IMG BY : agoda
ภูมิภาคคิวชู เป็นเกาะทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นภูมิภาคที่รู้จักจากธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น บ่อน้ำพุร้อนออนเซ็นที่เลื่องชื่อ และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ภูมิภาคคิวชูประกอบด้วย 7 จังหวัด ซึ่งแต่ละแห่งมีเสน่ห์แตกต่างกันไป ตั้งแต่เมืองท่าที่มีประวัติศาสตร์อย่างฟุกุโอกะ ไปจนถึงแหล่งออนเซ็นที่มีชื่อเสียงระดับโลกในเบปปุและคุมาโมโตะ การได้สัมผัสกับทิวทัศน์ธรรมชาติหรือชายฝั่งทะเลที่สวยงามของคาโกชิมะ จะเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำได้เป็นอย่างดี บทความนี้ เราจะขอนำเสนอที่พักชั้นเลิศในภูมิภาคคิวชูที่จะทำให้การเดินทางของคุณสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
สารบัญ
Hotel Monterey La Soeur Fukuoka
โรงแรม Hotel Monterey La Soeur Fukuoka จะมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่ผสมผสานความสะดวกสบายและสไตล์ที่โดดเด่นได้อย่างลงตัว ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ในย่านเทนจิน ซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจและแหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญที่สุดของจังหวัดฟุกุโอกะ ทำให้ผู้เข้าพักได้รับประโยชน์สูงสุดจากความสะดวกในการเดินทางเป็นอย่างมาก เพราะใช้เวลาเดินเพียง 3 นาทีจากสถานีรถไฟ Tenjin
โรงแรมนี้โดดเด่นด้วยการออกแบบภายในเป็นแบบสไตล์ยุโรป ทำให้รู้สึกถึงความหรูหราได้เป็นอย่างดี ตัวห้องพักที่ได้รับการตกแต่งอย่างดี บางห้องยังมอบทัศนียภาพอันงดงามของแสงไฟในเมืองยามค่ำคืน ในช่วงเวลาเช้า ผู้เข้าพักสามารถลิ้มรสเมนูอาหารแบบบุฟเฟต์ที่มีให้เลือกหลากหลายเมนู ก่อนออกไปสำรวจแหล่งช้อปปิ้งและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ
สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจใกล้ ๆ Hotel Monterey La Soeur Fukuoka
เนื่องจากโรงแรม Hotel Monterey La Soeur Fukuoka ตั้งอยู่ภายในย่านเทนจินและใกล้กับสถานีรถไฟ ทำให้การเดินทางไปสถานที่ต่าง ๆ นั้นสะดวกเป็นอย่างมาก ใกล้ ๆ โรงแรมจะมีย่านช็อปปิ้งเทนจินที่เป็นแหล่งช็อปปิ้งยอดนิยม ในย่านนี้จะเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ รวมถึงศูนย์การค้าใต้ดินที่เชื่อมต่อสถานีรถไฟใต้ดินหลักเข้ากับห้างต่าง ๆ เหล่านักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาได้ทั้งวันกับการช้อปปิ้งสินค้าต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทาง
ห่างออกไปอีกหน่อยจะมีคาแนล ซิตี้ ฮากาตะ (Canal City Hakata) ที่เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ โดยมีไฮไลท์เป็นการแสดงน้ำพุที่พุ่งออกมาตามเสียงเพลง โดยมีการจัดแสดงเป็นรอบ ๆ นอกจากนี้ ยังมีร้านค้ามากมายให้เหล่านักท่องเที่ยวได้สนุกไปกับการช้อปปิ้ง สิ่งบันเทิง รวมไปถึงการลิ้มลองอาหารท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของฟุกุโอกะ
และห่างออกไปจากคาแนล ซิตี้ ฮากาตะอีกหน่อยจะมีศาลเจ้าคุชิดะ (Kushida Shrine) ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลฤดูร้อนที่ยิ่งใหญ่อย่างเทศกาล Hakata Gion Yamakasa ของฟุกุโอกะ โดยเทศกาลนี้จะจัดขึ้นทุกเดือนกรกฎาคม แต่แม้จะไม่ได้มาในช่วงเทศกาล นักท่องเที่ยวก็ยังสามารถชมยามาคาซะ (Yamakasa) ซึ่งเป็นขบวนแห่ที่ประดับประดาอย่างสวยงามตั้งแสดงไว้ภายในบริเวณศาลเจ้าตลอดทั้งปี
ข้อมูลของ Hotel Monterey La Soeur Fukuoka
| ราคา | เริ่มต้น 5,500 THB~ |
|---|---|
| สถานที่ใกล้เคียง | ย่านช็อปปิ้งเทนจิน (เดิน 5 นาที) คาแนล ซิตี้ ฮากาตะ (เดิน 15 นาที) ศาลเจ้าคุชิดะ (เดิน 20 นาที) |
| การเดินทาง | นั่งรถไฟสายสนามบินมาลงที่สถานี Tenjin และเดินต่อประมาณ 5 นาที |
ดูรายละเอียดบัตร JR Pass ได้ที่นี่
จองโรงแรมได้ที่ |
||
|---|---|---|
| จองที่ HOTELS.com | ||
| จองที่ EXPEDIA | ||
| จองที่ AGODA | ||
| จองที่ BOOKING.COM |
The Blossom Kumamoto
The Blossom Kumamoto เป็นโรงแรมที่มอบความสะดวกสบายที่เหนือระดับให้กับนักเดินทาง ด้วยจุดเด่นสำคัญคือการเชื่อมต่อโดยตรงกับสถานี JR Kumamoto ที่เป็นศูนย์กลางการคมนาคมหลักของเมือง เหล่าผู้เข้าพักสามารถเข้าสู่ล็อบบี้โรงแรมได้ทันทีหลังจากลงจากรถไฟ ทำให้การเดินทางเข้า-ออกเมือง หรือการต่อรถไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ เป็นไปอย่างง่ายดายและประหยัดเวลาอย่างยิ่ง
โรงแรมแห่งนี้โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ผสมผสานความทันสมัยเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่นของจังหวัดคุมาโมโตะ ตัวห้องพักได้รับการออกแบบให้มีพื้นที่กว้างขวางและสะดวกสบาย พร้อมวิวทิวทัศน์ของเมืองคุมาโมโตะที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน และมีบริการอาหารเช้าหลากหลายรูปแบบที่เน้นวัตถุดิบคุณภาพสูงในท้องถิ่น ทำให้ผู้เข้าพักได้เพลิดเพลินกับการเข้าพักในโรงแรมนี้ และเพลิดเพลินไปกับการสำรวจเสน่ห์ของจังหวัดคุมาโมโตะ
สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจใกล้ ๆ The Blossom Kumamoto
โรงแรม The Blossom Kumamoto ตั้งอยู่ติดกับสถานี JR Kumamoto ทำให้การเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ของเมืองเป็นไปอย่างง่ายดายและรวดเร็ว โดยมีปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto Castle) ที่เป็นหนึ่งในสามปราสาทที่ยิ่งใหญ่และงดงามที่สุดของญี่ปุ่น ในส่วนของหอคอยปราสาทหลักจะเปิดให้เหล่านักท่องเที่ยวเข้าชมได้บางส่วน
