คิวชู

ท่องเที่ยวที่คาโกชิมะและมิยาซากิด้วยรถไฟ D&S (จังหวัดมิยาซากิ)

สำหรับบทความนี้ เราขอแนะนำทริปการท่องเที่ยวด้วยรถไฟ D&S จากจังหวัดคาโกชิมะไปจังหวัดมิยาซากิที่กำลังเป็นที่นิยมที่ภูมิภาคคิวชูในปัจจุบันกันค่ะ
โดยเราจะขอแนะนำรถไฟ D&S สามารถเพลิดเพลินได้ทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถเดินทางไปได้ด้วยรถไฟขบวนนี้ค่ะ

รถไฟ D&S คือ?

รถไฟ D&S มาจากคำว่า “Design & Story” ซึ่งเป็นรถไฟขบวนพิเศษที่ผสมผสานการออกแบบที่สวยงามและการเล่าเรื่องเข้าด้วยกัน รถไฟแต่ละขบวนจะมีคอนเซ็ปต์ต่างๆ เป็นของตัวเองเพื่อมอบประสบการณ์พิเศษให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนภูมิภาคคิวชู และไม่เพียงแค่การตกแต่งทั้งภายนอกและภายในเท่านั้น แต่ยังมีอีเวนท์ต่างๆ รวมถึงอาหารและการจำหน่ายสินค้าบนรถไฟที่ได้ใส่ความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ลงไปอีกด้วย

ข้อมูลตั๋วเดินทาง:JR KYUSHU RAIL PASS

เราขอแนะนำตั๋วโดยสาร JR KYUSHU RAIL PASS ที่จะช่วยให้คุณเพลิดเพลินไปกับการเดินทางในภูมิภาคคิวชูอย่างอย่างสะดวกสบายและประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น

จุดเด่น:

  • นั่งรถไฟ “สาย JR” ในภูมิภาคคิวชูได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
  • ซื้อได้เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวญี่ปุ่นด้วยวีซ่าท่องเที่ยวระยะสั้น

ชนิดของตั๋ว:

  • คิวชูทั้งภูมิภาค:ระยะเวลา 3 วัน / 5 วัน / 7 วัน
  • ภูมิภาคคิวชูตอนเหนือ:ระยะเวลา 3 วัน / 5 วัน
  • ภูมิภาคคิวชูตอนใต้:ระยะเวลา 3 วัน

วิธีสั่งซื้อ:

  • จากเว็บไซต์ทางการ JR KYUSHU RAIL PASS Online Booking
  • จากบริษัทตัวแทนจำหน่ายในไทย

ตั๋วนี้สามารถใช้จองที่นั่งบนรถไฟชินคันเซ็นและรถไฟ D&S บางขบวนได้ ซึ่งจะสะดวกในการเดินทางเป็นอย่างมากเลยค่ะ


ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ที่ KLOOK

รถไฟ D&S : 36+3

36+3 คือ?

36+3 คือ รถไฟท่องเที่ยวแบบพิเศษที่ทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่นและทิวทัศน์อันสวยงามในภูมิภาคคิวชู ซึ่งรถไฟนี้จะวิ่งให้บริการตามเส้นทางที่แตกต่างกันในแต่ละวัน เพื่อให้เหล่านักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินไปกับเสน่ห์ของภูมิภาคนี้อย่างเต็มที่ ภายในรถไฟจะมีการตกแต่งอย่างหรูหราและมีเมนูอาหารสุดพิเศษคอยให้บริการ เพื่อให้เพื่อนๆมีความทรงจำแสนพิเศษระหว่างการเดินทาง และสำหรับการเดินทางในครั้งนี้ เราจะไปตามเส้นทางการเดินรถไฟของวันศุกร์ โดยจะวิ่งจากสถานี JR คาโกชิมะชูโอ (JR Kagoshima Chuo Station) ไปยังสถานี JR มิยาซากิ (JR Miyazaki Station) ค่ะ

