สกีรีสอร์ทนิเซโกะ (Niseko Ski Resort) เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะฮอกไกโดในประเทศญี่ปุ่น นิเซโกะเป็นการผสมผสานระหว่างสภาพแวดล้อมแบบเทือกเขาแอลป์ที่เก่าแก่และประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และมอบประสบการณ์การเล่นสกีที่ไม่มีใครเทียบได้ ซึ่งไม่เหมือนที่ใดในโลก
ประวัติของสกีรีสอร์ทนิเซโกะ
ING BY : th.hotels
เรื่องราวของนิเซโกะในฐานะสกีรีสอร์ทเริ่มขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 แต่ประวัติศาสตร์ของพื้นที่นี้กลับลึกซึ้งยิ่งกว่านั้น ชาวไอนุที่เป็นชนพื้นเมืองดั้งเดิมได้อาศัยอยู่ในภูมิภาคนี้ และชื่อของนิเซโกะเองก็มาจากคำในภาษาไอนุว่า “นิเซโกะอัน” ซึ่งแปลว่า “หน้าผาที่ยื่นออกไปเหนือฝั่งแม่น้ำลึกเข้าไปในภูเขา” ความเชื่อมโยงกับธรรมชาตินี้ยังคงเป็นส่วนสำคัญของเอกลักษณ์ของนิเซโกะตลอดการเปลี่ยนแปลงให้กลายเป็นสกีรีสอร์ท
ในปี 1900 นิเซโกะเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลตัวเมือง โดยมีชุมชนเล็ก ๆ ที่มีผู้คนประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก เนินสกีแห่งแรกก่อตั้งขึ้นในปี 1919 โดยผู้ชื่นชอบการเล่นสกีในท้องถิ่นกำลังแกะสลักเนินเล็ก ๆ ออกจากไหล่เขาใกล้กับหมู่บ้านคาริบูโตะ อย่างไรก็ตาม ในช่วงปี 1950 และ 1960 เมื่อญี่ปุ่นได้พยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสงคราม การเล่นสกีจึงกลายเป็นกิจกรรมยามว่างที่ได้รับความนิยม
ความคิดที่จะเปลี่ยนนิเซโกะให้เป็นสกีรีสอร์ทเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 1950 หน่วยงานท้องถิ่นที่ตระหนักถึงความงามตามธรรมชาติของพื้นที่และหิมะที่ตกอย่างมากมาย จึงเริ่มพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับผู้ชื่นชอบกีฬาฤดูหนาว ลิฟต์สกีขนาดใหญ่ตัวแรกสร้างขึ้นในปี 1961 ที่ลานสกีนานาชาตินิเซโกะ อันนุปุริ (Niseko Annupuri) การเติบโตของนิเซโกะในฐานะสกีรีสอร์ตนั้นมั่นคงตลอดช่วงปลายศตวรรษที่ 20 รัฐบาลท้องถิ่นและภาคธุรกิจยังคงลงทุนด้านสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงโรงแรม ออนเซ็น และร้านอาหาร ภูมิภาคนี้จึงได้รับความนิยมในประเทศ แต่ยังไม่เป็นจุดหมายปลายทางในแผนที่สกีระหว่างประเทศ
IMG BY : skiing-hokkaido
จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นในปี 1990 เมื่อชาวออสเตรเลียเริ่มค้นพบความมหัศจรรย์ของนิเซโกะ ผู้ประกอบการทัวร์สกีในออสเตรเลียเริ่มโปรโมตเมืองนิเซโกะในประเทศของตนด้วยแรงดึงดูดจากหิมะละเอียดที่เรียกกันว่า “Japow” และประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใคร สิ่งนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงของนิเซโกะให้เป็นจุดหมายปลายทางการเล่นสกีที่ได้รับการยกย่องในระดับสากล
ในปี 2000 มีการลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นำไปสู่ความเจริญด้านการก่อสร้างในพื้นที่ มีโรงแรมหรู คอนโดหรู ร้านอาหารและสถานบันเทิงให้เลือกมากมาย เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น รีสอร์ทแห่งนี้มีชื่อเสียงอย่างรวดเร็วในด้านสภาพการเล่นสกีที่ยอดเยี่ยม สถานบันเทิงยามค่ำคืนที่มีชีวิตชีวา และการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกที่ไม่เหมือนใคร
