แนะนำที่พักสุดประทับใจในภูมิภาคชูโกกุของญี่ปุ่น สัมผัสเสน่ห์แดนตะวันตก

IMG BY : agoda

ภูมิภาคชูโกกุของญี่ปุ่น ซึ่งครอบคลุมด้วย 5 จังหวัดทางตะวันตกของเกาะฮอนชู ถือเป็นสถานที่ที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปที่ภูมิภาคคันไซหรือภูมิภาคคิวชู ทางเราจึงได้รวบรวมโรงแรมที่น่าสนใจ ตั้งแต่ที่พักติดสถานีรถไฟใหญ่ไปจนถึงเรียวกังวิวสวย นอกจากนี้ เราได้จัดเตรียมข้อมูลต่าง ๆ ของที่พักแต่ละสถานที่เพื่อให้คุณสามารถเลือกที่พักที่ลงตัวที่สุดสำหรับทริปท่องเที่ยวภูมิภาคชูโกกุ

Miyajima Grand Hotel Arimoto

Miyajima Grand Hotel Arimoto เป็นเรียวกังสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ตั้งอยู่บนเกาะมิยาจิมะอันงดงาม โดยมีจุดเด่นคือทำเลที่ตั้งที่ช่วยให้เหล่าผู้เข้าพักสามารถเดินไปชมศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine) และประตูโทริอิกลางน้ำในยามเช้าตรู่หรือยามค่ำคืนได้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกาะเผยความสงบเงียบที่สุด

ผู้เข้าพักจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ ผ่านการพักในห้องพักสไตล์เสื่อทาทามิที่มาพร้อมกับทิวทัศน์ทะเลเซโตะและป่าสีเขียวขจีโดยรอบ นอกจากนี้ โรงแรมยังมีบริการน้ำพุร้อนออนเซ็นที่ให้คุณได้ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางและชมวิวสวย ๆ ไฮไลท์ของเรียวกังแห่งนี้คือชุดอาหารญี่ปุ่นไคเซกิที่หรูหรา ซึ่งมีการใช้วัตถุดิบอาหารทะเลสดใหม่และวัตถุดิบท้องถิ่นของฮิโรชิม่า

สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจใกล้ ๆ Miyajima Grand Hotel Arimoto

เนื่องจาก Miyajima Grand Hotel Arimoto ตั้งอยู่บนเกาะมิยาจิมะ ทำให้การเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวหลักซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเกาะจะเป็นสถานที่เดินทางได้อย่างง่าย ไม่ว่าจะเป็นศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine) และเสาโทริอิกลางน้ำที่เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเกาะมิยาจิมะ และเป็นหนึ่งในสามทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดของญี่ปุ่น ตัวศาลเจ้าสีแดงชาดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเหนือผิวน้ำ ทำให้ดูเหมือนลอยอยู่บนทะเลเซโตะ

บริเวณใกล้ ๆ ยังมีถนนช้อปปิ้งโอโมเตะซันโด ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่ทอดยาวจากท่าเรือไปยังศาลเจ้า และเป็นแหล่งรวมร้านค้าขายของฝากและอาหารท้องถิ่นมากมาย โดยที่นี่คุณจะพบกับของน่าอร่อยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นขนมโมมิจิมันจู หอยนางรมย่าง ซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดฮิโรชิม่า

ห่างออกไปหน่อยก็จะมีภูเขามิเซ็น (Mount Misen) และกระเช้าลอยฟ้ามิยาจิมะ (Miyajima Ropeway) ที่เป็นสถานที่น่าสนใจ ซึ่งภูเขามิเซ็นเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดบนเกาะ และได้รับการยกย่องว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งจากยอดเขา คุณจะสามารถชมทัศนียภาพแบบพาโนรามาของทะเลเซโตะและเกาะน้อยใหญ่ที่สวยงามได้

ข้อมูลของ Miyajima Grand Hotel Arimoto

ราคา	เริ่มต้น 14,000 THB~
สถานที่ใกล้เคียง	ศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ (เดิน 5 นาที) ถนนช้อปปิ้งโอโมเตะซันโด (เดิน 10 นาที) ภูเขามิเซ็น (เดิน 20 นาที)
การเดินทาง	เดินทางมาที่สถานี JR Miyajimaguchi จากนั้นต่อเรือข้ามฟากมาลงที่ท่าเรือมิยาจิมะ แล้วเดินต่อประมาณ 15 นาที

