คันโต

ศาลเจ้ายาสึคุนิ (Yasukuni Shrine) กับมรดกทางประวัติศาสตร์ที่จารึกถึงผู้ที่เสียสละเพื่อประเทศชาติ

ศาลเจ้ายาสึคุนิ (Yasukuni Shrine) ตั้งอยู่ที่เขตชิโยดะในเมืองโตเกียวของประเทศญี่ปุ่น ที่ศาลเจ้านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อถวายความกตัญญูและความเคารพต่อผู้ที่เสียชีวิตในการทำงานหรือสูญเสียชีวิตระหว่างที่รับใช้ชาติ

ประวัติของศาลเจ้ายาสึคุนิ

IMG BY : en.wikipedia

ประวัติของศาลเจ้ายาสึคุนิถูกสร้างขึ้นในปี 1869 ในยุคสมัยเมจิ โดยดั้งเดิมมีชื่อว่า Tokyo Shokonsha และถูกเปลี่ยนเป็นชื่อปัจจุบันในปี 1879 โดยจักรพรรดิเมจิเอง คำว่า “Yasukuni” ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “สันติภาพของชาติ” และยังสื่อถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์และความศรัทธาทางศาสนาของญี่ปุ่น สำหรับศาลเจ้ายาสึคุนิเป็นศาลเจ้าที่สำคัญของศาสนาชินโต แต่สิ่งที่ทำให้ศาลเจ้านี้แตกต่างของจากวัดชินโตทั่วไป คือ ศาลเจ้านี้ให้ความเคารพในแบบเฉพาะเจาะจงโดยเน้นที่ผู้บริการทางทหารและผู้บริการสาธารณะที่เสียชีวิตระหว่างการทำงาน นับตั้งแต่ยุคสมัยเมจิถึงเวลาปัจจุบัน

ศาลเจ้ายาสึคุนิมีการระลึกถึงผู้เสียชีวิตจากหลายสงครามที่ญี่ปุ่นเข้าร่วม รวมถึงสงครามโลกครั้งที่สอง ที่นี่จึงมีการอธิบายเกี่ยวกับการเมืองและสังคมของญี่ปุ่นและประเทศที่มีความเกี่ยวข้องกับญี่ปุ่นในสงครามเหล่านั้น ที่ศาลเจ้ายาสึคุนินั้นมี “หนังสือชีวประวัติ” (Irei no Isho) ของผู้ที่เสียชีวิตในสงครามถูกเก็บไว้ เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งบรรจุข้อมูลที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับชีวิตของผู้เสียชีวิต

อีกหนึ่งจุดสำคัญของศาลเจ้านี้ คือ “Yushukan” หรือ พิพิธภัณฑ์สงครามญี่ปุ่นซึ่งเปิดให้เข้าชมเมื่อปี 1882 และได้รับการปรับปรุงและขยายในปี 1932 1985 และ 2002 พิพิธภัณฑ์นี้ได้สะสมสิ่งของทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับทางทหารญี่ปุ่นและผู้ที่เสียชีวิตในสงคราม

IMG BY : japan-guide



อย่างไรก็ตาม ศาลเจ้ายาสึคุนิได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์มากมายเนื่องจากได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็น “ผู้กระทำอาชญากรรมสงคราม” ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง เพราะญี่ปุ่นถูกตั้งข้อหาว่าได้กระทำอาชญากรรมสงคราม ปัญหานี้ได้ทำให้ศาลเจ้ายาสึคุนิกลายเป็นสัญลักษณ์ของการอภิปรายทางการเมืองของญี่ปุ่น แต่ศาลเจ้านี้ก็ยังถือเป็นสัญลักษณ์ของการรำลึกถึงผู้ที่เสียสละเพื่อชาติ แต่สำหรับผู้คนบางกลุ่มอาจจะมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของสงครามและการมุมมองทางอารยธรรมที่ยังคงอยู่ ทั้งหมดนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ซับซ้อนของญี่ปุ่นที่สะท้อนออกมา

Pick up


บทความแนะนำ

  1. ท่องเที่ยวที่คาโกชิมะและมิยาซากิด้วยรถไฟ D&S (จังหวัดมิยาซากิ)

  2. ท่องเที่ยวที่คาโกชิมะและมิยาซากิด้วยรถไฟ D&S (จังหวัดคาโกชิมะ)

  3. 【จังหวัดโออิตะ】รับชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์รอบคิวชู! และสำรวจสถานที่ยอดฮิตจากเรื่อง “ผ่าพิภพไททัน” (Attack on Titan)

  4. 【จังหวัดฟุกุโอกะ】รับชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์รอบคิวชู! และสำรวจสถานที่ยอดฮิตจากเรื่อง “ดาบพิฆาตอสูร” (Kimetsu no Yaiba)

  5. 【จังหวัดคาโกชิมะ】รับชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์รอบคิวชู! และสำรวจสถานที่ยอดฮิตจากเรื่อง “ยามซากุระร่วงโรย” (5 Centimeters Per Second)

  6. 【จังหวัดคุมาโมโตะ】รับชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์รอบคิวชู! และสำรวจสถานที่ยอดฮิตจากเรื่อง “นัตสึเมะกับบันทึกพิศวง” (Natsume Yuujin Chou) และ “วันพีซ” (One Piece)

  7. แนะนำเส้นทางเที่ยวญี่ปุ่นกับ Peach : 3 เส้นทางที่ไม่ควรพลาด

  8. สัมผัสความประทับใจและความสะดวกสบาย บนเส้นทางเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ (ไทย) สู่โอซาก้า (ญี่ปุ่น)

  9. บริการแนะนำสำหรับการเดินทางในญี่ปุ่น!เก็บสัมภาระไว้ที่ร้าน ”KARAOKEKAN” ใกล้ๆ แล้วไปเที่ยว หรือช้อปปิ้งได้แบบไม่ต้องหิ้วของ♪ บริการฝากสัมภาระ Luggage Storage

  10. บริการขนส่งสัมภาระที่ทำให้คุณสนุกกับการเดินทางในโตเกียวได้อย่างเต็มที่ เมื่อมาถึงสนามบิน ก็สามารถไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องถือของ ! Luggage Transfer-Porter Express

บทความล่าสุด

  1. ช้อปของฝากฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ของดีประจำฤดูที่หาซื้อได้เฉพาะช่วงนี้

  2. ใบไม้เปลี่ยนสี x วัฒนธรรมญี่ปุ่น : แนะนำพิพิธภัณฑ์และศิลปะท่ามกลางฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

  3. พาลูกเที่ยวญี่ปุ่นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี จุดเช็คอินที่เหมาะกับครอบครัว

  4. เตรียมตัวให้พร้อม กับฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของญี่ปุ่น!

  5. แนะนำสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีอันสวยงามในภูมิภาคฮอกไกโด

  6. แนะนำสวนสาธารณะในโตเกียวที่เหมาะสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสีแบบชิล ๆ

  7. แนะนำของกินเด็ด ๆ ของญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

  8. ใบไม้เปลี่ยนสีอันสวยงามกับออนเซ็น แหล่งน้ำพุร้อนสุดฟินที่ควรไปเยือนในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

  9. แนะนำเมืองนอกกระแสที่เหมาะกับการชมใบไม้เปลี่ยนสีแบบไม่แออัด

  10. วัดโทโชจิ (Tochoji Temple) กับความงามของพระพุทธรูปภายในวัด และเทศกาลปาถั่วแสนสนุก

TOP