IMG BY : th.hotels
ปัจจุบัน นิเซโกะประกอบด้วยพื้นที่เล่นสกีที่เชื่อมต่อถึงกันสี่แห่ง ได้แก่ อันนุปุริ (Annupuri) ฮิงาชิยามะ (Higashiyama) ฮิราฟุ (Hirafu) และฮานาโซโนะ (Hanazono) ทางลาดรองรับระดับทักษะที่หลากหลาย ตั้งแต่ทางวิ่งที่ดูแลเป็นอย่างดีสำหรับผู้เริ่มต้น ไปจนถึงลานสกีที่ท้าทายสำหรับนักสกีและนักสโนว์บอร์ดขั้นสูง ที่รีสอร์ทจะมีลิฟต์กว่า 40 ตัว รวมทั้งกอนโดลา และให้บริการเล่นสกีในตอนกลางคืน ซึ่งเป็นลักษณะที่หาได้ยากในบรรดาสกีรีสอร์ทใหญ่ ๆ ทั่วโลก
สำหรับฤดูเล่นสกีของนิเซโกะมักจะเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม โดยมีหิมะตกหนักที่สุดระหว่างเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ รีสอร์ทแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องหิมะคุณภาพสูงสม่ำเสมอ อันเป็นผลมาจากลมหนาวจากไซบีเรียที่พัดพาความชื้นเหนือทะเลญี่ปุ่นและทับถมบนภูเขาของฮอกไกโด ปรากฏการณ์นี้มักถูกเรียกว่า “หิมะจากน้ำทะเล” ส่งผลให้เมืองนิเซโกะมีหิมะตกเฉลี่ย 14 เมตรต่อปี ซึ่งสูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
ในส่วนนอกเนินเขานิเซโกะ ยังมอบประสบการณ์มากมายที่ดึงดูดวัฒนธรรมญี่ปุ่นในท้องถิ่น ซึ่งภูมิภาคนี้มีชื่อเสียงในด้านออนเซ็นซึ่งเป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ให้การพักผ่อนอย่างผ่อนคลายหลังจากเล่นสกีมาทั้งวัน อาหารของพื้นที่นี้ยังเป็นไฮไลท์ เช่น อาหารทะเลสดจากทะเลญี่ปุ่นที่อยู่ใกล้เคียง ผลผลิตที่ปลูกในท้องถิ่น และอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม การผสมผสานระหว่างความหรูหราของสกีรีสอร์ตที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของนิเซโกะกับการดื่มด่ำกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นแท้ ๆ ช่วยเพิ่มมิติให้กับการเล่นสกีในช่วงวันหยุดที่รีสอร์ทอื่นไม่กี่แห่งสามารถจับคู่ได้
IMG BY : lonelyplanet
การเติบโตของนิเซโกะจากพื้นที่ชนบทที่ไม่รู้จักสู่จุดหมายปลายทางการเล่นสกีชั้นนำแห่งหนึ่งของโลกเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความงามตามธรรมชาติ ปริมาณหิมะที่ตกเป็นพิเศษ และความพิเศษทางวัฒนธรรม รีสอร์ทไม่เพียงสามารถดึงดูดผู้มาเยือนจากทั่วโลกเท่านั้น แต่ยังรักษาเอกลักษณ์เฉพาะตัวและความเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนที่มาเยี่ยมชมจะได้รับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นิเซโกะได้กลายเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่ประสบความสำเร็จ โดยสร้างความสมดุลระหว่างการพัฒนาอย่างรวดเร็วกับความพยายามในการอนุรักษ์ของญี่ปุ่น ซึ่งผู้คนใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน ทุกวันนี้ นิเซโกะยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้านโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวก ในขณะที่ยังคงมุ่งมั่นที่จะรักษาความงามตามธรรมชาติและมรดกทางวัฒนธรรม ความมุ่งมั่นนี้ทำให้นิเซโกะเป็นสถานที่สกีรีสอร์ทชั้นนำและเป็นจุดหมายปลายทางอันเป็นที่รักของคนรุ่นหลัง