การเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น คือสิ่งที่สาวกคนไทยชื่นชอบความคาวาอิของที่นี่ ที่รอคอยหลังจากรอผ่อนคลายมาตรการ เหมือนได้ฤกษ์สำหรับใครไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นทันทีไม่ว่าจะเมืองใดก็ตาม เมืองที่ควรค่าแก่การแนะนำจะต้องมี “ฮิเมจิ” ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดในญี่ปุ่น และอาจมีนักท่องเที่ยวพลุกพล่านในช่วงฤดูร้อน พอผ่อนคลายมาตรการ จะพบเคาน์เตอร์ขายตั๋วตรงทางเข้า ซึ่งจะมีตัวเลือกในการใช้จ่ายเพิ่มเล็กน้อย ทั้งผู้มาคนเดียว มาเป็นเพื่อน มากับครอบครัว หรือกรุ๊ปทัวร์ และรับตั๋วเข้าชมสวนญี่ปุ่นในบริเวณใกล้เคียง มันคุ้มค่ากับประสบการณ์มากเลยทีเดียว โดยในบทความนี้จะมาแนะนำ 7 สถานที่ท่องเที่ยวในเมือง “ฮิเมจิ” ซึ่งใครสนใจสามารถเดินทางมาได้สะดวก
ฮิเมจิ…เปิดประตูสู่คันไซ และยุคเอโดะ
ฮิเมจิเป็นเมืองที่ค่อนข้างนิยมอย่างมาก เนื่องจากบางแลนด์มาร์คสำคัญเป็นแลนด์มาร์คทางด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมชัดเจน เมื่อได้เดินทางขึ้นรถไฟจากโตเกียวสู่สถานีรถไฟฮิเมจิ (JR Himeji Station) ซึ่งการเดินทางจะต้องศึกษาข้อมูลแล้วในระดับหนึ่ง ใครที่แข็งแรงอาจจะถูกใจมาก เนื่องจากเหมาะกับการเดินออกกำลังกาย หากอยากเดินก็สามารถเดินตรงไปได้ บางทีอาจเดินทางยาวๆ ถึงที่หมายได้เพียงไม่กี่กิโลเมตร ในขณะเดียวกันใครที่เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว หรือมาโดยกรุ๊ปทัวร์ จะสะดวกสบายเป็นพิเศษ ซึ่งการมาเที่ยวฮิเมจิมีประโยชน์มากมาย เช่น
เป็นเมืองตอบโจทย์สำหรับสายผจญภัย
ในฮิเมจิไม่ได้มีแค่ตัวชูโรงที่ปราสาทฮิเมจิเท่านั้น แต่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเยอะมาก โดยเฉพาะภูเขามีมากมายให้เลือกเดินทางตามที่ต้องการ โดยภูเขาในฮิเมจิค่อนข้างปลอดภัย เพราะไม่ใช่ภูเขาที่เกิดจากภูเขาไฟโดยธรรมชาติ จึงสบายแน่นอนว่าไม่ปะทุเหมือนภูเขาไฟฟูจิ จะเห็นได้ว่านอกจากแหล่งธรรมชาติ ก็มาปีนเขา วิ่งเทรล หรือแคมป์ปิ้งได้สบายๆ อีกด้วย
เป็นเมืองที่ Advocate เรื่องธรรมชาติพอสมควร
ในฮิเมจิค่อนข้างรักษาระบบนิเวศทางธรรมชาติดีมาก แทบจะไม่มีมลพิษเท่าเมืองหลวงเลย แม้ว่าจะมีบางจุดที่มีอุตสาหกรรมก็ตาม แต่ระบบนิเวศค่อนข้างทนทาน และคนในพื้นที่สามารถอยู่ร่วมกันในธรรมชาติได้ หากใครเดินทางมา สบายใจได้ว่ามลพิษน้อยกว่าโซนอื่นๆ อีกด้วย เมื่อเทียบกับเมืองหลวง ประชากรจะไม่ค่อยหนาแน่น จะมุ่งเน้นอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติเป็นหลักมากกว่าอาศัยทรัพยากรอย่างเดียว เช่น หากได้มาเที่ยวชายทะเล จะมีแหล่งประมงมากมาย หากอยู่ที่ภูเขาจะมีความอุดมสมบูรณ์ของป่าค่อนข้างมาก