ดู YouTube ได้ที่นี่

เส้นการเดินรถของวันศุกร์

คุณจะสนุกและเพลิดเพลินไปกับเสน่ห์ของภูมิภาคคิวชูตอนใต้ที่เชื่อมจากคาโกชิมะชูโอไปยังมิยาซากิ ชมทัศนียภาพของเกาะซากุระจิมะและแนวชายฝั่งอันงดงาม และยังสามารถเพลิดเพลินไปกับวัฒนธรรมและสินค้าท้องถิ่นที่จุดจอดระหว่างทางได้อีกด้วย ถือเป็นการเดินทางอันแสนวิเศษที่แต่งแต้มไปด้วยภูมิทัศน์ของประเทศทางตอนใต้ของญี่ปุ่น

สิ่งที่แนะนำ

  • ตัวรถไฟมีความหรูหรา
  • ภายในมีการตกแต่งและที่นั่งสไตล์ญี่ปุ่นแบบเรียบง่ายแต่ดูแพง
  • เมนูอาหาร
  • กิจกรรมภายในรถไฟ

ตัวรถไฟเป็นสีดำและโลโก้สีเงินที่ทำให้รู้สึกถึงความหรูหรา

ภายในรถไฟทั้งขบวนจะดูหรูหราและเงียบสงบ ไม่ว่าจะเป็นหลังคาไปจนถึงกำแพง ที่นั่งส่วนตัวและนั่งแบบธรรมดา ซึ่งที่นั่งภายในรถไฟขบวนนี้จะมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าแบบไหนก็ให้ความรู้สึกในการตกแต่งแบบญี่ปุ่นอย่างดีเยี่ยมเลยค่ะ

ด้วยที่นั่งอันหลากหลายและตัวรถไฟที่ตกแต่งให้ดูเหมือนร้านเสริมสวย มันทำให้ลืมไปเลยล่ะค่ะว่ากำลังนั่งรถไฟอยู่ เห็นที่นั่งแต่ละที่แล้วก็อยากจะลองนั่งดูให้หมดไปเลย

อาหารกลางวันที่ให้บริการภายในรถไฟนั้นเป็นอาหารที่ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นตามแต่ละฤดูกาล อีกทั้งยังมีเชฟมือดีเป็นคนปรุงอาหารด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะแตกต่างกันไปตามวันและเส้นทางในการเดินรถไฟ ช่วงเวลาที่รับประทานอาหารไปพร้อมกับการชมภูมิทัศน์โดยรอบอันแสนงดงามจะช่วยสร้างความทรงจำในการเดินทางให้พิเศษยิ่งขึ้นกว่าเดิม

นอกจากนี้ 36+3 มีแพคเกจเมนูอาหารกลางวันในรูปแบบสินค้าสำหรับเดินทาง โดยแพคเกจนี้จะมีเซ็ตตั๋วเดินทาง ห้องส่วนตัว และอาหารมาให้เลยค่ะ แต่แพคเกจนี้จะไม่สามารถใช้กับ JR KYUSHU RAIL PASS ได้นะ และถ้าหากต้องการใช้ JR KYUSHU PASS เพื่อขึ้นรถไฟ 36+3 ก็จำเป็นที่จะต้องซื้อตั๋วสีเขียวแยกต่างหากด้วย คุณสามารถนำอาหารของตัวเองขึ้นมารับประทานได้ และยังสามารถเพลิดเพลินกับการรับประทานเมนูอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ภายในรถไฟและซื้ออาหารและเครื่องดื่มที่สถานีระหว่างทางได้อีกด้วย


รายละเอียดสามารถเช็คจากเว็บไซต์

ภายในรถไฟจะมีทั้งเค้าเตอร์บาร์และอาหารบุฟเฟต์คอยให้บริการ สามารถเพลิดเพลินไปกับเหล้าสาเกของญี่ปุ่นได้ ยิ่งใครที่ชอบดื่มเหล้าสาเกยิ่งไม่ควรพลาดเลยล่ะค่ะ