ดูรายละเอียดบัตร JR Pass ได้ที่นี่

จองโรงแรมได้ที่
		จองที่ HOTELS.com
		จองที่ EXPEDIA
		จองที่ AGODA
		จองที่ BOOKING.COM

Dormy Inn Izumo

โรงแรม Dormy Inn Izumo เป็นโรงแรมที่มีทำเลตั้งอยู่อย่างดีเยี่ยม โดยอยู่ติดกับสถานีรถไฟ ทำให้เหล่าผู้ที่เข้าพักสามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย ไฮไลท์ของโรงแรมนี้อยู่ที่บ่อน้ำพุร้อนออนเซ็นขนาดใหญ่ที่อยู่ภายในโรงแรม โดยมีทั้งบ่อในร่มและกลางแจ้ง รวมถึงบริการซาวน่าที่ช่วยให้ผู้เข้าพักได้ผ่อนคลายร่างกาย

นอกจากนี้ ยังมีเมนูราเม็งคอยให้บริการในช่วงกลางคืนอีกด้วย โดยเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และเนื่องจากโรงแรมนี้ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ JR Izumoshi ทำให้การเดินทางไปยังสถานที่ยอดนิยมของจังหวัดอย่างศาลเจ้าอิซุโมะ ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น

สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจใกล้ ๆ Dormy Inn Izumo

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยว่ที่น่าสนใจของจังหวัดชิมาเนะ จะอยู่ห่างไกลจากโรงแรม Dormy Inn Izumo ไปนิดนึง ซึ่งผู้มาเยือนอาจจะต้องใช้บริการขนส่งสาธารณะในการเดินทางเพิ่มเติม โดยจะมีศาลเจ้าอิซุโมะที่เป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และมีชื่อเสียงในฐานะ “ศาลเจ้าแห่งการผูกดวง” หรือการขอเนื้อคู่ที่โด่งดังไปทั่วโลก โดยเหล่านักท่องเที่ยวที่เชื่อในเรื่องความรักและโชคลาภจึงนิยมเยือนที่นี่ ตัวอาคารหลักของศาลเจ้ามีสถาปัตยกรรมแบบเก่าแก่และมีเชือกชิเมนาวะ (Shimenawa) ขนาดใหญ่ที่มัดอยู่บริเวณทางเข้าห้องบูชาหลัก ซึ่งเป็นเชือกมงคลที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น

ห่างออกจากศาลเจ้าอิซุโมะหน่อยก็จะมีหาดอินาซะที่เป็นสถานที่สำคัญของจังหวัด โดยบริเวณหาดจะมีโขดหินเบนเทนจิมะ (Bentenjima) ซึ่งมีศาลเจ้าเล็ก ๆ ตั้งอยู่ด้านบน และมีประตูโทริอิขนาดเล็กอยู่ สร้างเป็นทัศนียภาพที่สวยงามและเป็นจุดถ่ายภาพที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ตรงจุดนี้จึงเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาค

ไกลออกไปจากหาดอินาซะ จะมีประภาคารอิซุโมะ ฮิโนมิซากิ ซึ่งตั้งอยู่บนแหลมฮิโนะมิซากิ ซึ่งเป็นปลายทางตะวันตกของเมืองอิซุโมะและเป็นประภาคารที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ประภาคารนี้เป็นประภาคารที่ทำจากหินแห่งเดียวที่ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปชมวิวจากด้านบนได้ ซึ่งผู้เข้าชมจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันกว้างใหญ่ของทะเลญี่ปุ่นและแนวชายฝั่งจังหวัดชิมาเนะที่สวยงาม

ข้อมูลของ Dormy Inn Izumo

ราคา	เริ่มต้น 5,000 THB~
สถานที่ใกล้เคียง	ศาลเจ้าอิซุโมะ (รถบัส 30 นาที) หาดอินาซะ (รถบัส 40 นาที) ประภาคารอิซุโมะ ฮิโนมิซากิ (รถบัส 1 ชั่วโมง)
การเดินทาง	เดินทางมาที่สถานี JR Izumoshi และเดินออกจากสถานีประมาณ 1 นาที

ดูรายละเอียดบัตร JR Pass ได้ที่นี่

จองโรงแรมได้ที่
		จองที่ HOTELS.com
		จองที่ EXPEDIA
		จองที่ AGODA
		จองที่ BOOKING.COM

