ทั่วญี่ปุ่น

ข้อควรรู้สำหรับผู้ใช้บริการรถไฟชินคันเซ็น ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับค่าโดยสาร !


ถ้าพูดถึงการเดินทางที่ทั้งรวดเร็วและปลอดภัยเมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วละก็ รถไฟความเร็วสูงชินคันเซน(Shinkansen) หรืออีกชื่อหนึ่งที่บ่งบอกความเร็วได้ดีอย่างคือ “รถไฟหัวกระสุน” นี่เรียกได้ว่าต้องติดอันดับต้นๆ ในใจใครหลายๆคนแน่นอนค่ะ บทความนี้เลยจะขอมาเจาะลึกเกี่ยวกับอัตราค่าโดยสารที่ใครหลายๆคนยังไม่เข้าใจ มองว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจยากและซับซ้อน ให้เพื่อนๆได้เข้าใจแบบง่ายๆกันค่ะ


ดูรายละเอียดบัตร JR Pass ได้ที่นี่

ค่าโดยสารรถไฟชินคันเซ็นคืออะไร? ตั๋วโดยสาร และ ตั๋วรถด่วนพิเศษ

ประเภทค่าโดยสาร

ค่าโดยสารคือจำนวนเงินที่ใช้ในการเดินทางจากจุดเริ่มต้นไปยังจุดหมายปลายทาง ให้เข้าใจง่ายๆว่า เปรียบเหมือนกับค่าน้ำมันที่ใช้สำหรับการเดินทางจากจุดเริ่มต้นไปยังจุดหมายปลายทางค่ะ เราเรียกตั๋วชนิดนี้ว่า “ตั๋วโดยสาร” นั่นเองค่ะ
ในขณะที่ “ตั๋วรถด่วนพิเศษ” เป็นตั๋วที่จำเป็นสำหรับค่าที่นั่ง ค่าบริการ และความสะดวกสบายบนรถไฟชินคันเซ็น นั่นเองค่ะ โดย “ตั๋วรถด่วนพิเศษ” นี้ยังแบ่งออกเป็น “ตั๋วรถด่วนพิเศษแบบสำรองที่นั่ง” และ “ตั๋วรถด่วนพิเศษแบบไม่สำรองที่นั่ง” อีกด้วยนะ
หากเพื่อนๆ มีแพลนเที่ยวญี่ปุ่นแบบข้ามจังหวัดที่ต้องนั่งรถไฟนานๆ แนะนำให้เมื่อทำการซื้อตั๋ว อย่าลืมเลือกที่นั่งแบบสำรองที่นั่ง เอาไว้ ก็จะอุ่นใจมากขึ้นค่ะ ว่ายังไง เรามีที่นั่งชัวๆละ ไม่ต้องไปแย่งกับใคร!

อัตราค่าโดยสารรสำหรับเด็ก

ทารกและเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 6 ปีสามารถเดินทางได้โดยไม่ต้องใช้ตั๋ว เว้นแต่ทารกจะต้องมีที่นั่งเป็นของตัวเอง และเด็กที่มีอายุระหว่าง 6 ปี ถึง 12 ปี ราคาตั๋วโดยสารจะเป็นราคาครึ่งหนึ่งของราคาผู้ใหญ่ ค่ะ