ใกล้ ๆ กับปราสาทคุมาโมโตะยังมีสถานที่ที่เรียกว่าซากุระโนะบาบะ โจไซเอ็น (Sakuranobaba Josaien) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและร้านค้าที่สร้างจำลองบรรยากาศเมืองรอบปราสาทในสมัยเอโดะ โดยจะมีโซนวาคุวาคุสะ (Wakuwakuza) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ใช้เทคโนโลยีและมัลติมีเดีย เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เรียนรู้เรื่องราวของปราสาทคุมาโมโตะและประวัติศาสตร์ท้องถิ่นอย่างสนุกสนาน และโซนซากุระโนะโคจิ (Sakura-no-Koji) ที่เป็นโซนร้านค้าและร้านอาหารมากมายที่รวบรวมของฝากท้องถิ่น อาหารขึ้นชื่อของคุมาโมโตะ และขนมหวานแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะของฝากที่ทำจาก “คุมะมง (Kumamon)” ซึ่งมาสคอตประจำจังหวัดที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ
นอกจากนี้ยังมีสวนซุยเซนจิ โจจูเอ็น (Suizenji Jojuen Garden) ซึ่งเป็นสวนญี่ปุ่นสไตล์จัดภูมิทัศน์ที่เก่าแก่และมีความงดงาม ถือเป็นหนึ่งในสวนที่สวยที่สุดในภูมิภาคคิวชู โดยภายในมีรูปแบบการจัดสวนที่จำลองเส้นทาง 53 สถานีของถนนโทไคโดะที่เชื่อมระหว่างกรุงโตเกียวกับกรุงเกียวโตในอดีต ไฮไลท์ของสวนคือการจำลองภูเขาไฟฟูจิขนาดเล็ก และบ่อน้ำที่มาจากแหล่งน้ำพุธรรมชาติของภูเขาอาโซะ ทำให้มีน้ำใสสะอาดตลอดทั้งปี
ข้อมูลของ The Blossom Kumamoto
| ราคา | เริ่มต้น 4,000 THB~ |
|---|---|
| สถานที่ใกล้เคียง | ปราสาทคุมาโมโตะ (รถบัส 20 นาที) ซากุระโนะบาบะ โจไซเอ็น (รถบัส 20 นาที) สวนซุยเซนจิ โจจูเอ็น (รถไฟ 15 นาที) |
| การเดินทาง | เดินทางมาที่สถานี JR Kumamoto และใช้ทางเชื่อมจากสถานีเข้ามาที่โรงแรมได้เลย |
ดูรายละเอียดบัตร JR Pass ได้ที่นี่
จองโรงแรมได้ที่ |
||
|---|---|---|
| จองที่ HOTELS.com | ||
| จองที่ EXPEDIA | ||
| จองที่ AGODA | ||
| จองที่ BOOKING.COM |
Suginoi Hotel
โรงแรม Suginoi Hotel ในเบปปุ จังหวัดโออิตะ เป็นรีสอร์ทออนเซ็นขนาดใหญ่แบบครบวงจร จุดเด่นที่สุดคือ “ทานายู (Tanayu)” ซึ่งเป็นออนเซ็นกลางแจ้งแบบขั้นบันไดขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ให้ทัศนียภาพอันตระการตาของอ่าวเบปปุและเมืองยามค่ำคืนในขณะที่แช่ออนเซ็น นอกจากนี้ โรงแรมยังมีโซนสระว่ายน้ำและออนเซ็นที่สามารถสวมชุดว่ายน้ำเข้าใช้ได้อีกด้วย เหมาะสำหรับผู้เข้าพักที่มาเป็นครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนที่ต้องการสนุกร่วมกัน
เนื่องจากโรงแรมมีบริการห้องพักหลากหลายประเภท และมีบริการบุฟเฟต์อาหารเย็นและอาหารเช้านานาชาติแบบอลังการ ทำให้แทบไม่จำเป็นต้องออกไปหาทานอาหารนอกโรงแรมเลย แถมยังมีบริการรถรับ-ส่งฟรีจากสถานี JR Beppu ทำให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้นอีกด้วย
สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจใกล้ ๆ Suginoi Hotel
ในเบบปุที่เป็นสถานที่ตั้งของโรงแรม Suginoi Hotel จะมีสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ โดยจะมีบ่อนรกเบปปุ (Beppu Jigoku Meguri) ที่เป็นเส้นทางชมน้ำพุร้อนธรรมชาติ 7 บ่อที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ไม่สามารถลงไปแช่ได้ เพราะมีอุณหภูมิเกือบ 100°C จึงถูกเรียกว่า “บ่อนรก” เหล่านักท่องเที่ยวนิยมไปชมบ่อที่มีน้ำสีฟ้าโคบอลต์สวยงามราวกับน้ำทะเล และบ่อที่มีสีแดงจากแร่ธาตุ นอกจากนี้ ยังสามารถลองชิมไข่และพุดดิ้งที่นึ่งด้วยไอน้ำพุร้อนธรรมชาติอีกด้วย