มีรีวิวค่อนข้างน้อย แต่ถ้าได้มาถึงเหมือนเปิดโลก
การท่องเที่ยวในฮิเมจิค่อนข้างมีรีวิวน้อยเมื่อเทียบกับข้อมูลในภาษาไทย โดยมีข้อมูลในภาษาญี่ปุ่นกับภาษาอังกฤษเป็นหลัก หากได้มาท่องเที่ยวจะรู้สึกว่า “เปิดโลก” ในโซนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน จึงเป็นข้อได้เปรียบหากใครอยากรีวิวท่องเที่ยวญี่ปุ่น ยิ่งเป็นฮิเมจิ มีหลายแหล่งท่องเที่ยวที่ควรค่าแก่การมาเยือนมาก ทั้งทางประวัติศาสตร์และทางธรรมชาติ โดยการมาเที่ยว เหมาะสมกับผู้ที่มีเวลาเดินทางหรือสำรวจนานๆ
เป็นแหล่งเศรษฐกิจชั้นดี
ฮิเมจิตั้งอยู่ภายในเขตอุตสาหกรรมฮันชิน และเขตอุตสาหกรรมริมทะเลฮาริมะ บริเวณชายฝั่งเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยมีโรงถลุงเหล็ก โรงงานเคมี เซมิคอนดักเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในรถยนต์เป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังมีสถานีไฟฟ้าฮิเมจิหมายเลข 1 ของ Kansai Electric Power และสถานีไฟฟ้าฮิเมจิหมายเลข 2 ของ Kansai Electric Power ก็ตั้งอยู่ในพื้นที่ด้วย พื้นที่สองในสามทางตอนเหนือของเมืองทำการเกษตรและประมงเชิงพาณิชย์เป็นหลัก นอกชายฝั่งทางตอนใต้ยังมีบทบาทในด้านเศรษฐกิจอีกด้วย งานฝีมือแบบดั้งเดิมรวมถึงการผลิตบุตสึดัน (แท่นบูชาในศาสนาพุทธ) งานหัตถกรรมเครื่องหนัง กาว การจับคู่ และเทียน เปรียบเสมือน OTOP ของฮิเมจิในตัว
สภาพอากาศสบายมากสำหรับคนไทย
หากใครไม่คุ้นเคยกับเมืองหนาว ฮิเมจิคือทางเลือก เนื่องด้วยฮิเมจิมีสภาพอากาศแบบกึ่งเขตร้อนชื้น โดยมีฤดูร้อนและฤดูหนาวที่เย็นสบาย ฤดูร้อนมีฝนตกชุกกว่าฤดูหนาวอย่างมาก อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีในฮิเมจิอยู่ที่ 15.6 °C แน่นอนว่าสบายใจกับคนไทยที่มาจากเมืองร้อน และต้องการผ่อนคลาย ยิ่งเป็นช่วงฤดูหนาวจะเป็นช่วงที่บรรยากาศสวยที่สุด และสามารถปรับตัวในฤดูหนาวช่วงปีใหม่ง่ายกว่า
7 สถานที่ท่องเที่ยวในฮิเมจิ…ใครไม่ได้เยือน เท่ากับมาไม่ถึงที่
การเดินทางจากฮิเมจินั้นจะต้องนึกถึง “จังหวัดเฮียวโงะ” โดยการเดินทางและคำนวณเส้นทางค่อนข้างง่ายทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถไฟความเร็วสูง หรือรถประจำทาง ถ้าเริ่มจากเมืองหลวงอย่างโตเกียว และที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ตั้งอยู่ทางตะวันตก และตอนกลางของที่ราบฮาริมะ ทางตะวันตกของจังหวัดเฮียวโงะ และเป็นเมืองศูนย์กลางของภูมิภาคฮาริมะของจังหวัด มีแม่น้ำอิจิกะวะตั้งอยู่ทางตะวันออกตอนกลางของเมือง รวมถึงแม่น้ำเซ็นบะและแม่น้ำโนดะตั้งอยู่ตรงกลาง หมู่เกาะอิเอชิมะในทะเลเซโตะในนั้นอยู่ภายในเขตเมืองและตั้งอยู่นอกชายฝั่งอ่าวฮาริมะ เมืองที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและทะเล ทำให้ภูมิศาสตร์หลากหลายกว่าในโตเกียวค่อนข้างมาก ส่วนจะมีที่ไหนน่าเที่ยว ไปดูกันเลย
ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)
IMG BY : th.wikipedia
ปราสาทฮิเมจิ มีอีกชื่อหนึ่งเรียกว่า “ปราสาทนกกระสาขาว” โดยปราสาทเป็นสีขาวทั้งหมด เมื่อใครได้มาเที่ยวปราสาทฮิเมจินั้น จะต้องนึกถึงการ์ตูนเรื่อง Detective Conan ซึ่งมีบางตอนได้นำปราสาทฮิเมจิมาใช้ในซีนด้วย จุดเด่นอยู่ที่เป็นปราสาทแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่นที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (UNESCO) อยู่รอดตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยไม่มีความเสียหายต่อปราสาทเลย และเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานมากกว่า 600 ปี จนเป็นโซนหัวใจสำคัญของชาวญี่ปุ่นก็ว่าได้
ที่อยู่ | 68 ฮนมาชิ, เมืองฮิเมจิ, จังหวัดเฮียวโงะ 670-0012 ประเทศญี่ปุ่น |
---|---|
ประเภท | มรดกทางวัฒนธรรม |
เปิดทำการ | เปิดทำการทุกวัน 09.00-16.00 น. |
โทรศัพท์ | +81 79-285-1146 |
จองโรงแรมได้ที่ |
||
---|---|---|
จองที่ AGODA | ||
จองที่ BOOKING.COM | ||
จองที่ AIRBNB |
สวนโคโคเอ็น (Koko-en Garden)
IMG BY : en.wikipedia
อีกสวนที่ไม่ห่างจากปราสาทฮิเมจิ จะต้องมีสวนโคโคเอ็น (Koko-en Garden) แน่นอน โดยสวนนี้มีความสวยงามแบบยุคเอโดะ เป็นแรงบันดาลใจในการถ่ายทำฉากในละครเวที “ข้างหลังภาพ เดอะมิวสิคัล” เป็นสวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ที่มีภาพยนตร์ญี่ปุ่นหลายๆ เรื่องนิยมทำแนวพีเรียดในโลเคชั่นนี้มาก มีจุดเด่นอยู่ที่การจัดตกแต่งสวนโคโคเอ็น มีสไตล์ที่หลากหลายถึง 9 สวน ในช่วงพฤศจิกายนถึงธันวาคม บริเวณนี้จะสวยงามมาก โดยใบไม้เปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีแดงราวกับต้นเมเปิ้ลเปลี่ยนสีเลยทีเดียว
ที่อยู่ | 68 ฮนมาชิ, เมืองฮิเมจิ, จังหวัดเฮียวโงะ 670-0012 ประเทศญี่ปุ่น (ที่เดียวกับปราสาทฮิเมจิ) |
---|---|
ประเภท | มรดกทางธรรมชาติ |
เปิดทำการ | เปิดทำการทุกวัน 09.00-17.00 น. |
โทรศัพท์ | +81 79-289-4120 |
จองโรงแรมได้ที่ |
||
---|---|---|
จองที่ AGODA | ||
จองที่ BOOKING.COM | ||
จองที่ AIRBNB |
วัด Engyo-ji (Shoshazan Engyo-ji)
IMG BY : en.wikipedia
อีกวัดที่นับว่าสวยงามตามท้องเรื่องสำหรับ “วัด Engyo-ji” โดยเป็นวัดที่ผสมผสานระหว่างศาสนาพุทธกับศาสนาชินโต ในปีค.ศ.966 วัด Engyo-ji แห่งนี้คลอบคลุมพื้นที่ของภูเขาทั้งลูก นั่นก็คือ “ภูเขา Shosha” โดยบรรยากาศธรรมชาติมีความสวยงาม อุดมสมบูรณ์ และเต็มไปด้วยพลังศรัทธาของชาวญี่ปุ่นที่ได้มากราบไหว้ นอกจากนี้ยังมีอาคารไม้ขนาดใหญ่อายุมานานกว่า 500 ปีที่เป็นตัวชูโรงอีกด้วย หากใครไม่สามารถขึ้นเขาไปที่วัดนี้ได้ สามารถนั่งเคบินคาร์ เพื่อดูบรรยากาศจากที่สูงได้อีกด้วย