การซื้อตั๋ว

ในญี่ปุ่น รถไฟชินคันเซ็นจะหนาแน่นมากในช่วงวันหยุดสิ้นปีและปีใหม่ โกลเด้นวีค โอบง กลางเดือนสิงหาคม และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตรงกัน เนื่องจากที่นั่งที่จองไว้อาจเต็ม เราขอแนะนำให้จองล่วงหน้านะคะ โดยสามารถซื้อตั๋วได้ล่วงหน้าหนึ่งเดือนของวันที่คุณต้องการนั่ง สามารถซื้อตั๋วได้ที่เคาน์เตอร์ JR บริษัทตัวแทนท่องเที่ยว หรือช่องทางออนไลน์ค่ะ
นอกจากนี้ ในช่วง 3 วันหยุดใหญ่สุดของญี่ปุ่น (โกลเด้นวีค, โอบ้ง, วันหยุดสิ้นปีและปีใหม่) รถไฟโทไคโดชินคันเซ็นและซันโยชินคันเซ็นจะมีที่นั่งแบบไม่ระบุที่นั่งให้บริการน้อย ดังนั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลล่วงหน้า
โดยคลิกที่ลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ www.global.jr-central.co.jp/en/nozomi/
ในกรณีส่วนใหญ่ หลังจากทำการจองแล้ว คุณจะต้องรับตั๋วที่ Midori no Madoguchi หรือเครื่องจำหน่ายตั๋วที่สถานีต้นทางที่คุณเดินทางด้วยค่ะ

ความแตกต่างของค่าโดยสารแต่ละช่วง


ค่าโดยสารรถไฟชินคันเซ็น จะแตกต่างกันไปตามช่วงฤดูกาลการท่องเที่ยวที่มีผู้คนพลุกพล่าน และ ช่วงนอกฤดูกาลการท่องเที่ยวที่ผู้คนจะไม่ค่อยพลุกพล่านค่ะ โดยราคาความต่างนี้ ในช่วงฤดูกาลการท่องเที่ยวนั้น ราคาจะถูกปรับให้แพงขึ้นจากเดิม 200 เยนค่ะ โดยข้อมูลแบ่งตามตารางได้ดังนี้ค่ะ

ฤดูกาลท่องเที่ยว กุมภาพันธ์ มิถุนายน พฤศจิกายน
ฤดูกาลที่ผู้คนหนาแน่นเป็นพิเศษ เทศกาลโอบ้ง ปีใหม่ โกลเด้นวีค วันหยุดฤดูร้อน วันหยุดฤดูใบไม้ผลิ วันหยุดฤดูหนาว
ฤดูกาลปกติ (ผู้คนไม่ค่อยพลุกพล่าน) วันธรรมดาและวันหยุดสุดสัปดาห์อื่นๆ จัดเป็นช่วงปกติ

นอกจากนี้ การแบ่งประเภทของช่วงฤดูกาลนั้น จะแตกต่างกันเล็กน้อยตามแต่ละภูมิภาคค่ะ โดยสามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซด์ รถไฟ JR หรือสอบถามที่เคาน์เตอร์ JR ในสถานีรถไฟค่ะ

ซื้อตั๋วไป-กลับ รับส่วนลดเพิ่มอีก 10% !


หากเพื่อนๆ เดินทางเที่ยวเดียว ที่ระยะทาง 601 กม. ขึ้นไป การเลือกซื้อตั๋วแบบไป-กลับ พร้อมกันในคราวเดียว ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากค่ะ เนื่องจากเพื่อนๆจะได้รับส่วนลดเพิ่มอีก 10% สำหรับค่าโดยสารรถไฟชินคันเซ็นค่ะ
ส่วนลดไป-กลับนี้ ยังมีสิทธิ์พิเศษอื่นๆอีก อาทิเช่น เพื่อนๆ สามารถลงจากรถไฟระหว่างทางได้ หมายถึง หากเพื่อนๆ ยังเดินทางไม่ถึงสถานีจุดหมายปลายทาง ต้องการลงจากรถไฟชั่วคราวด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม เมื่อคุณต้องการเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทาง(เดิม) คุณสามารถเปลี่ยนขบวนรถไฟชินคันเซ็นเพื่อต่อสายได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ

*ตัวอย่างเส้นทาง “การใช้งาน 601 กม. ขึ้นไป”
・Tokyo Station ~ จังหวัดเฮียวโกะ JR West Amagishi Station
・Tokyo Station ~ ทางเหนือสุดของ Akita Station
・Shin-Osaka Station ~ ทางใต้ของ Hakata Station
・ทางตะวันออกของ Koyama Station ผ่าน Shin-Osaka Station และ Tokyo Station
・Hakata Station ~ ทางตะวันออกของ Shin-Osaka Station