บริเวณใกล้ ๆ ยังมีกระเช้าลอยฟ้าเบปปุ (Beppu Ropeway) ซึ่งเป็นกระเช้าขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคคิวชู โดยกระเช้าจะพาผู้เข้าพักขึ้นสู่ยอดเขาซึรุมิ (Mount Tsurumi) ที่ความสูงประมาณ 1,300 เมตร โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที เพื่อชมทัศนียภาพแบบพาโนรามาที่สวยงามของเมืองเบปปุ อ่าวเบปปุ และเทือกเขาคุจู โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่จะได้เห็นดอกซากุระอันสวยงาม และในฤดูหนาวก็จะมีปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งเกาะ
ข้อมูลของ Suginoi Hotel
| ราคา | เริ่มต้น 5,000 THB~ |
|---|---|
| สถานที่ใกล้เคียง | บ่อนรกเบปปุ (รถบัส 20 นาที) กระเช้าลอยฟ้าเบปปุ (รถบัส 15 นาที) |
| การเดินทาง | เดินทางมาที่สถานี JR Beppu และใช้บริการรถรับ-ส่งจากโรงแรม หรือนั่งรถบัสจากสถานีมาลงที่ป้าย Reisenji และเดินต่อประมาณ 10 นาที |
ดูรายละเอียดบัตร JR Pass ได้ที่นี่
จองโรงแรมได้ที่ |
||
|---|---|---|
| จองที่ HOTELS.com | ||
| จองที่ EXPEDIA | ||
| จองที่ AGODA | ||
| จองที่ BOOKING.COM |
Shiroyama Hotel Kagoshima
โรงแรม Shiroyama Hotel Kagoshima ถือเป็นหนึ่งในที่พักระดับห้าดาวที่มอบประสบการณ์การเข้าพักอันแสนหรูหราและน่าประทับใจที่สุดในเมืองคาโกชิมะให้กับเหล่าผู้เข้าพัก ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่บนเนินเขาชิโรยามะ ทำให้ผู้เข้าพักได้รับชมทัศนียภาพอันงดงาม โดยเฉพาะวิวภูเขาไฟซากุระจิมะที่สามารถมองเห็นได้จากห้องพัก ไฮไลต์สำคัญคือออนเซ็นกลางแจ้งที่เรียกว่า “ชิโรยามะวิว (Shiroyama View)” ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถแช่น้ำพุร้อนไปพร้อมกับการชมภูเขาไฟได้อย่างชัดเจน
ตัวโรงแรม Shiroyama Hotel Kagoshima มีมาตรฐานการบริการระดับสูงและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เพื่อให้ผู้เข้าพักรู้สึกสะดวกสบายเป็นอย่างดี และแม้ว่าโรงแรมจะตั้งอยู่บนเนินเขา แต่ก็มีบริการรถรับ-ส่งฟรีจากสถานี JR Kagoshima Chuo ทำให้การเดินทางเข้าถึงเมืองเป็นไปได้อย่างสะดวกสบาย
สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจใกล้ ๆ Shiroyama Hotel Kagoshima
บริเวณใกล้ ๆ โรงแรม Shiroyama Hotel Kagoshima จะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างจุดชมวิวสวนชิโรยามะ โดยที่นี่เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการชมทิวทัศน์แบบพาโนรามาของเมืองคาโกชิมะ อ่าวคิงโกะ และภูเขาไฟซากุระจิมะที่อยู่ตรงเบื้องหน้า เหล่านักท่องเที่ยวสามารถขึ้นมาชมวิวได้ทั้งในช่วงกลางวันเพื่อดูภูเขาไฟปล่อยควันออกมา และชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่แสงไฟจากตัวเมืองส่องสว่างสะท้อนกับอ่าวได้อย่างงดงาม