The OneFive Okayama

โรงแรม The OneFive Okayama ถือเป็นโรงแรงที่มีทำเลที่ตั้งและความสะดวกสบายในการเดินทางจากสถานี JR Okayama ได้โดยใช้เวลาไม่กี่นาที เพราะสถานี JR Okayama ถือเป็นสถานีศูนย์กลางการคมนาคมสำคัญของภูมิภาคชูโกกุ เพราะเป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟชินคันเซ็นสายซันโย ทำให้ผู้เข้าพักสามารถเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญได้อย่างรวดเร็ว

โรงแรม The OneFive Okayama จะมีห้องพักที่สะอาด ทันสมัย สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมีราคาที่สมเหตุสมผลตามมาตรฐานโรงแรมญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียวสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มค่าและความสะดวกสบายในการท่องเที่ยวบริเวณพื้นที่ภายในจังหวัด

สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจใกล้ ๆ The OneFive Okayama

ใกล้ ๆ โรงแรม The OneFive Okayama จะมีสถานที่น่าสนใจอย่างสวนโคราคุเอ็น (Korakuen Garden) ที่เป็น 1 ใน 3 สวนที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น และเป็นสวนที่สร้างขึ้นในช่วงสมัยเอโดะ โดยสวนนี้จะมีความงดงามแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาล และมักมีการจัดไฟประดับในช่วงกลางคืนในบางโอกาส

และบริเวณใกล้ ๆ สวนโคราคุเอ็นก็ยังมีปราสาทโอคายามะ (Okayama Castle) ที่เป็นปราสาทที่ได้รับฉายาว่า “ปราสาทอีกา” เนื่องจากตัวปราสาทมีสีดำสนิท ซึ่งได้รับการบูรณะใหม่และเปิดให้เข้าชมภายในปราสาท เหล่านักท่องเที่ยวยังสามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์เมืองจากด้านบนปราสาทได้

ห่างจากโรงแรมไปหน่อยก็จะมีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดโอคายามะอย่างเขตอนุรักษ์ประวัติศาสตร์คุราชิกิบิคัง (Kurashiki Bikan Historical Quarter) ซึ่งเป็นเขตเมืองเก่าที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ภายในย่านนี้โดดเด่นด้วยอาคารโกดังเก่าแก่ผนังสีขาวตัดกับไม้สีเข้มและต้นไม้ที่เรียงรายอยู่ริมคลองสายหลัก ทำให้เกิดเป็นบรรยากาศเงียบสงบและโรแมนติกเป็นอย่างมาก เหล่านักท่องเที่ยวมักนิยมล่องเรือพายในคลองเพื่อชมวิวเมืองเก่า หรือแวะชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะโอฮาระ (Ohara Museum of Art) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตกเอกชนแห่งแรกของญี่ปุ่นอีกด้วย

ข้อมูลของ The OneFive Okayama

ราคา	เริ่มต้น 2,000 THB~
สถานที่ใกล้เคียง	สวนโคราคุเอ็น (เดิน 10 นาที) ปราสาทโอคายามะ (เดิน 10 นาที) เขตอนุรักษ์ประวัติศาสตร์คุราชิกิบิคัง (รถไฟ 20 นาที)
การเดินทาง	เดินทางมาที่สถานี JR Okayama และนั่งรถรางมาที่สถานี Shiroshita ประมาณ 5 นาที

ดูรายละเอียดบัตร JR Pass ได้ที่นี่

จองโรงแรมได้ที่
		จองที่ HOTELS.com
		จองที่ EXPEDIA
		จองที่ AGODA
		จองที่ BOOKING.COM

Mercure Tottori Daisen Resort & Spa

โรงแรม Mercure Tottori Daisen Resort & Spa เป็นโรงแรมที่จะมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่โดดเด่นและแตกต่างจากโรงแรมในตัวเมือง เพราะตั้งอยู่บนเนินเขาในเขตอุทยานแห่งชาติไดเซ็นโอกิ ทำให้ผู้เข้าพักสามารถรับชมทัศนียภาพอันงดงามของภูเขาไดเซ็น (Mount Daisen) ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในภูมิภาคชูโกกุ และวิวของทะเลญี่ปุ่นและคาบสมุทรยูมิกาฮามะ (Yumigahama Peninsula) ได้จากห้องพักหรือส่วนกลางของโรงแรม

