วัดคินคะคุจิหรือวัดทอง (Kinkaku-ji) หนึ่งในมรดกโลกที่ไม่ควรพลาด หากได้ไปเยือนเกียวโต

วัดคินคะคุจิ (Kinkaku-ji) หรือ “Golden Pavilion Temple” หรือเรียกเป็นภาษาไทยสั้น ๆ ว่า “วัดทอง” เป็นหนึ่งในวัดที่สำคัญและสวยงามที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต เป็นสำานที่ยอดนิยมสำหรับเหล่านักท่องเที่ยว และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกและมีชื่อเสียงจากวิหารทองคำ ภายในวัดคินคะคุจิมีสถานที่สำคัญอย่าง เช่น สวนอาชิฮาระ โฮโจ ที่เหล่านักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของทั้ง 4 ฤดูกาล

ภายนอกวัดมีการปิดทองที่สวยงาม

IMG BY : be-en

วัดคินคาคุจิแห่งเมืองเกียวโตมีลักษณะพิเศษด้วยภายนอกที่ปิดด้วยแผ่นทองอันสวยงามซึ่งส่องประกายราวกับลอยอยู่บนท้องฟ้า รูปลักษณ์ภายนอกงดงามด้วยทองคำเปลวถึง 200,000 แผ่น สร้างความสวยงามให้กับตัวอาคาร และตัวอาคารกับสวนเก่าแก่เองมีความกลมกลืนกัน ช่วยสร้างทิวทัศน์ที่แตกต่างกันไปตามฤดูกาล

IMG BY : kaitori-daikichi, kenshin

สวนอันสวยงามภายในวัด

IMG BY : wowlavie

เสน่ห์ของวัดคินคะคุจิไม่เพียงแต่อยู่ที่สถาปัตยกรรมที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังมีสวนหรูหราอยู่ภายในวัดอีกด้วย โดยสวนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 600 ปี ได้รับการรับรองว่าเป็นสถานที่พิเศษที่มีทิวทัศน์สวยงาม ซึ่งเหล่านักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับความงามตามธรรมชาติของแต่ละฤดูกาลตลอดจนทิวทัศน์อันงดงามของสีทองของวัดคินคะคุจิ

IMG BY : garden-guide, garden-guide

บทความที่อยากให้อ่านต่อพิ่มเติม

ไคซึ โอซากิ (Kaizu Osaki) รับชมซากุระอันสวยงามริมทะเลสาบบิวะในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

ความงดงามที่มีสระน้ำล้อมรอบ

IMG BY : imamiya

สวนของวัดคินคาคุจิเป็นสวนญี่ปุ่นที่สวยงามซึ่งมีสระน้ำอยู่ตรงกลาง ทำให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติที่แตกต่างกันไปตามฤดูกาล และทิวทัศน์จะงดงามเป็นพิเศษในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำชาในสระน้ำพร้อมเกาะเล็ก ๆ ที่สามารถใช้เวลาดื่มชาเพื่อผ่อนคลาย ทิวทัศน์ที่กลมกลืนกับอาคารเก่าแก่ก็เหมือนกับภาพวาดอันสวยงามที่คอยดึงดูดผู้มาเยือน

IMG BY : kyotomoyou, funjapo

บทความที่อยากให้อ่านต่อพิ่มเติม

มิยาโกะ โอโดริ (Miyako Odori) ประเพณีอันล้ำค่าที่สืบทอดมาเป็นเวลายาวนาน

การเดินทาง

หากเริ่มจากสถานี Kyoto ให้นั่งรถไฟสาย San-In มาลงที่สถานี Emmachi ประมาณ 10 นาที และเปลี่ยนเป็นนั่งรถบัสจากหน้าสถานีมาลงที่ป้าย Kinkakujimichi โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที และเดินต่อไปอีก 5 นาที หรือจะเดินจากสถานี Kyoto มาที่ป้าย Karasuma Nanjo ประมาณ 5 นาที และนั่งรถบัสยาวไปลงที่ป้าย Kinkakujimichi โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที

Kinkaku-ji จึงเป็นสถานที่ที่ถูกยกย่องเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ในปี 1994 เนื่องจากความสวยงาม ประวัติศาสตร์ และความสำคัญทางวัฒนธรรม จึงทำให้เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาเยี่ยมชม ทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่เดินทางมายังญี่ปุ่น และต้องการที่จะสัมผัสกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น