ใกล้สิ้นปีแบบนี้เชื่อว่าหลาย ๆ คน คงเริ่มวางแผนท่องเที่ยวกันบ้างแล้ว โดยเฉพาะการเดินทางไปเที่ยวในต่างประเทศ แต่สำหรับใครที่ยังไม่มีจุดหมายปลายทางที่แน่ชัด ทางเราก็มีตัวเลือกดี ๆ มานำเสนอ นั่นก็คือ 10 ที่เที่ยวธรรมชาติห้ามพลาดในญี่ปุ่น เพราะนอกจากจะเดินทางสะดวก ยังคงความสวยงามทุกฤดูอีกด้วย ว่าแล้วก็เริ่มออกเดินทางกันเลยดีกว่า Let’s go
สารบัญ
ภูเขาไฟอะโซะ
IMG BY : fun-japan
ถ้าพูดถึงที่เที่ยวธรรมชาติประเภทภูเขาหลายคนคงจะนึกถึง ภูเขาไฟฟูจิเป็นอันดับแรก แต่จริง ๆ แล้วยังมีอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นั่นก็คือ ภูเขาไฟโอชะ ซึ่งตั้งอยใจกลางเกาะคิวซู ในจังหวัดคุมาโมโต้ เพราะนอกจากจะเป็นภูเขาไฟที่มีขาดใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ยังสามารถนั่งรถกระเช้าไฟฟ้าเพื่อขึ้นไปชมความงามของปากป่องภูเขาไฟที่มีชื่อว่า นาคาดาเกะได้อีกด้วย หรือจะแค่แวะเก็บภาพสวย ๆ ของควันไฟก็ได้เช่นกัน เพียงแต่ควรเตรียมตัวและเช็กสภาพอากาศให้ดีก่อนออกเดินทางทุกครั้ง
ป่าไผ่ Sagano
IMG BY : tvpoolonline
ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรมชาติที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง สำหรับ ป่าไผ่ Sagano ที่พร้อมให้คุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติได้อย่างเพลิดเพลินด้วยความยาวกว่า 500 เมตร โดยแต่ละฤดูก็จะให้บรรยากาศที่แตกต่างกัน แต่ช่วงเวลาที่ได้รับควมนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างไม่ขาดสายก็คือ ในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี เพราะเป็นเวลาเดียวกันกับที่จะได้ชมความงามของงาน ประดับโคม “Kyoto-Arashiyama Hanator” ของประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง
ทุ่งลาเวนเดอร์ ฟาร์มโทะมิตะ
IMG BY : farm-tomita
สำหรับใครที่ชื่นชอบการถ่ายรูปเป็นชีวิตจิตใจ การเดินทางมายัง ทุ่งลาเวนเดอร์ ฟาร์มโทะมิตะ ถือเป็นตัวเลือกที่คู่ควรเป็นอย่างมาก เนื่องจากบริเวณโดยรอบรายล้อมไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ โดยเฉพาะดอกลาเวนเดอร์สีม่วงที่ปกคลุมไปทั่วไป งานนี้จะถ่ายแบบเดี่ยว ๆ หรือถ่ายคู่ก็ได้หมด ไม่เพียงเท่านั้นที่นี่ยังมีเมนูของหวานจากลาเวนเดอร์ให้ลิ้มลองอีกด้วย เช่น ซอฟต์ครีมกลิ่นลาเวนเดอร์ ชากลิ่นลาเวนเดอร์ และลาเวนเดอร์สมูทตี้ เป็นต้น
น้ำตกนาชิ
IMG BY : jw-webmagazine
มาต่อกันที่ น้ำตกนาชิ หนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ควรหาโอกาสมาสัมผัสความงามสักครั้งหากมีโอกาสได้มาญี่ปุ่น เพราะถึงจะมีเพียงชั้นดียว แต่กลับมีความสูงมากถึง 133 เมตร ซึ่งถือเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ยิ่งไปกว่านั้นยังมีความเชื่ออีกด้วยว่า น้ำที่ไหลลงมานั้น เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถดื่มเพื่อเป็นยาอายุวัฒนะได้ อีกทั้งที่ตั้งของน้ำตกยังสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเจดีย์สามชั้นสีแดงหรือที่เรียกกันว่า วัดเซกันโทจิ
เนินทรายต็อตโตริ
IMG BY : japan-guide
หลายคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่า ในประเทศญี่ปุ่นก็มีทะเลทรายที่มีชื่อว่า เนินทรายต็อตโตริ โดยจุดเด่นของที่นี่ก็คือขนาดของเนินทรายที่สูงถึง 50 เมตร บวกกับความกว้าง 2เมตร ดังนั้นแน่นนอนว่ากิจกรรมที่ไม่ควรพลาดก็คือ การขี่อูฐ ที่ใม่จำเป็นต้องไปไกลถึงอียิปต์ แถมใกล้ ๆ กันยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะทรายให้แวะมาชมความงามด้านจิตมากรรมแห่งเดียวในโลกได้ด้วย
