ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่นไม่ได้มีแค่ช่วงเวลากลางวันเท่านั้นที่สวยงาม ในยามค่ำคืนเมื่อแสงไฟส่องผ่านใบไม้แดงก็ยิ่งเพิ่มความโรแมนติกและความน่าหลงใหลไปอีก สำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาประสบการณ์แปลกใหม่ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี การชมใบไม้แดงแบบที่มีการประดับไฟช่วงกลางคืนในสถานที่ต่าง ๆ ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมห้ามพลาด เพราะนอกจากจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่แตกต่างแล้ว ยังเป็นโอกาสดีในการเก็บภาพสวย ๆ กลับไปอีกด้วย สำหรับบทความนี้จะพาไปรู้จักกับสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีตอนกลางคืนที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น พร้อมเคล็ดลับการเที่ยวให้คุ้มค่า เหมาะสำหรับคนไทยที่วางแผนไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
สารบัญ
จุดเด่นของการชมใบไม้เปลี่ยนสีแบบที่มีการประดับไฟ
การชมใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่นช่วงกลางวันนั้นสวยงามอยู่แล้ว แต่การชมใบไม้แดงยามค่ำคืนแบบที่มีการประดับไฟหรือ Light Up เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด เพราะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมอบความประทับใจที่แตกต่างจากเวลากลางวันอย่างสิ้นเชิง โดยจุดเด่นของการชมใบไม้เปลี่ยนสียามค่ำคืนมีดังนี้
บรรยากาศโรแมนติกและเงียบสงบ
แสงไฟที่ตกแต่งอย่างประณีตสะท้อนกับใบไม้สีแดง ส้ม เหลือง สร้างบรรยากาศโรแมนติกสุดพิเศษ เหมาะกับการเที่ยวเป็นคู่ หรือพาครอบครัวมาสัมผัสความสวยงามยามค่ำคืน
ถ่ายรูปออกมาได้อย่างสวยงาม
แสงไฟจากการประดับไฟหรือ Light Up จะเน้นเฉพาะจุด ช่วยให้ภาพถ่ายมีมิติและความนุ่มนวล ยิ่งหากใช้กล้องถ่ายภาพหรือมือถือที่มีโหมดกลางคืน รับรองว่าภาพที่ได้จะสวยไม่แพ้มือโปรเลย
เที่ยวได้แม้หมดเวลากลางวัน
ในกรณีที่ช่วงกลางวันมีตารางเวลาการเที่ยวที่แน่น การชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีการประดับไฟในช่วงเย็นไปจนถึงหัวค่ำก็เป็นทางเลือกที่ดี ให้คุณได้ใช้เวลาทุกนาทีในญี่ปุ่นได้อย่างคุ้มค่า
ช่วงเวลาที่ควรไปชมใบไม้เปลี่ยนสียามค่ำคืน
การชมใบไม้เปลี่ยนสีในยามค่ำคืนที่มีการประดับไฟในญี่ปุ่นเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นในช่วงเวลาจำกัด ซึ่งจะต่างกันไปตามภูมิภาคและสภาพอากาศในแต่ละปี ดังนั้นนักท่องเที่ยวควรวางแผนล่วงหน้า และตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนเดินทาง
กลางเดือนตุลาคม – ปลายเดือนพฤศจิกายน
ช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาที่ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีทั่วญี่ปุ่นตั้งแต่พื้นที่ตอนเหนืออย่างฮอกไกโดไปจนถึงภูมิภาคคันโตและคันไซ ช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายนจะเป็นช่วงพีคของหลายสถานที่ที่มีการจัดการประดับไฟยามค่ำคืน
เวลาเปิดไฟ
โดยทั่วไปแต่ละสถานที่จะเริ่มมีการเปิดไฟตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00 – 21.00 น. หรือบางสถานที่อาจเปิดถึง 22:00 น. ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่ ขอแนะนำให้ไปถึงก่อนเวลาพลบค่ำเล็กน้อยเพื่อชมการเปลี่ยนบรรยากาศจากแสงธรรมชาติสู่แสงไฟยามค่ำ
