IMG BY : www.thailand.huistenbosch.co.jp/enjoy/
Huis Ten Bosch ハウステンボス (อ่านว่า เฮาส เทน บอช)
เป็นภาษาดัตช์ มีความหมายว่า House In The Forest เป็น Holland-Style เป็นสวนสนุกธีมปาร์คประเทศเนเธอร์แลนด์ เพราะเขาจำลองบรรยากาศของประเทศเนเธอร์แลนด์ในยุคกลางมาให้ชาวแดนปลาดิบและนักท่องเที่ยวได้สัมผัสกันแบบจุกๆ ภายในมีพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 1,520,000 ตารางเมตร สวนสนุกตั้งอยู่ในเมือง Sasebo จังหวัด Nagasaki บนเกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น เชื่อว่าเพื่อนๆหลายๆคน ก็คนทราบกันว่าที่นี่เป็นทั้งสวนสนุก สวนดอกไม้ พิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร โรงแรม และมีการจัดเทศกาลรื่นเริงต่างๆ ตลอดทั้งปี เกริ่นมาซะขนาดนี้ บอกได้เลยว่า เป็นที่สุดของความอลังการ! อย่างแน่นอนค่ะ บทความนี้เลยขอพาเพื่อนเดินทางสู่เกาะคิวชู จังหวัดนางาซากิ พาสำรวจสวนสนุก Huis Ten Bosch กันค่ะ!
สารบัญ
การเดินทางสู่ Huis Ten Bosch
สามารถเดินทางได้โดยตรงทั้งจากสถานี Hakata และสถานี Nagasaki
ถ้ามาจากสถานี Hakata ขึ้นรถไฟสาย JR Limited Express “Huis Ten Bosch” ใช้เวลาประมาณ 1.40 ช.ม.
ถ้ามาจากสถานี Nagasaki ขึ้นรถไฟสาย JR Express “Seaside Liner” ใช้เวลลา 1.30 ช.ม.
ถ้ามาจาก สนามบิน Nagasaki สามารถนั่งเรือ High Speed Ferry มาได้ ใช้เวลา 50 นาที
เมื่อมาถึงลงสถานีและเดินข้ามสะพานมา ก็ได้กลิ่นอายความเป็นยุโรปมาเต็มๆ ค่ะ
จะเดินเล่นแบบชิวๆ หรือเช่าจักรยาน ก็ตามแต่สะดวกค่ะ
ก่อนหน้านี้เฮาส์เทนบอชได้มีการแบ่งเป็น 2 โซน คือ Theme Park Zone และ Harbor Zone แต่ในปัจจุบันได้มีการแบ่งออกเป็น 11 โซน เพื่อเพิ่มความสนุกในแต่ละโซนให้มากขึ้น ตามมาดูกันค่ะ ว่าแต่ละโซนนั้นมีอะไรบ้าง
แนะนำ 11 โซน ที่ไม่ควรพลาดใน Huis Ten Bosch
Welcome Gate and Farewell Gate
Welcome Gate จุดแรกนี้อยู่ตรงจุดตรวจทางเข้า Huis Ten Bosch ด้วยบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่บริเวณทางเข้าสนามบิน ทันทีที่ผ่านประตูและเข้ามาในสวน คุณจะได้พบทางเข้าสู่อาณาจักรตุ๊กตาหมี ซึ่งมีการจัดแสดงตุ๊กตาหมีประมาณ 700 ตัวที่รวบรวมมาจากทั่วทุกมุมโลก
ไฮไลท์ของโซนนนี้อยู่ที่มุม “Artist Bear” ที่มีการจัดแสดงตุ๊กตาหมีในธีม “ครอบครัว” ที่สร้างโดยศิลปินชั้นนำของโลกถึง 40 คน นอกจากนี้ บริวณที่จัดขึ้นใกล้กับประตูทางเข้ายังมีเกมสำรวจที่ชื่อว่า “Zipangu Detective Club” เพื่อถอดรหัสความลึกลับของ “Book of Adventure” และค้นหาสมบัติที่ซ่อนอยู่ใน “Treasure of the Pirate King Road”
Flower Road