ฝั่งตรงข้ามของโรงแรมยังมีเกาะซากุระจิมะซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองคาโกชิมะ และเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นมากที่สุดในญี่ปุ่น การได้ลองไปเยือนที่เกาะซากุระจิมะเองก็เป็นประสบการณ์ที่แตกต่างจากการชมวิวที่โรงแรม โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางข้ามไปได้ง่าย ๆ ด้วยเรือข้ามฟากเฟอร์รีจากท่าเรือคาโกชิมะ และเมื่อไปถึงก็สามารถนั่งรถบัสท่องเที่ยววนรอบเกาะเพื่อไปยังจุดชมวิวต่าง ๆ หรือแช่เท้าผ่อนคลายในบ่อออนเซ็นเท้าสาธารณะ
ไกลออกไปจากโรงแรมก็จะมีสถานที่น่าสนใจอย่างสวนเซนกังเอ็น (Sengan-en Garden) ซึ่งเป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่นขนาดใหญ่และสวยงามที่สร้างขึ้นในปี 1658 โดยสวนแห่งนี้มีชื่อเสียงระดับโลกในด้านเทคนิคการจัดสวนโดยใช้ฉากหลังที่เป็นธรรมชาติของภูเขาไฟซากุระจิมะและอ่าวคิงโกะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสวนได้อย่างลงตัว
ข้อมูลของ Shiroyama Hotel Kagoshima
| ราคา | เริ่มต้น 3,500 THB~ |
|---|---|
| สถานที่ใกล้เคียง | จุดชมวิวสวนชิโรยามะ (เดิน 1 นาที) เกาะซากุระจิมะ (รวมรถบัสและเรือ 1 ชั่วโมง) สวนเซนกังเอ็น (รถไฟ 40 นาที) |
| การเดินทาง | เดินทางมาที่สถานี JR Kagoshima Chuo และใช้บริการรถรับ-ส่งจากโรงแรม หรือนั่งรถบัสประมาณ 25 นาที |
ดูรายละเอียดบัตร JR Pass ได้ที่นี่
จองโรงแรมได้ที่ |
||
|---|---|---|
| จองที่ HOTELS.com | ||
| จองที่ EXPEDIA | ||
| จองที่ AGODA | ||
| จองที่ BOOKING.COM |
Wataya Besso
Wataya Besso เป็นที่พักแบบเรียวกังที่ตั้งอยู่ในเมืองอุเรชิโนะออนเซ็น จังหวัดซากะ ที่เรียวกังแห่งนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์และความเงียบสงบในบรรยากาศของออนเซ็นเก่าแก่ที่ขึ้นชื่อด้าน “น้ำพุรอนเพื่อความงาม” อันเป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาค ผู้เข้าพักสามารถใช้บริการออนเซ็นทั้งในร่มและกลางแจ้งได้หลายรูปแบบ ซึ่งเป็นออนเซ็นที่เชื่อกันว่าจะช่วยให้ผิวพรรณนุ่มนวลและชุ่มชื้นเป็นพิเศษ
เรียวกังแห่งนี้ได้มีบริการอาหารเย็นแบบไคเซกิ ซึ่งเป็นอาหารชุดของญี่ปุ่นที่ปรุงอย่างปราณีตโดยใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลและอาหารทะเลคุณภาพสูง ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ในการเข้าพักของคุณให้น่าจดจำ แม้ว่าการเดินทางจากสถานีรถไฟหลักมาที่นี่จะใช้เวลาพอสมควร แต่ด้วยเสน่ห์ของที่นี่ทำให้เรียวกังแห่งนี้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การเข้าพักในเรียวกังในสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม
สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจใกล้ ๆ Wataya Besso