การซื้อตั๋ว

จำเป็นจะต้องมีตั๋ว JR KYUSHU Pass และตั๋วสีเขียวสำหรับขึ้นรถขบวนนี้แยกกันค่ะ


โบกี้ที่ 1・2 จองห้องและที่นั่งส่วนตัว


โบกี้ที่ 5・6 จองที่นั่งส่วนตัว

ป้ายที่ 1 : สถานี JR คิริชิมะ จิงงู (JR Kirishima Jingu Station)

เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว จะมาถึงจุดจอดระหว่างทางอย่างสถานี JR คิริชิมะ จิงงู ระหว่างที่รถไฟจอดอยู่จะสามารถลงจากรถไฟและสนุกกับกิจกรรมง่ายๆ ได้เลยค่ะ โดยจะมีกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อและลองชิมอาหารท้องถิ่นหรือการลองเล่นกลองไทโกะของญี่ปุ่น (อีเว้นท์นี้ มีจัดขึ้นเป็นบางวันเท่านั้น)

ในระหว่างที่รถไฟจอดอยู่ สามารถออกไปนอกสถานีได้ด้วยนะ
โดยที่ทางเข้าสถานีจะมีประตูโทริอิประดับอยู่ด้วยค่ะ

ภายในอาคารสถานีรถไฟจะมีไม้ถูกใช้งานไปตามจุดต่างๆ อย่างมากมาย แม้แต่จุดเล็กๆ น้อยๆ อย่างกรอบนาฬิกาหรือตารางเวลา ทำให้ตัวอาคารสถานีน่าชมเป็นอย่างมากเลย

ป้ายที่ 2 : สถานี JR โอสึมิ โอคาวาระ (JR Osumi Okawara Station)

สำหรับสถานีนี้จะมีอาคารสถานีอันเก่าขนาดเล็กอยู่
โดยรถไฟจะหยุดที่สถานี JR โอสึมิ โอคาวาระ เป็นเวลา 45 นาที

Photos:363.buratakara.com

พอลงจากรถไฟแล้วจะเห็นรถขายอาหารต่างๆ เรียงรายกันอยู่มากมายนอกอาคารสถานี ทำให้มีโอกาสพบปะกับผู้คนท้องถิ่นด้วย โดยจะมีทั้งชาและอาหารท้องถิ่นที่สามารถรับประทานตรงจุดนั้นได้อีกด้วย


ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ที่ KLOOK

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในจังหวัดมิยาซากิ

ศาลเจ้ามิยาซากิ จิงงุ (Miyazaki Jingu)

ศาลเจ้ามิยาซากิจิงงุเป็นศาลเจ้าอันสวยงามที่ตั้งอยู่ในเมืองมิยาซากิ เป็นจุดอันเงียบสงบที่ล้อมรอบไปด้วยป่าไม้ เหล่านักท่องเที่ยวสามารถเดินชมพื้นที่อันกว้างใหญ่ภายในศาลเจ้า และยังเพลิดเพลินไปกับสถาปัตยกรรมของญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม รวมถึงธรรมชาติอันสวยงามได้อีกด้วยค่ะ

โดยเฉพาะซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้อันสวยงามในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่นี่จึงเป็นสถานที่ยอดนิยมในการถ่ายรูปเป็นอย่างมากเลยค่ะ ขอแนะนำให้กับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสถึงวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเลย

ศาลเจ้ามิยาซากิ จิงงุ
การเดินทาง:ขับรถหรือนั่งแท็กซี่จากสถานี JR มิยาซากิ (JR Miyazaki Station) 10 นาที

อาโอชิมะ (Aoshima)

อาโอชิมะเป็นเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่นอกชายฝั่งเมืองมิยาซากิที่มีความยาวรอบเกาะประมาณ 1.5 กิโลเมตร ถือเป็นจุดชมธรรมชาติอันสวยงามและทิวทัศน์ที่เป็นเอกลักษณ์เลยล่ะค่ะ ที่นี่เป็นที่นิยมสำหรับชาวต่างชาติเลย เพราะว่าจะได้เพลิดเพลินไปกับทะเลและธรรมชาติพร้อมกับสัมผัสถึงบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์ของญี่ปุ่น