Flower Road หรือ ถนนดอกไม้จะมีกังหันลมสามแห่งเรียงรายกันอย่างโดดเด่น ถนนดอกไม้ที่เต็มไปด้วยดอกไม้ตามฤดูกาลที่บานสะพรั่งตลอดทั้งปี เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาถ่ายภาพความประทับใจ พร้อมอวดโมเม้นในโซเซียลอย่างมีความสุข ช่วงเวลาที่แนะนำ ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม – เมษายนค่ะ เพราะเป็นช่วงที่ดอกทิวลิปเบ่งบานสะพรั่งอย่างเต็มที่ตลอดทั้งธีมปาร์ค โดยเราจะได้ชมดอกทิวลิปแบบอลังการเหมือนเดินเล่นอยู่ในทุ่งทิวลิปที่ประเทศเนเธอร์แลนด์กันเลยทีเดียว
เทศกาลดอกทิวลิปจึงเปรียบเสมือนตัวแทนของ Huis Ten Bosch รวมถึงเทศกาลดอกกุหลาบและเทศกาลดอกไฮเดรนเยียล้วนเป็นช่วงเทศกาลที่ควรค่าแก่การเที่ยวชม
ช่วงเวลาในการชมดอกไม้ แบ่งตามฤดูกาล ดังนี้
ฤดูใบไม้ผลิ
ปลายเดือนกุมภาพันธ์ – ต้นเดือนเมษายน : ดอกทิวลิป
ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน : ดอกซากุระ
ฤดูร้อน
ต้น – ปลายเดือนพฤษภาคม : ดอกกุหลาบ
ปลายเดือนพฤษภาคม – ปลายเดือนมิถุนายน : ดอกไฮเดรนเยีย
ปลายเดือนมิถุนายน – ต้นเดือนกรกฎาคม : ดอกลิลลี่
ปลายเดือนกรกฎาคม – ต้นเดือนสิงหาคม : ดอกทานตะวัน
ฤดูใบไม้ร่วง
ปลายเดือนตุลาคม – กลางเดือนพฤศจิกายน : ดอกกุหลาบฤดูใบไม้ร่วง
ฤดูหนาว
ปลายเดือนธันวาคม – ปลายเดือนกุมภาพันธ์ : พื้นที่จัดแสดงที่ตกแต่งด้วยดอกกล้วยไม้สกุลฟาแลนนอปซิส (Phalaenopsis)
Adventure Park
Adventure Park คือโซนเครื่องเล่นกลางแจ้งที่น่าตื่นเต้น น่าผจญภัยที่สุดใน Huis Ten Bosch ค่ะ บริเวณนี้เต็มไปด้วยธรรมชาติและเครื่องเล่นมากมาย “Tenku Rail Coaster ~Shippu~” เป็นรถไฟเหาะ 1 ที่นั่ง เครื่องแรกของญี่ปุ่น แม้แต่เด็กๆ ก็สามารถสนุกกับเครื่องเล่นนี้ได้ค่ะ โดยมีความยาว 250 เมตรและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เริ่มต้นจากความสูง 11 เมตร ซึ่งเป็นเครื่องเล่นที่มีเส้นทางผ่านป่าที่น่าตื่นเต้น Dinosaur Forest เป็นอีกเครื่องเล่นที่ทั้งครอบครัวสามารถเพลิดเพลินได้ ซึ่งนี่คือเกมไขปริศนาที่ยากมาก และมีเพียง 1% เท่านั้นที่สามารถหลบหนีได้สำเร็จ
Attraction Town
หากมาถึงโซนนี้แล้ว อยากให้เพื่อนๆ ได้ลองเล่น “โลกเสมือน VR” ซึ่งมีสองคอร์สคือ “Rapid Rafting” ที่เพื่อนๆ จะเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ล่องแก่ง และ “Ultra Reverse Bungee” ที่เพื่อนๆ จะได้สัมผัสประสบการณ์จำลองการบินสู่อวกาศ ด้วยการใช้เทคโนโลยีใหม่ที่ทันสมัยสุดๆ ความรู้สึกสมจริงราวกับได้อยู่บนอวกาศจริงๆ “Kids World Fantasy Forest” เป็นศูนย์กีฬาในร่มสำหรับเด็กที่เปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2022 โดยแต่ละโซนจะพื้นที่มีเครื่องเล่นที่เหมาะกับช่วงอายุของเด็ก ทำให้สามารถสนุกได้อย่างสบายใจทุกเพศ ทุกวัย
เนื่องจากเป็นโซนในร่ม จึงสามารถเล่นได้อย่างจุใจ แม้ในวันที่ฝนตกโดยไม่ต้องกังวลกับสภาพอากาศ