ที่อยู่ | 2968 ภูเขา Shosha, เมืองฮิเมจิ, จังหวัดเฮียวโงะ 670-0012 ประเทศญี่ปุ่น |
---|---|
ประเภท | มรดกทางวัฒนธรรม, มรดกทางธรรมชาติ |
เปิดทำการ | เปิดทำการทุกวัน 08.30-17.00 น. |
โทรศัพท์ | +81-79-266-3327 |
จองโรงแรมได้ที่ |
||
---|---|---|
จองที่ AGODA | ||
จองที่ BOOKING.COM | ||
จองที่ AIRBNB |
เกาะอิเอะชิมะ (Ieshima Island)
IMG BY : en.japantravel
อีกเกาะที่มีชื่อเสียงมากในฮิเมจิ ตั้งอยู่ในเขตชิกามะ จังหวัดเฮียวโงะ ประเทศญี่ปุ่น แท้จริงแล้วเป็นกลุ่มเกาะเล็กๆ 44 เกาะ โดยมี 4 เกาะที่มีผู้คนอาศัยอยู่ และ 40 เกาะที่ไม่มีผู้อาศัยอยู่ อยู่ห่างจากชายฝั่งฮิเมจิและอะโคประมาณ 18 กิโลเมตร อิเอะชิมะเป็นหนึ่งในเกาะขนาดใหญ่ แต่ชื่ออิเอะชิมะยังใช้เรียกหมู่เกาะทั้งหมด แลนด์มาร์คสำคัญมีศาลเจ้าอิเอะชิมะ (Ieshima Shrine) นอกจากนี้ยังมีการจัดแข่งขันว่ายน้ำแบบโอเพ่นวอเตอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น
ที่อยู่ | เมืองฮิเมจิ, จังหวัดเฮียวโงะ 670-0012 ประเทศญี่ปุ่น |
---|---|
ประเภท | มรดกทางธรรมชาติ |
เปิดทำการ | – |
โทรศัพท์ | – |
จองโรงแรมได้ที่ |
||
---|---|---|
จองที่ AGODA | ||
จองที่ BOOKING.COM | ||
จองที่ AIRBNB |
ภูเขาเซ็ปปิโกะ (Mount Seppiko)
IMG BY : en.wikipedia
ถ้าพูดถึงภูเขาเซ็ปปิโกะ จะต้องนึกถึงภูเขาที่ใหญ่มากในฮิเมจิ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Seppiko-Mineyama Prefectural Natural Park พื้นที่ทางภูมิศาสตร์มีความตอบโจทย์ในการฝึกออกกำลังกายแบบเทรล และนิยมปีนเขาอย่างมาก หากจะเดินทางมาที่ภูเขาเซ็ปปิโกะเป็นหนึ่งในภูเขาที่ยังมีบางพื้นที่ห้ามผู้หญิงเข้าไป เพื่อไม่ให้รบกวนการฝึกของชูเก็นฉะ (เส้าหลินของญี่ปุ่น) ซึ่งบรรยากาศมีความสงบมาก และต้องเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวจะดีกว่า
ที่อยู่ | เมืองฮิเมจิ, จังหวัดเฮียวโงะ 670-0012 ประเทศญี่ปุ่น |
---|---|
ประเภท | มรดกทางธรรมชาติ |
เปิดทำการ | – |
โทรศัพท์ | – |
จองโรงแรมได้ที่ |
||
---|---|---|
จองที่ AGODA | ||
จองที่ BOOKING.COM | ||
จองที่ AIRBNB |
สวนสนุก Himeji Central Park
IMG BY : visit-himeji
มาถึงสวนสนุกสไตล์ซาฟารีที่น่าเที่ยวอย่าง “Himeji Central Park” โดยเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจตรงที่มีสิงสาราสัตว์มากมาย สามารถสังเกตได้ในระยะใกล้ๆ จากหน้าต่างรถ ผู้ที่ไม่มีรถยนต์สามารถใช้บริการ Safari Bus ตามตารางเวลาปกติได้ ในสวนสนุกมีชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่และรถไฟเหาะลอยฟ้าสูงจากพื้น 35 เมตร นอกจากนี้ในฤดูร้อนยังมี “Aquaria” เช่น สระน้ำที่มีน้ำไหลและ “Surfing Downhill” ซึ่งเป็นจุดขายที่น่าสนใจเมื่อใครได้มาเที่ยวฮิเมจิ และได้พาลูกหลานไปเที่ยวญี่ปุ่นสักครั้งในชีวิต