รอบ ๆ เรียวกัง Wataya Besso จะเป็นสถานที่เงียบสงบ แต่ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างหมู่บ้านนินจาฮิเซน ยูเมะไคโดะ (Saga Ninja Village Hizen Yumekaido) ซึ่งเป็นสวนสนุกเชิงประวัติศาสตร์ที่จำลองบรรยากาศของถนนในยุคเอโดะ โดยมีธีมหลักคือ “นินจา” ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของนินจาและซามูไรอย่างสนุกสนาน ภายในหมู่บ้านประกอบด้วยอาคารบ้านเรือนโบราณที่ตกแต่งอย่างสมจริง
นอกจากนี้ยังมีสวนน้ำตกโทโดโรกิ (Todorokinotaki Water Park) ซึ่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่รอบ ๆ น้ำตกโทโดโรกิ ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงของเมืองอุเรชิโนะ น้ำตกแห่งนี้มีความสูงประมาณ 11 เมตร มีลักษณะเป็นน้ำตก 3 ชั้น และมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ด้านล่าง บริเวณโดยรอบเป็นสวนสาธารณะที่มีพื้นที่เปิดโล่ง ทำให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ดีเยี่ยมสำหรับคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว
ข้อมูลของ Wataya Besso
| ราคา | เริ่มต้น 13,000 THB~ |
|---|---|
| สถานที่ใกล้เคียง | หมู่บ้านนินจาฮิเซน ยูเมะไคโดะ (เดิน 10 นาที) สวนน้ำตกโทโดโรกิ (เดิน 20 นาที) |
| การเดินทาง | เดินทางมาที่สถานี JR Ureshino Onsen และนั่งรถบัสจากสถานีประมาณ 5 นาที และเดินอีก 5 นาที |
ดูรายละเอียดบัตร JR Pass ได้ที่นี่
จองโรงแรมได้ที่ |
||
|---|---|---|
| จองที่ HOTELS.com | ||
| จองที่ EXPEDIA | ||
| จองที่ AGODA | ||
| จองที่ BOOKING.COM |
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการพักโรงแรมในภูมิภาคคิวชู
คิวชูมีช่วงที่อากาศดีที่สุดสำหรับการท่องเที่ยวคือเมื่อไหร่?
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปเที่ยวภูมิภาคคิวชูจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ (ปลายมีนาคม – พฤษภาคม) และฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (ตุลาคม – พฤศจิกายน) เนื่องจากมีอุณหภูมิที่เย็นสบายกำลังดี ท้องฟ้าโปร่งและมีทิวทัศน์ที่สวยงาม ส่วนช่วงฤดูร้อน (กรกฎาคม – สิงหาคม) จะมีอากาศร้อนชื้นและอาจมีไต้ฝุ่น ในขณะที่ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) จะมีอากาศที่เย็นจัด และบางพื้นที่บนภูเขาสูงอาจมีหิมะตก
การเดินทางในภูมิภาคคิวชู ควรใช้รถไฟหรือเช่ารถขับดีกว่า?
การเดินทางระหว่างเมืองหลักอย่างฟุกุโอกะ – คุมาโมโตะ – คาโกชิมะ การใช้บริการรถไฟชินคันเซ็นและรถไฟ JR จึงเป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด โดยเราขอแนะนำให้ใช้บัตร JR Pass แต่ถ้าหากคุณวางแผนเดินทางไปในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก เช่น ภูเขาอาโซะ จุดชมวิวที่ห่างไกล การเช่ารถขับเองก็จะให้ความยืดหยุ่นและเข้าถึงสถานที่เหล่านั้นได้ง่ายกว่ามาก
ควรใช้บัตร JR Pass แบบไหนสำหรับการเที่ยวในภูมิภาคคิวชู?