หลังจากเที่ยวเล่นกับเครื่อง VR กันไปแล้ว มาสนุกไปกับมุมถ่ายรูปสวย ๆ กันต่อในโซนเดียวกัน (Attraction Town) สีสันของร่มที่ใช้ประดับตกแต่งในยามกลางวันก็ดูน่ารัก สดใสมาก แต่พอตกเย็น แสงจากไฟประดับจะส่องสีร่มราวกับร่มเรืองแสงอยู่ รับรองว่าสวยจนหยุดกดชัตเตอร์ไม่ได้เลยแหละ
Art Garden
“Art Garden” หรือ สวนศิลปะ คือสวนที่เต็มไปด้วยแมกไม้เขียวขจี โดยมีชิงช้าสวรรค์สีขาวเป็นแลนด์มาร์ค โดยสวนศิลปะแห่งนี้มีภูมิทัศน์ที่โดดเด่นสวยงาม แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงงดงามทั้งกลางวันและกลางคืน
หากชมภาพวิวทิวทัศน์บน “ชิงช้าสวรรค์สีขาว” ในช่วงเวลากลางคืน เพื่อนๆ สามารถมองเห็นวิวสวนที่สว่างไสวได้จากภายในเรือกอนโดลาสุดแสนโรแมนติก รับรองว่าต้องเป็นความทรงจำสุดประทับใจอย่างแน่นอนค่ะ
Fantasia City of Light
Fantasia City of Light เป็นโซนใหม่ที่เปิดให้บริการในปี 2564 ธีมของโซนนี้คือ “ดอกไม้” และ “แสง” รวมกับเทคโนโลยีดิจิทัล ทำให้เกิดโซนที่ตื่นตามตื่นใจ และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย ในโซนนี้ก็คือ เครื่องเล่น 7 ชนิดที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลล้ำสมัยอย่างเต็มรูปแบบ “Space Fantasia” เป็นเครื่องเล่น VR ที่สร้างขึ้นโดย “NAKED, INC.” จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับการเดินทางในอวกาศผ่านกาแล็กซี
Amsterdam City
Amsterdam City เป็นโซนที่เพื่อนๆ จะได้เพลิดเพลินกับเสียงดนตรีและการช้อปปิ้ง ซึ่งเป็นการจำลองถนนในเนเธอร์แลนด์ขึ้นมาให้ดูสมจริง ในเดือนธันวาคมของทุกปี จะมีร้านพิเศษของ Miffy “Ninche” เปิดให้บริการ ทำให้โซนนี้ดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น สิ่งที่พลาดไม่ได้ในโซนนี้คือ “Sky Carousel (Merry-Go-Round)” ที่เริ่มเข้าฉายในเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา พร้อมเครื่องเล่นสุดพิเศษ ม้าหมุน 3 ชั้นที่ใหญ่ที่สุดแห่งแรกในโลก ที่มีความสูงถึง 15 เมตร!
ไฮไลท์เด็ดของโซนนี้ค่ะ เจ้าเครื่องเล่นสุดพิเศษ ม้าหมุน 3 ชั้น ด้วยความสูงถึง 15 เมตร ยิ่งในเวลากลางคืนจะมีการประดับประดาไฟมากมาย ทำให้บรรยากาศในโซนนี้ดูอลังการมหัศจรรย์มาก
Tower City
Tower City เป็นโซนที่มีจุดชมวิว Domtorun ซึ่งเป็นหอคอยที่เป็นสัญลักษณ์ของ Huis Ten Bosch! หอคอย Domtorun มีความสูง 105 เมตร มีจุดชมวิวที่ความสูง 80 เมตรเหนือพื้นดิน ซึ่งคุณสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของ Huis Ten Bosch แบบ 360 องศา ได้ตลอดทั้งวัน
การพายเรือแคนูตอนกลางคืน เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมแนะนำที่เพื่อนๆ สามารถเพลิดเพลินได้ที่ Tower City การพายเรือแคนูไปพร้อมๆกับการชมวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่ส่องประกายระยิบระยับของเมืองเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าประทับใจ!
