.00 น. (ปิดวันอังคาร-พุธ)
อัตราค่าเข้าชม Day passport ผู้ใหญ่ 3,600-4,900 เยน, เด็ก 2,500-3,800 เยน / Afternoon passport (หลัง 14.00 น. เป็นต้นไป) ผู้ใหญ่ 2,400-3,200 เยน และ เด็ก 2,200-2,900 เยน โดยผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไปหรือเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี เข้าชมฟรีนะคะ (โดยราคาในแต่ละวันจะแตกต่างกันไปสามารถเช็กรายละเอียดได้ที่หน้าเว็บของสวนสนุกนะคะ)
วิธีการเดินทาง สามารถเดินทางมาจากสถานี Shinjuku ขึ้นรถไฟสาย Keio Line โดยมาเปลี่ยนขบวนเป็น KEIO SAGAMIHARA LINE ที่สถานี Chofu เมื่อถึงแล้วเดินต่ออีกเพียง 5 นาทีก็จะถึง Sanrio Puroland แล้วค่ะ
เบอร์โทรศัพท์ +81 42-339-1111
ที่อยู่ 1 Chome-31 Ochiai, Tama, Tokyo 206-8588, Japan


Seibuen Amusement Park

IMG BY : en.wikipedia

สวนสนุกเซบุเอ็น สวนสนุกสไตล์ญี่ปุ่นสมัยโชวะ สวนสนุกแห่งนี้เปิดทำการมาตั้งแต่ปี 1950 และได้ปิดปรับปรุงเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมาเพื่อฉลองครบรอบ 70 ปีและเมื่อปี 2022 ก็ได้กลับมาเปิดทำการอีกครั้ง ซึ่งการกลับมาเปิดสวนสนุกครั้งนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับคนญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีการปรับปรุงให้มีเครื่องเล่นและโซนใหม่ๆมากขึ้นนั่นเองค่ะ และที่สำคัญเลยคือสวนสนุกแห่งนี้จะใช้จ่ายกันด้วยสกุลเงินที่ชื่อว่า Seibuen เท่านั้น (ยกเว้นตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ) โดยทุกท่านสามารถแลกเงินนี้ได้พรเอมกับตอนที่ซื้อบัตรเข้าสวนสนุกเลยนะคะ มีเป็นทั้งแพ็กเกจหรือซื้อแยกก็ได้เช่นกันค่า (120 เยน = 10 Seibuen) สวนสนุกแห่งนี้จะแบ่งออกเป็นหลายหลายโซน ซึ่งหลักๆที่คนนิยมไปกันก็คือ ถนนคนเดินในยุคโชวะ (Sunset Hill Shopping Street) เป็นการจำลองถนนคนเดินและร้านค้าต่างๆมากมายในยุคนั้นค่ะ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีตัวละครที่โด่งดังในยุคนั้น อย่าง เจ้าหนูอะตอม และก็อตซิลล่า ด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังมีของเล่นต่างๆอย่าง ม้าหมุน, ถ้วยหมุน เป็นต้น ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ห้ามพลาดเป็นอันเด็ดขาดเลยล่ะค่ะ

จุดเด่นของ Seibuen Amusement Park

  • นอกจากเครื่องเล่นแล้วนั้นที่สวนสนุกแห่งนี้ยังรายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามตลอดปีอีกด้วย
  • ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่สวนสนุกแห่งนี้จะกลายเป็นจุดชมดอกซากุระ
  • ในฤดูร้อนจะมีดอกไม้ไฟให้ทุกท่านดูชม
  • ช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะมีใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงาม
  • และฤดูหนาวในสวนสนุกแห่งนี้ก็จะมีไฟประดับที่ส่องสว่างยามค่ำคืนให้อย่างสวยงาม