โรงแรม Mercure Tottori Daisen Resort & Spa จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โดยเฉพาะการเข้าใช้บ่อน้ำพุร้อนออนเซ็นทั้งในร่มและกลางแจ้งที่มีน้ำพุร้อนธรรมชาติ ซึ่งช่วยบำบัดความเมื่อยล้าของร่างกายได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเหล่านักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นการเดินสำรวจธรรมชาติ การเล่นสกี ส่วนเมนูอาหารของโรงแรมนี้ก็จะเน้นวัตถุดิบคุณภาพสูงในท้องถิ่น ทำให้ผู้เข้าพักสามารถเพลิดเพลินกับเมนูอาหารแสนอร่อยพร้อมการสัมผัสธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของจังหวัดทตโตริได้อย่างเต็มที่

สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจใกล้ ๆ Mercure Tottori Daisen Resort & Spa

เนื่องจากโรงแรม Mercure Tottori Daisen Resort & Spa เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่บนเนินเขา เหล่านักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวบนเนินเขา และเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ ๆ อย่างสวนดอกไม้ทตโตริ ฮานะคาอิโระ (Tottori Hanakairo Flower Park) ที่เป็นสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น โดยตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของภูเขาไดเซ็น ภายในสวนมีเรือนกระจกรูปทรงโดมขนาดใหญ่และมีทางเดินเชื่อมที่มีหลังคาคลุม ทำให้ผู้เข้าชมสามารถเพลิดเพลินกับดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี และสวนแห่งนี้ยังมีการจัดแสดงไฟประดับอย่างสวยงาม

ห่างออกไปจากโรงแรมจะเป็นถนนอสูรน้อยคิทาโร่ (Mizuki Shigeru Road) โดยเป็นถนนสายยาวที่มีรูปปั้นทองแดงของเหล่าภูตผีจากการ์ตูนเรื่อง “อสูรน้อยคิทาโร่ (GeGeGe no Kitaro)” เรียงรายอยู่มากมาย ซึ่งบรรยากาศของถนนจะเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร และคาเฟ่ในธีมภูติผีต่าง ๆ ซึ่งผู้มาเยือนสามารถเพลิดเพลินกับการตามหาและถ่ายรูปกับเหล่าภูตผีได้ตลอดทาง

สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปสถานที่ยอดนิยมอย่างเนินทรายทตโตริ แม้จะอยู่ห่างจากโรงแรมพอสมควร แต่ที่นี่ก็ถือเป็นสถานที่สำคัญอันดับหนึ่งของทตโตริที่คนส่วนใหญ่รู้จัก ตัวเนินทรายขนาดใหญ่นี้ตั้งอยู่ริมทะเลญี่ปุ่น มีความยาว 16 กิโลเมตร กว้าง 2.4 กิโลเมตร ผู้มาเยือนสามารถเดินขึ้นไปบนเนินทรายเพื่อชมวิวทะเลอันกว้างใหญ่ หรือสนุกกับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การขี่อูฐ การเล่นบอร์ดทราย ฯลฯ

ข้อมูลของ Mercure Tottori Daisen Resort & Spa

ราคา	เริ่มต้น 4,000 THB~
สถานที่ใกล้เคียง	สวนดอกไม้ทตโตริ ฮานะคาอิโระ (รถบัส 1 ชั่วโมง) ถนนอสูรน้อยคิทาโร่ (รถบัสและรถไฟ 1 ชั่วโมงครึ่ง) เนินทรายทตโตริ (รถบัสและรถไฟ 4 ชั่วโมง)
การเดินทาง	เดินทางมาที่สถานี JR Daisenguchi และนั่งรถบัสรับส่งจากโรงแรม

ดูรายละเอียดบัตร JR Pass ได้ที่นี่

จองโรงแรมได้ที่
		จองที่ HOTELS.com
		จองที่ EXPEDIA
		จองที่ AGODA
		จองที่ BOOKING.COM

Uno Hotel

โรงแรม Uno Hotel เป็นโรงแรมที่มีความโดดเด่นอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบงานศิลปะและผู้ที่ต้องการสำรวจเกาะศิลปะชื่อดังในทะเลเซโตะ โดยมีทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานี JR Uno และติดกับท่าเรือ Uno ทำให้เป็นประตูสู่เกาะนาโอชิมะ (Naoshima) และเกาะเทชิมะ (Teshima) ที่มีงานศิลปะที่งดงาม ซึ่งเหล่าผู้เข้าพักจะได้รับความสะดวกสบายสูงสุดในการต่อเรือเฟอร์รี่ในตอนเช้าและเดินทางกลับในตอนเย็นโดยไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ

ตัวโรงแรมจะมีการออกแบบที่ทันสมัยและมีสไตล์ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากงานศิลปะต่าง ๆ และท้องทะเล ทำให้บรรยากาศของโรงแรมจึงมีความน่าสนใจเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ช่วยเติมเต็มทริปของคุณ ไม่ว่าจะเป็นห้องอาหารและคาเฟ่ที่มีคุณภาพภายในโรงแรมเอง

สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจใกล้ ๆ Uno Hotel

โรงแรม Uno Hotel ตั้งอยู่ในทำเลที่เรียกได้ว่าเป็นประตูสู่หมู่เกาะศิลปะของทะเลเซโตะในจังหวัดโอคายามะ ซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอย่างสูงจากนักท่องเที่ยว ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวหลักจะต้องเริ่มต้นเดินทางจาก ท่าเรืออุโนะที่อยู่ติดกับโรงแรม โดยจะมีเกาะนาโอชิมะที่เป็นศูนย์กลางของงานศิลปะร่วมสมัยระดับโลก และเป็นเกาะที่ได้รับความนิยมสูงสุด ภายในเกาะจะมีพิพิธภัณฑ์ที่ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังและผลงานศิลปะกลางแจ้งที่โดดเด่น

นอกจากนี้ยังมีเกาะเทชิมะเป็นอีกหนึ่งเกาะศิลปะที่มีความสงบกว่านาโอชิมะ ซึ่งภายในเกาะจะมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะยอดนิยม ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหล่าคนรักศิลปะชอบไปเยือนกันเป็นอย่างยิ่ง โดยจะมีตัวอาคารมีลักษณะเป็นรูปทรงหยดน้ำสีขาวเรียบง่าย สร้างขึ้นกลางเนินเขา โดยรวมเอาสถาปัตยกรรม ศิลปะ และธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน

ข้อมูลของ Uno Hotel

ราคา	เริ่มต้น 2,000 THB~
สถานที่ใกล้เคียง	เกาะนาโอชิมะ (เรือ 30 นาที) เกาะเทชิมะ (เรือ 30 นาที)
การเดินทาง	เดินทางมาที่สถานี JR Uno มาได้เลย โดยโรงแรมจะตั้งอยู่ข้างสถานี

ดูรายละเอียดบัตร JR Pass ได้ที่นี่

จองโรงแรมได้ที่
		จองที่ HOTELS.com
		จองที่ EXPEDIA
		จองที่ AGODA
		จองที่ BOOKING.COM

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการพักโรงแรมในภูมิภาคชูโกกุ

ภูมิภาคชูโกกุเหมาะกับการใช้ JR Pass ชนิดใดมากที่สุด?

หาก,udkiวางแผนเดินทางในภูมิภาคชูโกกุและเชื่อมต่อไปยังภูมิภาคคันไซ บัตร JR Pass ที่คุ้มค่าที่สุดคือ JR Sanyo-San’in Area Pass เพราะครอบคลุมการเดินทางด้วยรถไฟชินคันเซ็นระหว่างชินโอซาก้าถึงฮากาตะ และครอบคลุมรถไฟท้องถิ่น JR ทั้งหมดใน 5 จังหวัดของชูโกกุ รวมถึงการขึ้นเรือเฟอร์รี่ JR ไปเกาะมิยาจิมะด้วย

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมภูมิภาคชูโกกุคือช่วงเวลาใด?

ช่วงที่ได้รับความนิยมที่สุดคือฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) เนื่องจากอากาศเย็นสบายและมีดอกซากุระบานอย่างสวยงาม โดยเฉพาะที่สวนโคราคุเอ็นในจังหวัดโอคาบามะ และปราสาทฮิโรชิม่า ส่วนฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (ตุลาคม – พฤศจิกายน) จะเป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามบนภูเขาไดเซ็นในจังหวัดทตโตริและเกาะมิยาจิมะ

การเดินทางไปเกาะมิยาจิมะ และเกาะศิลปะอย่างนาโอชิมะและเทชิมะ จำเป็นต้องจองเรือล่วงหน้าหรือไม่?