หากใช้เวลาเดินทางมากกว่า 2 ชั่วโมง 30 นาที (ในกรณีของชินคันเซ็นขบวนโนโซมิ) โดยปกติจะมากกว่า 601 กม. หากเพื่อนๆไม่แน่ใจว่าสามารถใช้ส่วนลด 10% ได้หรือไม่ แนะนำให้สอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ที่เคาเตอร์จำหน่ายตั๋วก่อนค่ะ

วิธีการนั่งรถไฟชินคันเซ็นด้วยบัตร IC Card


ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2017 ที่ผ่านมา ทางบริษัทรถไฟ JR เปิดระบบให้บัตร IC Cards ชนิดหลักทั้ง 10 แบบ (เช่น SUICA, PASMO, ICOCA ฯลฯ) สามารถจ่ายเงินค่าขึ้นรถไฟชินคันเซนได้แล้ว ทั้งนี้เพื่อนๆ ต้องทำการลงทะเบียนบัตรของท่านบนเว็บไซต์ของ JR ก่อนนะคะ อย่างไรก็ตามขั้นตอนการลงทะเบียนนั้น หลังจากเราลงทะเบียนบัตร IC แล้วเราจะต้องกรอกข้อมูลบัตรเครดิตของเราด้วย จากนั้นต้องทำการซื้อตั๋วรถไฟชินคันเซนผ่านทางเว็บไซต์เพื่อให้ระบบสามารถอนุญาตให้เปิดประตูเพื่อรับบัตร IC ที่เราลงทะเบียนไว้ก่อนหน้านี้ได้ (ถ้าไม่ลงทะเบียนก่อน เวลาที่เอาบัตร IC ไปแตะที่ทางเข้าของสถานี ประตูจะไม่เปิดนะคะ) ผู้ที่ใช้ระบบดังกล่าวนี้จะได้รับส่วนลด 200 เยนต่อการซื้อหนึ่งครั้งและค่ารถไฟทั้งหมดก็จะถูกชาร์จไปที่บัตรเครดิตที่เราลงทะเบียนไว้นั่นเองค่ะ
ข้อดีของการใช้บัตร IC นั่งรถไฟชินคันเซ็นได้ก็คือ เพื่อนๆ ไม่จำเป็นต้องต่อแถวที่เคาน์เตอร์ JR หรือเครื่องจำหน่ายตั๋วอีกต่อไป ดังนั้นจึงสะดวกมากโดยเฉพาะในช่วงฤดูที่วุ่นวาย เช่น เทศกาลโอบ้ง หรือ ปีใหม่ ไม่จำเป็นต้องทำบัตร IC ไว้หลากหลายใบ มีเพียงแค่บัตรเดียวก็สามารถทำทุกอย่างได้ ♪


ดูรายละเอียดบัตร JR Pass ได้ที่นี่

แต่วิธีการนี้ คงไม่สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ สักเท่าไหร่นักค่ะ เนื่องจากเพื่อนๆ ขึ้นชินคันเซนส่วนใหญ่น่าจะใช้ Pass อยู่แล้ว แต่น่าจะเหมาะกับเพื่อนๆ ที่ทำงานหรือมีครอบครัวอยู่ที่ญี่ปุ่นมากกว่าค่ะ เอาเป็นว่าบทความนี้มาเล่าต่อให้กันฟังละกันนะคะ และหวังว่าเพื่อนๆคงจะเข้าใจข้อมูล เรื่องราวของเจ้า “รถไฟหัวกระสุน” นี้มากขึ้นกว่าเดิมนะคะ
IMG BY : https://www.nta.co.jp/

Pick up


บทความแนะนำ

  1. ท่องเที่ยวที่คาโกชิมะและมิยาซากิด้วยรถไฟ D&S (จังหวัดมิยาซากิ)