ที่อยู่ | โคดะนิ-1434 โทโยโทะมิโช, เมืองฮิเมจิ, จังหวัดเฮียวโงะ 679-2121 ประเทศญี่ปุ่น |
---|---|
ประเภท | มรดกทางธรรมชาติ |
เปิดทำการ | เปิดทำการทุกวันพฤหัสบดี-วันจันทร์ 10.00-16.00 น. |
โทรศัพท์ | +81 79-264-1611 |
จองโรงแรมได้ที่ |
||
---|---|---|
จองที่ AGODA | ||
จองที่ BOOKING.COM | ||
จองที่ AIRBNB |
ปราสาทโอกิชิโอะ (Okishio Castle)
IMG BY : en.wikipedia
“ปราสาทโอกิชิโอะ” ไม่ได้ห่างจาก “ปราสาทคันโจซัง” ถูกใช้โดยตระกูลซามูไร “อาคามัตสึ” โดยมีทายาทสืบทอดทั้งห้ารุ่นต่อจาก “อาคามัตสึ มาซาโนริ” บรรพบุรุษของพวกเขา การวางปราสาททอดยาวไปตามสันเขาครอบคลุมพื้นที่ 600 เมตรจากตะวันออกไปตะวันตก และ 400 เมตรจากเหนือไปใต้ ด้วยพื้นที่ล้อมรอบประมาณ 70 แห่ง ทำให้ปราสาทแห่งนี้เป็นหนึ่งในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในฮาริมะ ที่ระดับความสูง 300 เมตร จำเป็นต้องปีนขึ้นไปตามถนนที่สูงชันและคดเคี้ยวที่มีความยาวกว่า 1.8 กิโลเมตร พื้นที่ส่วนกลางของปราสาทนี้ประกอบด้วยระเบียงสามชั้นและมีประตูด้านหน้าและทางลาดด้านหน้าป้องกันด้วยกำแพงหิน นอกเหนือจากนี้ หินของกำแพงหินแตกกระจายไปทั่วบริเวณ และแนวหินบางส่วนยังคงอยู่
ที่อยู่ | เมืองฮิเมจิ, จังหวัดเฮียวโงะ 670-0012 ประเทศญี่ปุ่น |
---|---|
ประเภท | มรดกทางวัฒนธรรม |
เปิดทำการ | – |
โทรศัพท์ | – |
จองโรงแรมได้ที่ |
||
---|---|---|
จองที่ AGODA | ||
จองที่ BOOKING.COM | ||
จองที่ AIRBNB |
เป็นไงบ้างสำหรับ 7 สถานที่ท่องเที่ยวในเมือง “ฮิเมจิ” ซึ่งเป็นเมืองที่ใครๆ ต้องมาเที่ยวสักครั้งในชีวิต โดยมีความครบครันทั้งประวัติศาสตร์และธรรมชาติ โดยฮิเมจิมีชื่อเสียงที่สุดมาจากปราสาทที่งดงามอย่าง “ปราสาทฮิเมจิ” ซึ่งได้รับการพิจารณาอย่างกว้างขวางว่า เป็นปราสาทที่มีประวัติศาสตร์กลุ่มศักดินาที่ดีที่สุด และสวยงามที่สุดในญี่ปุ่น ปราสาทแห่งนี้ได้รับการกำหนดให้เป็นสมบัติของชาติและมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก เมื่อได้มาเที่ยวจะรู้สึกประทับใจเป็นพิเศษ จนเหมือนเป็นชื่อประจำเมืองในตัวเลยทีเดียว หากใครสนใจมาเที่ยวฮิเมจิ อยากให้ศึกษาข้อมูลในการเดินทางก่อนจะเดินทางมาที่เมืองฮิเมจิ จะต้องศึกษาเรื่องเวลาก่อน เนื่องจากบางแลนด์มาร์คไม่มีเวลาปิดเปิดแน่นอน หรือบางจุดปิดเปิดเร็วมาก ควรรัดกุมในการศึกษาข้อมูลเป็นพิเศษ เพื่อที่เราจะได้เที่ยวสนุก และสบายใจอีกด้วย