ตรวจสอบช่วงวันที่เปิดไฟ
ไม่ใช่ทุกวันในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่จะมีการเปิดไฟตามแต่ละสถานที่ สถานที่ส่วนใหญ่มักจะจัดเพียงบางวันหรือเฉพาะช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ทางที่ดีควรตรวจสอบตารางวันที่เปิดไฟของแต่ละสถานที่เอาไว้ด้วย
แนะนำจุดชมใบไม้เปลี่ยนสียามค่ำคืนที่ห้ามพลาด
เมื่อถึงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังหลาย ๆ ที่ของญี่ปุ่นก็จะเริ่มมีการประดับไฟอย่างสวยงามเพื่อให้เหล่านักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสบรรยากาศที่แตกต่างจากในตอนกลางวัน โดยสถานที่ชื่อดังที่เราจะขอแนะนำมีดังนี้
วัดคิโยมิซึ กรุงเกียวโต
IMG BY : veltra
วัดคิโยมิซึเป็นหนึ่งในสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่โด่งดังที่สุดในกรุงเกียวโต โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีการประดับไฟซึ่งจัดเป็นประจำทุกปี ไฮไลท์ของที่นี่คือระเบียงไม้ขนาดใหญ่ที่ยื่นออกจากตัวอาคารหลัก เหล่านักท่องเที่ยวจะมองเห็นวิวเหล่าใบไม้เปลี่ยนสีที่เป็นสีแดง ส้ม และเหลืองที่เรียงรายทั่วหุบเขาและบริเวณรอบวัดอย่างสวยงาม เมื่อแสงไฟส่องกระทบใบไม้เปลี่ยนสีในยามค่ำ ผสานกับแสงสีฟ้าที่ส่องจากด้านหลังของวัดขึ้นสู่ท้องฟ้า สร้างเป็นภาพที่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง
IMG BY : yomiuri, activityjapan
การเดินทาง
เดินทางมาที่สถานี JR Kyoto และนั่งรถบัสจากสถานีมาลงที่ป้าย Gojozaka หรือ Kiyomizu-michi และเดินต่อประมาณ 10 นาที
ดูรายละเอียดบัตร JR Pass ได้ที่นี่
จองโรงแรมได้ที่ |
||
---|---|---|
![]() |
![]() |
จองที่ HOTELS.com |
![]() |
![]() |
จองที่ EXPEDIA |
![]() |
![]() |
จองที่ AGODA |
![]() |
![]() |
จองที่ BOOKING.COM |
สวนริคุกิเอ็น กรุงโตเกียว
IMG BY : tokyo-trip
สวนริคุกิเอ็นเป็นสวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นในยุคเอโดะที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 มีลักษณะเด่นคือ ทะเลสาบกลางสวน เนินเขาจำลอง และเส้นทางเดินวนรอบบึงที่สวยงาม ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี สวนทั้งสวนจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม เหลือง เมื่อมีกระประดับไฟจะสร้างบรรยากาศอันเงียบสงบและโรแมนติก ซึ่งไฮไลท์ของที่นี่ในช่วงกลางคืนคือภาพสะท้อนของใบไม้แดงในสระน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งให้มุมถ่ายภาพที่งดงามมาก
IMG BY : tokyo-trip
การเดินทาง
เดินทางมาที่สถานี JR Komagome และเดินจากสถานีประมาณ 5 นาที
ดูรายละเอียดบัตร JR Pass ได้ที่นี่
จองโรงแรมได้ที่ |
||
---|---|---|
![]() |
![]() |
จองที่ HOTELS.com |
![]() |
![]() |
จองที่ EXPEDIA |
![]() |
![]() |
จองที่ AGODA |
![]() |
![]() |
จองที่ BOOKING.COM |
สวนเคนโรคุเอ็น จังหวัดอิชิคาวะ
IMG BY : kenrokuen