มีหินรูปร่างแปลกๆ ล้อมรอบบริเวณเกาะแห่งนี้ โดยหินเหล่านี้เกิดจากการถูกคลื่นกัดเซาะ และที่นี่ได้ถูกเรียกว่า “อ่างล้างหน้าปีศาจ (Oni no Sentakuita)” นั่นเอง เป็นสถานที่ที่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังของธรรมชาติเลยล่ะค่ะ

หากเดินลึกเข้าไปก็จะเจอกับศาลเจ้าอาโอชิมะ ซึ่งเป็นศาลเจ้าอันงดงามและให้พรเกี่ยวกับความรัก ทำให้เป็นศาลเจ้ายอดนิยมสำหรับคนหนุ่มสาวค่ะ

ภายในศาลเจ้าก็จะมีพืชไม้อยู่นานาชนิดที่พบได้ในเขตร้อนชื้น ให้ความรู้สึกเหมือนได้สำรวจป่าประมาณนึงเลย เกาะอาโอชิมะจึงเป็นเกาะที่มีบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ และควรค่าแก่การเยี่ยมชมเป็นอย่างมาก

อาโอชิมะ (Aoshima)
การเดินทาง : นั่งรถไฟจากสถานี JR มิยาซากิ (JR Miyazaki Station) มาที่สถานี JR อาโอชิมะ (JR Aoshima) ประมาณ 30 นาที และเดินต่ออีก 10 นาที


ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ที่ KLOOK

ซันเมสเซนิจินัน (Sun Messe Nichinan)

ที่นี่เป็นสถานที่ที่คุณจะได้เห็นรูปปั้นโมอายของจริง โดยรูปปั้นโมอายนั้นเป็นรูปปั้นที่มีความเกี่ยวข้องกับเกาะอีสเตอร์เป็นอย่างมาก แต่รูปปั้นโมอายของซันเมสเซนิจินันถือเป็นหนึ่งเดียวในโลกที่ได้รับการยอมรับจากเกาะอีสเตอร์ เมื่อได้นำมาเปรียบเทียบความสูงกับต้นมะพร้าวดู มันอาจจะทำให้ดูง่ายขึ้น แต่รูปปั้นโมอายนี้สูงใหญ่มากเลยค่ะ ลองถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับรูปปั้นโมอายดูนะคะ

คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับแนวชายฝั่งและธรรมชาติอันสวยงามได้ อีกทั้งยังมีจุดถ่ายรูปสวยๆ อยู่มากมายอีกด้วย เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพาครอบครัวหรือว่าคนรักมาด้วยกัน เป็นจุดที่ห้ามพลาดในการมาเที่ยวที่มิยาซากิเลยค่ะ

ซันเมสเซนิจินัน (Sun Messe Nichinan)
การเดินทาง : ขับรถจากสถานี JR มิยาซากิ (JR Miyazaki Station) ประมาณ 50 นาที

ศาลเจ้าอูโด จิงงุ (Udo Jingu)

ศาลเจ้านี้เป็นศาลเจ้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งของเมืองนิจินัน จังหวัดมิยาซากิ ตัวศาลเจ้านี้ตั้งอยู่ภายในถ้ำ ซึ่งเหล่านักท่องเที่ยวสามารถฟังเสียงคลื่นทะเลพร้อมกับสัมผัสบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้าได้เลยล่ะค่ะ ที่นี่ถือเป็นสถานที่ที่เหล่าผู้คนมักจะมาขอพรเกี่ยวกับความรักและการให้กำเนิดบุตร โดยเฉพาะการ “โยนลูกบอลเสี่ยงโชค (Fortune Ball Toss)” นั้นเป็นที่นิยมมาก ว่ากันว่าหากขอพรและโยนลูกบอลเสี่ยงโชคลงไปในโพรงหิน มักจะนำพาโชคลาภมาให้ อีกทั้งคุณยังจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมของญี่ปุ่นอันเป็นเอกลักษณ์และสนุกสนานไปกับการถ่ายภาพได้อย่างจุใจอีกด้วยค่ะ ที่นี่จึงเป็นสถานที่ที่แนะนำว่าต้องมาให้ได้ค่ะ!