ข้อมูลเพิ่มเติมของ Seibuen Amusement Park

วัน-เวลาทำการ วันจันทร์-อาทิตย์ 10.00-17.00 น. (ทั้งนี้เวลาเข้าชมอาจขึ้นอยู่กับฤดูกาลและสภาพอากาศ)
อัตราค่าเข้าชม ตั๋ว 1-Day Pass (รวมค่าเข้าและค่าเครื่องเล่นแต่ไม่รวมธนบัตรสกุลเงิน Seibuen) : ผู้ใหญ่ 4,400 เยนและเด็ก 3,300
ตั๋ว 1-Day Pass (รวมค่าเข้าและค่าเครื่องเล่นและรวมธนบัตรสกุลเงิน Seibuen มูลค่า 3,600 เยน) : ผู้ใหญ่ 7,800 เยนและเด็ก 6,750
วิธีการเดินทาง สามารถเดินทางมาด้วยรถไฟสาย Shinjuku Line จากสถานีชินจูกุไปลงที่ สถานีโคะคุบุนจิ ต่อด้วยรถไฟสาย Tamako Line ลงที่สถานีทามาโคะและต่อด้วยรถไฟสาย Seibu-Yamaguchi Line ลงที่สถานีเซบุเอ็น ยูเอ็นจิ (Seibuen-Yuenchi Station) รวมระยะเวลาในการนั่งรถไฟทั้งหมดคือประมาณ 50 นาทีค่ะ
เบอร์โทรศัพท์ +81 4-2929-5354
ที่อยู่ 2964 Yamaguchi, Tokorozawa, Saitama 359-1145, Japan

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับสวนสนุกยอดฮิตในภูมิภาคคันโตที่ผู้เขียนรวบรวมมาฝากกันในวันนี้ หวังว่าจะมีสักที่หรือสองที่ที่อยู่ในลิตส์สวนสนุกที่ต้องไปในคันโตของทุกท่านเลยนะคะ ในช่วงนี้ก็ยังคงต้องใส่แมสก์ พกแอลกอฮอล์กันอยู่ อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะค้า สำหรับบทความนี้ก็คงต้องลากันไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความถัดไปนะคะ

Pick up


บทความแนะนำ

  1. เพลิดเพลินไปกับซากุระที่เกียวโต แนะนำสถานที่ชมดอกไม้ เครื่องแต่งกายและโรงแรมที่ใกล้กับสถานที่ชมดอกไม้

  2. แนะนําสถานที่ชมดอกไม้ในภูมิภาคกลางและตะวันตกของญี่ปุ่น

  3. แนะนำ 10 เทศกาลน่าสนใจในญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ผลิ อากาศเย็นสบาย เหมาะกับการท่องเที่ยวแบบชิลๆ

บทความล่าสุด

  1. เมนูอาหารยอดฮิตประจำฟุกุโอกะ ไปเยือนแล้วก็ต้องลอง!!

  2. แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดฟุกุโอกะที่ใกล้กับสถานีรถไฟ JR

  3. แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองโกเบที่ใกล้กับสถานีรถไฟ JR

  4. แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดคานากาวะที่ใกล้กับสถานีรถไฟ JR

  5. เพลิดเพลินไปกับการท่องเที่ยวในเมืองคานาซาวะ เพลิดเพลินไปกับความงดงามของเมืองและสัมผัสถึงประวัติศาสตร์

  6. JR Hokuriku Arch Pass แนะนำพร้อมอธิบายรายละเอียดของตั๋ว

  7. แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในนาโกย่า ศูนย์กลางของภูมิภาคชูบุที่ต้องลองมาเยือน

  8. ชมธรรมชาติอันสวยงามกันได้ที่เมืองอาซาฮิคาวะ (Asahikawa) ฟุราโนะ (Furano) และบิเอ (Biei)

  9. JR Central Rail Pass แนะนำพร้อมอธิบายรายละเอียดของตั๋ว

  10. แนะนำเมนูแสนอร่อยของภูมิภาคฮอกไกโด ไปเยือนทั้งที ไม่ควรพลาด

TOP