สวนเคนโรคุเอ็นได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 3 สวนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี สวนแห่งนี้จะเต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีที่เป็นสีแดง-เหลืองอย่างสวยงาม บรรยากาศยามค่ำคืนที่ถูกส่องด้วยแสงไฟ ทำให้สวนดูโรแมนติกและคลาสสิกมากขึ้น สะพานเล็ก ๆ ศาลา หรือน้ำตกภายในสวนกลายเป็นฉากถ่ายภาพที่งดงามอย่างยิ่งเมื่ออยู่ภายใต้แสงไฟ
การเดินทาง
เดินทางมาที่สถานี JR Kanazawa และนั่งรถบัสจากสถานีมาลงที่ป้าย Kenrokuen-shita จากนั้นให้เดินต่อประมาณ 5 นาที
ดูรายละเอียดบัตร JR Pass ได้ที่นี่
จองโรงแรมได้ที่ |
||
---|---|---|
![]() |
![]() |
จองที่ HOTELS.com |
![]() |
![]() |
จองที่ EXPEDIA |
![]() |
![]() |
จองที่ AGODA |
![]() |
![]() |
จองที่ BOOKING.COM |
สวนโมมิจิดานิ จังหวัดฮิโรชิมะ
IMG BY : nakaeno
สวนโมมิจิดานิเป็นสวนชื่อดังของจังหวัดฮิโรชิมะ ซึ่งสวนแห่งนี้จะอยู่บนเกาะอิสึกุชิมะ ชื่อ “โมมิจิดานิ” แปลเป็นภาษาไทยได้เป็น “หุบเขาใบเมเปิ้ล” ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงลักษณะของสวนนี้ได้เป็นอย่างดี ภายในสวนจะมีต้นเมเปิ้ลเรียงรายกันอยู่มากมาย โดยจะมีทั้งสีแดง ส้ม เหลืองอย่างสวยงามในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เมื่อถึงช่วงกลางคืนที่มีการประดับไฟ บรรยากาศของสวนนี้จะกลายเป็นเหมือนโลกแห่งความฝัน แสงไฟสีอบอุ่นสะท้อนกับใบไม้หลากสีสร้างความโรแมนติกสุด ๆ
IMG BY : tokyo-park
การเดินทาง
เดินทางมาที่สถานี JR Miyajimaguchi จากนั้นให้มาที่ท่าเรือเพื่อนั่งเรือข้ามฟากมาที่เกาะอิสึกุชิมะ และเดินจากท่าเรือไปประมาณ 15 นาที
ดูรายละเอียดบัตร JR Pass ได้ที่นี่
จองโรงแรมได้ที่ |
||
---|---|---|
![]() |
![]() |
จองที่ HOTELS.com |
![]() |
![]() |
จองที่ EXPEDIA |
![]() |
![]() |
จองที่ AGODA |
![]() |
![]() |
จองที่ BOOKING.COM |
นาบานะ โนะ ซาโตะ จังหวัดมิเอะ
IMG BY : nagashima-onsen
นาบานะ โนะ ซาโตะเป็นสวนดอกไม้ชื่อดังที่ขึ้นชื่อเรื่องงานประดับไฟ (Illumination) ในฤดูหนาวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น แต่ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็จะมีการตกแต่งสวนและทางเดินด้วยแสงไฟที่ผสมผสานระหว่างความอบอุ่นของฤดูใบไม้เปลี่ยนสีและแสงไฟเข้าด้วยกัน ไฮไลท์ของที่นี่คืออุโมงค์แสงไฟที่มีความยาวกว่า 200 เมตร สร้างบรรยากาศโรแมนติกสุด ๆ บริเวณสวนญี่ปุ่นและบ่อน้ำยังมีการประดับไฟเพื่อสะท้อนเงาใบไม้เปลี่ยนสีลงสระน้ำอย่างงดงามอีกด้วย
IMG BY : photo.mie-eetoko, instagram
การเดินทาง
เดินทางมาที่สถานี JR Kuwana หรือ JR Nagashima และนั่งรถบัสจากสถานีประมาณ 15 นาที
ดูรายละเอียดบัตร JR Pass ได้ที่นี่
จองโรงแรมได้ที่ |
||
---|---|---|
![]() |
![]() |
จองที่ HOTELS.com |
![]() |
![]() |
จองที่ EXPEDIA |
![]() |
![]() |
จองที่ AGODA |
![]() |
![]() |
จองที่ BOOKING.COM |
เคล็ดลับการเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสียามค่ำคืนให้ประทับใจและคุ้มค่า
การเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีในยามค่ำคืนที่มีการประดับไฟ ถือเป็นประสบการณ์ที่ทั้งโรแมนติกและน่าประทับใจให้กับเหล่าผู้ที่มาเยี่ยมชม แต่การเตรียมตัวให้พร้อมจะช่วยให้ทริปสนุกยิ่งขึ้นไปอีก โดยเราจะขอแนะนำเคล็ดลับในการเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสียามค่ำคืนดังนี้