มีโคมไฟหินรูปกระต่ายน่ารักๆ อยู่มากมายรวมถึงแผ่นคำอธิษฐานเรียงรายกันอยู่ แม้ว่าจะพาเด็กๆ มาเยี่ยมชมด้วยก็จะต้องสนุกอย่างแน่นอนค่ะ

ว่ากันว่าหากโยนลูกบอลหินอุนทามะลงไปในโพรงหินรูปเต่าที่อยู่เชิงผาได้ จะทำให้พรที่ขอมานั้นสมปรารถนา นั่นจึงทำให้เหล่าผู้คนมากมายมาลองโยนหินนี้กัน เราก็ขอแนะนำให้คุณลองโยนหินนี้ดูด้วยนะคะ

ศาลเจ้าอูโด จิงงุ (Udo Jingu Shrine)
การเดินทาง : ขับรถจากสถานี JR มิยาซากิ (JR Miyazaki Station) มาประมาณ 50 นาที


ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ที่ KLOOK

แนะนำเมนูอาหารท้องถิ่นในมิยาซากิ

ร้านอาหารไก่พื้นเมืองมิยาซากิ “กุนเคอิ”

ร้านนี้จะใส่ใจในเมนูอาหารทุกจาน ยิ่งเมนูชื่อดังอย่างเนื้อไก่ซาชิมิ หากไม่ได้รับประทานภายใน 30 นาทีหลังจากนำมาเสิร์ฟให้ความสดของเนื้อไก่ก็จะลดลงจนถูกลดระดับลงไป

เนื้อไก่ซาชิมิจะมีความสดเป็นอย่างมาก และจะไม่มีกลิ่นเหม็นคาวใดๆ ออกมา ตัวเนื้อมีความแน่นและยืดหยุ่น แถมยังมีรสหวานนิดๆ ด้วยค่ะ ในประเทศไทยจะไม่ค่อยมีเนื้อแบบนี้มากเท่าไร เราขอแนะนำให้ลองทานเนื้อที่สดใหม่และอร่อยแบบนี้ดูค่ะ

ในบรรดาเมนูไก่ย่างอย่างเมนู “ซึคุเนะ” นั้นเป็นเมนูที่อร่อยเป็นพิเศษ รวมถึงยังมีเมนูให้เลือกอีกหลากหลายอย่าง “ชีสซึคุเนะ” เช่นกัน ลองมาเพลิดเพลินกับการลิ้มรสชาติอันหลากหลายกันดูเลยค่ะ

เมนูไก่ทอดคาราอาเกะถือเป็นเมนูที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอเลย ตัวเนื้อไก่แน่นและอร่อยเต็มปากเต็มคำมากๆค่ะ

แน่นอนว่าต้องหนีไม่พ้นกับเมนูพิเศษขึ้นชื่อของมิยาซากิอย่างไก่นัมบังค่ะ จริงๆ เมนูไก่นัมบังนี้สามารถหาทานได้ทั่วญี่ปุ่น แต่ไก่นัมบังจากแหล่งท้องถิ่นอย่างมิยาซากินี้ถือว่าเป็นเนื้อไก่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างไปจากภูมิภาคอื่นๆ เมนูนี้ถือเป็นเมนูไก่นัมบังของแท้เลย 🎵

ร้านกุนเคอิ หน้าสถานี JR มิยาซากิ
การเดินทาง : เดินจากสถานี JR มิยาซากิ (JR Miyazaki Station) ระยะทางสั้นๆ