Harbour Town
Harbour Town เป็นโซนที่โดดเด่นด้วยบรรยากาศของท่าเรือเมดิเตอร์เรเนียน โรงแรมส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในบริเวณนี้ บรรยากาศทำให้ชวนนึกถึงเมืองท่าของยุโรป ที่ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงยุโรปอยู่ญี่ปุ่นก็มีโอกาสได้ดูค่ะ
Forest Villa
Forest Villa โซนนี่เป็นโซนที่เงียบสงบเป็นพิเศษของ Huis Ten Bosch โดยมีกระท่อมเรียงรายเป็นแถวล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ Forest Villa มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวตรงที่ เป็นที่พักเพียงแห่งเดียวใน Huis Ten Bosch ที่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าพักได้ ในวันที่อากาศดี เพื่อนๆ สามารถรับประทานอาหารเช้ากับสัตว์เลี้ยงของคุณ บนระเบียงด้านนอกห้องพักได้บรรยากาศแบบส่วนตัวสุดๆ
Forest Villa เป็นอีกหนึ่งสถานที่แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เวลาอันเงียบสงบและรายล้อมไปด้วยธรรมชาติพร้อมกับเพื่อนสัตว์เลี้ยง!
Palace Huis Ten Bosch
พระราชวัง Huis Ten Bosch อีก 1 สถานที่ที่น่าสนใจ บริเวณนี้ได้รับการอนุญาตเป็นพิเศษจากราชวงศ์ดัตช์ ซึ่งสามารถทำเป็นสถานที่จำลองพระราชวังและสวนของชาวเนเธอร์แลนด์ ซึ่งการออกแบบสวนสไตล์บาโรกอันกว้างใหญ่นี้ได้สร้างตามพิมพ์เขียวของศตวรรษที่ 18 สวนบริเวณนี้ได้รับการฟื้นฟูใน Huis Ten Bosch อีกหลายศตวรรษต่อมา นับว่าเป็นโซนที่คุ้มค่าแก่การเยี่ยมชม ภายในพระราชวัง Huis Ten Bosch มีพิพิธภัณฑ์ศิลปะซึ่งมีวัตถุล้ำค่าและภาพวาดจัดแสดงอยู่ พระราชวัง Huis Ten Bosch รายล้อมไปด้วย สวนดอกไม้สวยๆ ซึ่งดอกไม้จะบานสะพรั่งตลอดทั้งปี
กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดใน Huis Ten Bosch
ชมการประดับไฟยามค่ำคืน
กิจกรรมเปิดไฟ Illumination ของที่นี่จะเริ่มตั้งแต่ 18:00 น. เป็นต้นไปค่ะ แสงสีสุดยอดระดับโลก ถ้ามองจากมุมสูงที่นี่จะกลายเป็นทะเลกากเพชรที่ส่องแสงระยิบระยับในยามค่ำคืน นักท่องเที่ยวที่ได้มาดู ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า งดงามมากราวกับภาพในเทพนิยาย ที่นี่ไม่ใช่แค่ราคาคุยนะคะ แต่ได้รับการการันตีอันดับ 6 จาก Illumination Ranking ระดับประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว
เข้าพักที่โรงแรมชั้นนำใน Huis Ten Bosch
โรงแรมยุโรป (Hotel Europe) ใน Huis Ten Bosch โรงแรมในโซนนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์ยุโรปคลาสสิก คุณสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่มีระดับและความสง่างามในตัว เรือสำหรับแขกจะให้บริการจากประตูต้อนรับไปยังโรงแรม และการเช็คอินบนเรือก็เป็นบริการพิเศษเฉพาะของ โรงแรมยุโรปเช่นกัน โรงแรมนี้แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เวลาในวันสำคัญกับคนที่คุณรัก เช่น วันครบรอบแต่งงาน เป็นต้น