สำหรับเรือข้ามฟากไปเกาะมิยาจิมะนั้นไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้า สามารถซื้อตั๋วได้ที่ท่าเรือมิยาจิมะได้เลย และสามารถใช้บัตร JR Pass สำหรับเรือข้ามฟากของ JR ได้ด้วย สำหรับเรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะศิลปะอย่างนาโอชิมะและเทชิมะนั้นโดยปกติไม่จำเป็นต้องจองเช่นกัน เว้นแต่จะเป็นช่วงเทศกาลศิลปะที่จะต้องจองตั๋วเรือและตั๋วเข้าพิพิธภัณฑ์ล่วงหน้า

สามารถใช้ IC Card (เช่น Suica/ICOCA) ในการเดินทางทั่วภูมิภาคชูโกกุได้หรือไม่?

ในภูมิภาคชูโกกุสามารถใช้งานบัตร IC Card ได้เกือบทั้งหมด รวมถึงรถไฟเอกชนบางสายในเมืองและยังใช้ชำระเงินในร้านสะดวกซื้อและร้านค้าใหญ่ ๆ ได้อย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ตาม อาจมีรถบัสท้องถิ่นบางสายในพื้นที่ชนบทของจังหวัดทตโตริหรือจังหวัดชิมาเนะที่ยังรับแต่เงินสดอยู่

เคล็ดลับการเดินทางอย่างคุ้มค่าในภูมิภาคชูโกกุ

การเดินทางในภูมิภาคชูโกกุนั้นสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก หากมีการวางแผนการใช้บัตรโดยสารอย่างเหมาะสม และนี่คือเคล็ดลับสำคัญที่ควรรู้เอาไว้

เน้นการใช้บัตรโดยสาร JR Pass และบัตรเฉพาะพื้นที่

เนื่องจากภูมิภาคชูโกกุมีความยาวมากและมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญกระจายตัวอยู่ในหลายจังหวัด การใช้รถไฟ JR โดยเฉพาะรถไฟชินคันเซ็นเพื่อเดินทางระหว่างฮิโรชิม่า-โอคายามะ จึงเป็นวิธีการที่รวดเร็วและคุ้มค่าที่สุด

อย่าลืมบัตร IC Card

การพกบัตร IC Card อย่างพวก Suica, Pasmo จะเป็นตัวเลือกที่สะดวกสบาย โดยเป็นบัตรเติมเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ได้เกือบทุกระบบขนส่งสาธารณะในเมืองใหญ่ ๆ ทั่วญี่ปุ่น รวมถึงรถไฟและรถบัสท้องถิ่นในโอคายามะและฮิโรชิม่า นอกจากนี้ บัตร IC Card ยังใช้ชำระเงินในร้านสะดวกซื้อ ตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติและบางร้านค้าได้ ทำให้การซื้อของเล็ก ๆ น้อย ๆ สะดวกสบายและรวดเร็วยิ่งขึ้น

ลองใช้บริการเรือเฟอร์รี่ฟรีด้วย JR Pass

หากใช้บัตร JR Pass ไม่ว่าจะเป็นแบบ All Japan Pass หรือ Sanyo-San’in Pass สามารถใช้ขึ้นเรือของ JR Miyajima Ferry เพื่อข้ามไปยังเกาะมิยาจิมะได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งช่วยประหยัดค่าเดินทางไป-กลับได้

---

ภูมิภาคชูโกกุเป็นภูมิภาคที่มีประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ ความงามทางธรรมชาติที่หลากหลาย และศิลปะร่วมสมัยที่น่าตื่นตา โรงแรมที่เราแนะนำมานี้จึงได้รับการคัดสรรมาเพื่อรองรับทุกความต้องการ ตั้งแต่เรียวกังสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ ไปจนถึงโรงแรมที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายอย่างครบครันและมีวิวที่สวยงาม ด้วยการวางแผนการเดินทางที่เหมาะสม การเดินทางสำรวจเสน่ห์แห่งญี่ปุ่นตะวันตกในภูมิภาคชูโกกุจะเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจและไม่มีวันลืมอย่างแน่นอน สำหรับผู้ที่เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นมาแล้ว ก็อย่าลืมมาแชร์ความทรงจำในการไปเที่ยวญี่ปุ่นกับพวกเราได้ในกิจกรรม Memories of Japan ที่จัดขึ้นในเพจ FAV A GOOD LAB ทุก ๆ เดือนนะคะ