แนะนำโรงแรมในมิยาซากิ:JR Kyushu Hotel Miyazaki

Photo: https://www.jrk-hotels.co.jp/Miyazaki/en/

โรงแรมนี้เดินจากทางออกฝั่งตะวันตกของสถานี JR มิยาซากิเพียง 1 นาที ไม่เพียงสะดวกแก่การท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการช็อปปิ้งและการหาเมนูอร่อยๆ ทานอีกด้วย ใครที่มาท่องเที่ยวที่มิยาซากิ ขอแนะนำโรงแรมนี้เลยค่ะ

เป็นห้องพักที่ดูสบายมากเลย ตัวห้องสว่างและกว้างอีกด้วย การจัดวางเฟอร์นิเจอร์อย่างเตียงและโซฟาก็เหมาะมากๆ แม้ว่าจะกางกระเป๋าเดินทางออกแล้ว ก็ยังมีพื้นที่เหลือเฟือในห้องค่ะ

ตัวห้องพักทั้งกว้างและสดใส โดยได้รับแรงบันดาลใจจากทะเลมิยาซากิ และยังมีห้องพักให้เลือกถึง 5 แบบตามวัตถุประสงค์ ห้องพักทุกห้องจะมีห้องน้ำพร้อมพื้นที่ซักล้างและเตียงนอนคุณภาพดีที่จะช่วยให้คุณนอนหลับสบายได้ตลอดทั้งคืน อีกทั้งยังสามารถชมวิวทิวทัศน์ของเมืองมิยาซากิได้อีกด้วยค่ะ

ที่โรงแรมยังมีอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์รวมถึงเมนูอาหารตะวันตกที่ใช้วัตถุดิบจาก 7 จังหวัดในคิวชู โดยจะเน้นวัตถุดิบของมิยาซากิเป็นส่วนใหญ่ สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับการรับประทานอาหารพร้อมกับชมทิวทัศน์ของมิยาซากิที่มีแสงแดดยามเช้าจากโซนประเทศตอนใต้ส่องลงมา แถมยังมีเมนูอาหารท้องถิ่นของมิยาซากิเตรียมไว้ให้อีกมากมายด้วยล่ะค่ะ

JR Kyushu Hotel Miyazaki
การเดินทาง : เดินจากทางออกฝั่งตะวันตกของสถานี JR มิยาซากิ (JR Miyazaki Station) 1 นาที


จองโรงแรมได้ที่

จองที่ HOTELS.com
จองที่ BOOKING.COM
จองที่ EXPEDIA
จองที่ AGODA


ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ที่ KLOOK

การนั่งรถไฟ D&S 36+3 ในการท่องเที่ยวจากคาโกชิมะไปมิยาซากินั้นถือเป็นประสบการณ์พิเศษที่จะทำให้คุณหลงไหลไปกับเสน่ห์ของภูมิภาคคิวชูตอนใต้ได้อย่างเต็มที่ ทัศนียภาพอันงดงามจากหน้าต่างบนรถไฟ การหยุดพักระหว่างทางและสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นจะทำให้การเดินทางนั้นสนุกยิ่งขึ้นไปอีก ที่จังหวัดมิยาซากินั้นก็มีสถานที่ท่องเที่ยวแสนวิเศษอยู่มากมาย ซึ่งจะช่วยมอบประสบการณ์อันล้ำค่าที่หาจากที่ไหนไม่ได้ให้กับคุณได้อย่างแน่นอนค่ะ ลองมาค้นหามนต์เสน่ห์ของภูมิภาคคิวชูตอนใต้ พร้อมกับเดินทางด้วยรถไฟแสนวิเศษจากคาโกชิมะไปมิยาซากิกันดูเลยค่ะ!