  2. ท่องเที่ยวที่คาโกชิมะและมิยาซากิด้วยรถไฟ D&S (จังหวัดคาโกชิมะ)

  3. 【จังหวัดโออิตะ】รับชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์รอบคิวชู! และสำรวจสถานที่ยอดฮิตจากเรื่อง “ผ่าพิภพไททัน” (Attack on Titan)

  4. 【จังหวัดฟุกุโอกะ】รับชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์รอบคิวชู! และสำรวจสถานที่ยอดฮิตจากเรื่อง “ดาบพิฆาตอสูร” (Kimetsu no Yaiba)

  5. 【จังหวัดคาโกชิมะ】รับชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์รอบคิวชู! และสำรวจสถานที่ยอดฮิตจากเรื่อง “ยามซากุระร่วงโรย” (5 Centimeters Per Second)

  6. 【จังหวัดคุมาโมโตะ】รับชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์รอบคิวชู! และสำรวจสถานที่ยอดฮิตจากเรื่อง “นัตสึเมะกับบันทึกพิศวง” (Natsume Yuujin Chou) และ “วันพีซ” (One Piece)

  7. แนะนำเส้นทางเที่ยวญี่ปุ่นกับ Peach : 3 เส้นทางที่ไม่ควรพลาด

  8. สัมผัสความประทับใจและความสะดวกสบาย บนเส้นทางเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ (ไทย) สู่โอซาก้า (ญี่ปุ่น)

  9. บริการแนะนำสำหรับการเดินทางในญี่ปุ่น!เก็บสัมภาระไว้ที่ร้าน ”KARAOKEKAN” ใกล้ๆ แล้วไปเที่ยว หรือช้อปปิ้งได้แบบไม่ต้องหิ้วของ♪ บริการฝากสัมภาระ Luggage Storage

  10. บริการขนส่งสัมภาระที่ทำให้คุณสนุกกับการเดินทางในโตเกียวได้อย่างเต็มที่ เมื่อมาถึงสนามบิน ก็สามารถไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องถือของ ! Luggage Transfer-Porter Express

บทความล่าสุด

  1. สัมผัสเสน่ห์ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีกับเส้นทางรถไฟสุดโรแมนติก

  2. วางแผนวันหยุดฤดูร้อน กับ 10 จุดหมายปลายทาง ทริปสำหรับสาวๆ

  3. แนะนำเมืองที่มีงานดอกไม้ไฟสุดอลังการในญี่ปุ่น เที่ยวหน้าร้อนของญี่ปุ่นต้องไปเยือน

  4. มาทำความรู้จักกับรถไฟสายโรแมนติกของซากาโนะ รถไฟที่จะพาไปชมธรรมชาติและทิวทัศน์ที่สวยงาม

  5. อาหารฤดูร้อนในญี่ปุ่นที่ต้องลอง แนะนำเมนูเย็น ๆ คลายร้อนสุดฟิน

  6. แนะนำจุดถ่ายรูปสวย ๆ กับภูเขาไฟฟูจิ ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหนรูปก็ออกมาดูสวย

  7. ห้ามพลาดกับเทศกาลฤดูร้อนญี่ปุ่น ห้ามพลาดกับการชมดอกไม้ไฟ ขบวนแห่ และอื่น ๆ อีกมากมาย

  8. แนะนำกิจกรรมล่องเรือสุดพิเศษในช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่น ล่องเรือชมวิวของธรรมชาติและเมืองตามสถานที่ต่าง ๆ

  9. แนะนำการท่องเที่ยวรอบ ๆ ภูเขาไฟฟูจิใน 1 วัน สำหรับผู้ที่อยากเดินทางไปสถานที่รอบ ๆ ฟูจิ

  10. แนะนำเมนูสตรีทฟู้ดยอดฮิตในญี่ปุ่น เมื่อไปญี่ปุ่นแล้วก็ควรลองทาน

TOP