ไปถึงก่อนฟ้ามืดเล็กน้อย
ขอแนะนำให้ไปถึงสถานที่ก่อนช่วงเปิดไฟประมาณ 30 – 60 นาที เพื่อที่จะได้เห็นวิวใบไม้เปลี่ยนสีทั้งตอนกลางวันและเปรียบเทียบกับตอนเปิดไฟในยามค่ำ แถมยังช่วยให้มีเวลาเลือกจุดถ่ายรูปดี ๆ ก่อนที่ผู้คนจะแน่นอีกด้วย
เตรียมเสื้อผ้ากันหนาวให้พร้อม
ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม มีโอกาสที่อุณหภูมิตอนกลางคืนในญี่ปุ่นจะต่ำกว่า 10 องศา หากใครที่ไม่ถูกกับอากาศหนาวก็ขอแนะนำให้ใส่เสื้อกันหนาวหรือแจ็คเก็ตหนา ๆ และเตรียมหมวก ถุงมือ ผ้าพันคอเอาไว้ด้วย
สวมใส่รองเท้าที่ทำให้รู้สึกสบาย เดินง่าย
หลายสถานที่ต้องเดินเป็นเวลานาน ๆ ระยะทางอาจไกลและพื้นลื่นจากความชื้น ขอแนะนำให้สวมใส่รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้ากันลื่นเพื่อที่ทำให้เดินได้อย่างสะดวก
ตรวจสอบเวลาการเปิด-ปิดไฟล่วงหน้า
เวลาการเปิด-ปิดไฟจะแตกต่างกันในแต่ละสถานที่ และอาจเปลี่ยนตามสภาพอากาศหรือวันหยุดพิเศษ ควรตรวจสอบให้ดีก่อนเดินทางไปที่สถานที่นั้น
วางแผนการเดินทางขากลับให้ดี
บางสถานที่อยู่ห่างไกล และรถไฟหรือรถบัสรอบสุดท้ายอาจหมดก่อนที่คุณจะกลับ ควรตรวจสอบเวลารถรอบสุดท้ายไว้ล่วงหน้าและเผื่อเวลาเดินกลับด้วย
คำศัพท์ญี่ปุ่นน่ารู้ ใช้ถามทางหรือพูดคุยเวลาเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีกับคนญี่ปุ่น
ในการไปเที่ยวญี่ปุ่น บางสถานที่ที่เราไม่รู้จักหรือหลงทางก็จะต้องมีการสอบถามคนแถว ๆ นั้น และโดยส่วนมากจะสอบถามเป็นภาษาอังกฤษซะส่วนใหญ่ แต่รู้หรือไม่ว่าคนญี่ปุ่นนั้นไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษสักเท่าไร หากใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารอาจจะมีงงกันบ้าง แต่เราจะขอแนะนำประโยคภาษาญี่ปุ่นง่าย ๆ เอาไว้เผื่อในกรณีฉุกเฉินที่จะต้องมีการสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ดังนี้
ประโยค | คำอ่าน | คำแปล |
---|---|---|
この場所のライトアップは何時からですか? | Kono basho no raito appu wa nanji kara desuka? โคโนะ บะโชะ โนะ ไรโตะอัพพุ วะ นันจิคาระ เดสึกะ? |
ที่นี่จะเริ่มเปิดไฟกี่โมงคะ/ครับ |
おすすめの場所はどこですか? | Osusume no basho wa doko desuka? โอสุสุเมะ โนะ บะโชะ วะ โดโกะ เดสีกะ |
จุดชมวิวที่แนะนำอยู่ตรงไหนคะ/ครับ |
写真を撮ってもいいですか? | Shashin wo tottemo iidesuka? ฉะชิน โอะ ทตเตะโมะ อีเดสกะ? |
ถ่ายรูปได้ไหมคะ/ครับ |
駅はどこですか? | Eki wa doko desuka? เอกิ วะ โดโคะ เดสกะ? |
สถานีรถไฟอยู่ตรงไหนคะ/ครับ |
この電車で〇〇まで行けますか? | Kono densha de 〇〇 made ikemasuka? โคโนะ เด็นฉะ เดะ 〇〇 มาเดะ อิเคมัสกะ? |
รถไฟขบวนนี้ไปถึง〇〇ไหมคะ/ครับ |
การชมใบไม้เปลี่ยนสีตอนกลางคืนในญี่ปุ่นเป็นประสบการณ์ที่ทั้งโรแมนติก สวยงาม และเหมาะกับการเที่ยวทั้งแบบคู่รัก ครอบครัว หรือสายถ่ายภาพ การได้เห็นแสงไฟส่องผ่านใบไม้เปลี่ยนสีเป็นภาพที่น่าประทับใจไม่รู้ลืม ใครที่วางแผนไปเที่ยวญี่ปุ่นฤดูนี้ ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นมาแล้ว ก็อย่าลืมมาแชร์ความทรงจำในการไปเที่ยวญี่ปุ่นกับพวกเราได้ในกิจกรรม Memories of Japan ที่จัดขึ้นในเพจ FAV A GOOD LAB ทุก ๆ เดือนนะคะ