ค่าเข้า Huis Ten Bosch
ค่าเข้าชม Huis Ten Bosch มีบัตรผ่านประตูซึ่งเป็นพาสปอร์ตสำหรับ 1, 1.5 และ 2 วัน คล้ายๆ กับดิสนีย์ รีสอร์ต โดยราคาของบัตรแต่ละประเภทก็ตามนี้เลยค่ะ หรือสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คลิ๊ก
thailand.huistenbosch.co.jp/ticket/
พาสปอร์ตประเภท 1 วัน
รวมค่าเข้า + เครื่องเล่น (เครื่องเล่นกว่า 40 อย่าง ที่สามารถใช้กับพาสปอร์ตได้ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง) ภายใน 1 วัน
ราคา ผู้ใหญ่ 7,400 เยน / นักเรียนมัธยม 6,400 เยน / เด็ก 4,800 เยน / ผู้สูงอายุ 5,400 เยน / เด็กเล็กอายุ 2-4 ขวบ 3,700 เยน
พาสปอร์ตประเภท 1.5 วัน (ติดต่อกัน)
รวมค่าเข้า + เครื่องเล่น (เครื่องเล่นกว่า 40 อย่าง ที่สามารถใช้กับพาสปอร์ตได้ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง) ติดต่อกันภายใน 1.5 วัน (ตั้งแต่เวลา 15:00 ของวันที่เริ่มใช้งาน จนถึงวันถัดไป)
ราคา ผู้ใหญ่ 10,700 เยน / นักเรียนมัธยม 9,500 เยน / เด็ก 7,200 เยน / ผู้สูงอายุ 8,200 เยน / เด็กเล็กอายุ 2-4 ขวบ 5,800 เยน
พาสปอร์ตประเภท 2 วัน (ติดต่อกัน)
รวมค่าเข้า + เครื่องเล่น (เครื่องเล่นกว่า 40 อย่าง ที่สามารถใช้กับพาสปอร์ตได้ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง) ภายใน 2 วัน
ราคา ผู้ใหญ่ 12,900 เยน / นักเรียนมัธยม 11,100 เยน / เด็ก 8,400 เยน / ผู้สูงอายุ 9,500 เยน / เด็กเล็กอายุ 2-4 ขวบ 6,500 เยน
ข้อมูลทั่วไป Huis ten Bosch
Location | 1-1 Huis Ten Bosch Machi, Sasebo, Nagasaki 859-3243, Japan |
---|---|
วัน-เวลาทำการ | เปิดทุกวัน เวลา 9.00 – 22.00 น. (อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล เช็คได้ที่ www.thailand.huistenbosch.co.jp/opentime/ |
พิกัด
สรุปความคุ้มค่าของธีมพาร์ค Huis ten Bosch
ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ ตื่นตา ไม่ขัดกับบรรยากาศยุโรปๆ แต่อยู่ในญี่ปุ่น ถ้าจะเที่ยวให้ครบทุกที่ควรมีเวลามากกว่า 1 วัน สามารถพักโรงแรมที่อยู่ด้านในธีมพาร์ค หรือ จะพักที่โรงแรมด้านนอกของ JR ก็ได้ แต่หากมีเวลาแค่วันเดียวจริงๆ แนะนำควรมาตั้งแต่เช้า ยิ่งเช้าได้เท่าไหร่ยิ่งดี แล้วอยู่ทั้งวันจนมืด จะได้ดูขบวนพาเหรดตอนกลางคืน ที่สำคัญอย่าเที่ยวเพลินจนลืมดูเวลารถไฟรอบสุดท้าย ไม่งั้นจะกลับเข้าเมืองไม่ทัน พยายามเลือกขบวนที่วิ่งตรงไม่ต้องไปต่อที่สถานีไหนอีก จะได้นอนยาวพักผ่อนบนรถไฟไปด้วยเลย