Pick up

บทความแนะนำ

  1. ท่องเที่ยวที่คาโกชิมะและมิยาซากิด้วยรถไฟ D&S (จังหวัดมิยาซากิ)

  2. ท่องเที่ยวที่คาโกชิมะและมิยาซากิด้วยรถไฟ D&S (จังหวัดคาโกชิมะ)

  3. 【จังหวัดโออิตะ】รับชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์รอบคิวชู! และสำรวจสถานที่ยอดฮิตจากเรื่อง “ผ่าพิภพไททัน” (Attack on Titan)

  4. 【จังหวัดฟุกุโอกะ】รับชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์รอบคิวชู! และสำรวจสถานที่ยอดฮิตจากเรื่อง “ดาบพิฆาตอสูร” (Kimetsu no Yaiba)

  5. 【จังหวัดคาโกชิมะ】รับชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์รอบคิวชู! และสำรวจสถานที่ยอดฮิตจากเรื่อง “ยามซากุระร่วงโรย” (5 Centimeters Per Second)

  6. 【จังหวัดคุมาโมโตะ】รับชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์รอบคิวชู! และสำรวจสถานที่ยอดฮิตจากเรื่อง “นัตสึเมะกับบันทึกพิศวง” (Natsume Yuujin Chou) และ “วันพีซ” (One Piece)

  7. แนะนำเส้นทางเที่ยวญี่ปุ่นกับ Peach : 3 เส้นทางที่ไม่ควรพลาด

  8. สัมผัสความประทับใจและความสะดวกสบาย บนเส้นทางเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ (ไทย) สู่โอซาก้า (ญี่ปุ่น)

  9. บริการแนะนำสำหรับการเดินทางในญี่ปุ่น!เก็บสัมภาระไว้ที่ร้าน ”KARAOKEKAN” ใกล้ๆ แล้วไปเที่ยว หรือช้อปปิ้งได้แบบไม่ต้องหิ้วของ♪ บริการฝากสัมภาระ Luggage Storage

  10. บริการขนส่งสัมภาระที่ทำให้คุณสนุกกับการเดินทางในโตเกียวได้อย่างเต็มที่ เมื่อมาถึงสนามบิน ก็สามารถไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องถือของ ! Luggage Transfer-Porter Express

บทความล่าสุด

  1. เพลิดเพลินกับการชมมรดกโลก พร้อมปักหมุดที่พักแสนสบายในฮิราอิซึมิ

  2. อุจิมัทฉะ ‘Uji Matcha Ichigoichie’ ชาเขียวพรีเมียมจากเกียวโต ที่ให้ประสบการณ์รสชาติระดับพิธีชายา

  3. ท่องเที่ยวเมืองแห่งประวัติศาสตร์ พร้อมแนะนำที่พักสุดสบายในโมริโอกะ

  4. เพลิดเพลินไปกับการแช่ออนเซ็น พร้อมแนะนำที่พักน่าสนใจฮานามากิ ออนเซ็น จังหวัดอิวาเตะ

  5. แนะนำที่พักอาโอโมริใกล้สถานี JR เดินจากสถานีไม่เกิน 10 นาที

  6. สัมผัส “วัฒนธรรมของกรุงเกียวโตขนานแท้” ในกรุงเทพฯ กับร้าน “NOAN”! พบกับอีเวนท์ 2 วันสุดพิเศษ พิธีชงชา × การแต่งกายด้วยชุดกิโมโน × เนื้อวากิว × เทศกาลชมจันทร์ (Tsukimi)

  7. แนะนำโรงแรมยอดเยี่ยมในฮิโรซากิ จังหวัดอาโอโมริ พักผ่อนสบาย ใกล้ปราสาทฮิโรซากิ และแหล่งวัฒนธรรมโทโฮคุ

  8. แนะนำที่พักยอดเยี่ยมใจกลางเมืองอาโอโมริ โรงแรมคุณภาพเพื่อการเดินทางที่สะดวกสบาย

  9. แนะนำที่พักสุดพิเศษในฟุราโนะและบิเอะ พร้อมเพลิดเพลินไปกับการชมธรรมชาติที่สวยงาม

  10. แนะนำโรงแรมยอดเยี่ยมในนิเซโกะ เพลิดเพลินไปกับหิมะในช่วงฤดูหนาว

TOP