บ่อน้ำสีฟ้า เมืองบิเอะ
IMG BY : en.wikipedia
บ่อน้ำสีฟ้า เมืองบิเอะ เป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจในเวลาเดียวกัน เนื่องจากสามารถแวะมาถ่ายรูปและแช่ออนเซนได้นั่นเอง โดยน้ำสีฟ้าที่เห็นนั่นเกิดขึ้นจากการปะทุของภูเขาไฟที่ตกตะกอนในน้ำ ทำให้เมื่อโดดแดดหรือสะท้อนแสงจะกลายเป็นสีฟ้า นอกจากนี้บริเวณโดยรอบของบ่อน้ำยังมีตอไม้สูงใหญ่ที่จะถูกปกคลุมด้วยหิมะในช่วงฤดูหนาว เรียกว่าเป็นความสวยงามที่ควรค่าแก่การมาเยือนอย่างยิ่ง
คามิโคจิ
IMG BY : go-nagano
จุดเด่นของ คามิโคจิ คือเป็นจุดชมวิวที่สวยงามจนถูกขนานนามสวิสเซอร์แลนด์ของประเทศญี่ปุ่น พื้นที่โดยรอบรายล้อบไปด้วยหุบเขาที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,500 เมตร โดยช่วงที่ควรไปเที่ยวมากที่สุดก็คือ ช่วงฤดูร้อนและ ฤดูใบไม้ร่วง ส่วนในฤดูหนาวจะปิดบริการเพื่อฟื้นฟูอุทยาน นอกจากนี้เพื่อเป็นการลดมลพิษ และรักษาสิ่งแวดล้อมจึงไม่อนุญาตให้นำรถยนต์ส่วนตัวเข้าด้านใน แต่สามารถเช่ารถและจอดไว้ด้านนอกอุทยานได้
ทะเลสาบคุชชะโระ
IMG BY : en.wikipedia
ชวนทุกคนมาซึบซับความเป็นธรรมชาติกันที่ ทะเลสาบคุชชะโระ ที่ความพิเศษจะอยู่ในช่วงฤดูหนาวตรงที่พื้นผิวน้ำจะจับตัวเป็นน้ำแข็งในช่วงฤดูหนาว แต่หากเลือกเดินทางในช่วงฤดูร้อนก็สามารถเลือกทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามอัธยาศัย ไม่ว่าจะเป็น ปั่นจักรยาน แช่น้ำพุร้อน พายเรือคายัค หรือ ตกปาก แถมยังเดินทางง่าย เพราะตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติอะกัง
ชายหาดยูริกาฮามะ
IMG BY : travel.gaijinpot
นอกจากน้ำตกแล้ว อีกหนึ่งที่เที่ยวธรรมชาติที่เราอยากแนะนำก็คือ ชายหาดยูริกาฮามะ ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอยู่เสมอ เนื่องจากเดินทางง่าย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ร้านค้า ร้านอาหาร หรือผับ เพียงแต่ขนาดของชายหาดจะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล หากต้องการลงเล่นน้ำควรเดินทางตั้งแต่เดือน เมษายนถึงเดือน พฤศจิกายน เพราะหากมาหลังจากนี้จะเหมาะสำหรับการนั่งชมพระอาทิตย์ตกดิน แต่ไม่สามารถลงเล่นน้ำได้
อุระบันได
IMG BY : fun-japan
เดินทางมาถึงอันดับสุดท้ายกันแล้วนั่นก็คือ อุระบันได แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่รวมทั้ง ป่า ภูเขา ทะเลสาบ บึงน้ำ และป่าในที่เดียว หากเดินทางมาในช่วงฤดูร้อนคุณจะได้พบกับความงามของทุ่งดอกลิลลี่สีเหลืองที่บานสะพรั่งชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย ส่วนใครที่รักในการเดินทาง ภายในอุทยานก็มีเส้นทางเดินป่าให้เลือกผจญภัยหลากหลายเส้นทาง แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็ต้องยกให้ เส้นทางทะเลสาบ 5 สี
เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 10 ที่เที่ยวธรรมชาติที่ห้ามพลาดในญี่ปุ่น ต้องบอกเลยว่าทุก ๆ สถานที่คัดมานั้นล้วนมีเสน่ห์เฉพาะตัวและควรค่าแก่การไปเยือนสักครั้งจริง ๆ เอาเป็นว่าใครที่กำลังเตรียมจะเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นในเร็ว ๆ นี้ ก็สามารถเก็บไว้ในลิลต์ได้เลย รับรองว่าประทับใจไม่รู้ลืมอย่างแน่นอน