สำหรับการเที่ยวภูมิภาคคิวชูแบบครอบคลุมที่สุด เราขอแนะนำให้ใช้บัตร JR Kyushu Rail Pass ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบการท่องเที่ยวทั้งเกาะคิวชูแบบ 3, 5, 7 วัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปตามเมืองท่องเที่ยวหลักตามจังหวัดต่าง ๆ ส่วนแบบครึ่งบนและครึ่งล่างของเกาะคิวชูแบบ 3 วัน จะเน้นไปทางด้านการท่องเที่ยวในส่วนของครึ่งบนหรือครึ่งล่างของเกาะคิวชูเท่านั้น ซึ่งมีความคุ้มค่ากว่าบัตร JR Pass แบบทั่วประเทศ
บัตร IC Card สามารถใช้ในภูมิภาคคิวชูได้ไหม?
สามารถใช้ได้อย่างไม่มีปัญหา แม้ว่าคิวชูจะมีบัตร IC Card ของตัวเองคือ Sugoca แต่บัตร IC Card หลักจากภูมิภาคอื่น ๆ ของญี่ปุ่น เช่น Suica, PASMO, ICOCA, Kitaca ฯลฯ ก็สามารถนำมาใช้ชำระค่าโดยสารรถไฟท้องถิ่น รถไฟใต้ดิน รถบัส รวมถึงใช้ชำระเงินตามร้านสะดวกซื้อและร้านค้าทั่วไปในเมืองใหญ่ของภูมิภาคคิวชูได้อย่างสะดวกสบาย
เคล็ดลับการเดินทางอย่างคุ้มค่าในภูมิภาคคิวชู
การเดินทางในภูมิภาคคิวชูให้คุ้มค่าที่สุดนั้นมีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา ตั้งแต่การเลือกบัตรโดยสารไปจนถึงการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน นี่คือรายละเอียดของเคล็ดลับสำคัญที่จะช่วยให้คุณประหยัดและสะดวกสบายตลอดทั้งทริป
เลือกใช้ JR Kyushu Rail Pass
บัตร JR Kyushu Rail Pass เป็นบัตรโดยสารที่มอบความคุ้มค่าสูงสุดให้กับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางภายในภูมิภาคคิวชู โดยบัตรนี้จะครอบคลุมการใช้บริการรถไฟ JR ทุกประเภท รวมถึงรถไฟด่วนพิเศษและรถไฟชินคันเซ็น แต่ถ้าหากจำกัดพื้นที่การเดินทาง อาจจะต้องพิจารณาใช้งานบัตร Northern/Southern Kyushu Area Pass หรือบัตรที่ใช้สำหรับภูมิภาคคิวชูครึ่งบนและครึ่งล่าง
เตรียมบัตร IC Card ให้พร้อม
สำหรับตัวบัตร IC Card จะเป็นบัตรที่ช่วยให้การเที่ยวภูมิภาคคิวชูสะดวกสบายมากขึ้น โดยบัตรนี้จะช่วยประหยัดเวลาในการซื้อตั๋วรถไฟท้องถิ่นหรือรถบัสในแต่ละครั้ง นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ชำระเงินตามร้านสะดวกซื้อ ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ และร้านค้าบางแห่งได้ด้วย
ภูมิภาคคิวชูเป็นดินแดนแห่งความมหัศจรรย์ที่มอบการผสมผสานอันลงตัวระหว่างธรรมชาติและวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว ซึ่งโรงแรมที่เราคัดสรรมานั้น ไม่ว่าจะเป็นที่พักหรูหราพร้อมวิวภูเขาไฟซากุระจิมะ เรียวกังที่มีออนเซ็นสุดผ่อนคลาย และที่พักที่มีความสะดวกสบายใจกลางเมือง ต่างก็พร้อมที่จะเป็นที่พักชั้นเลิศสำหรับเหล่าผู้มาเยือน นอกจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวชมประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมญี่ปุ่น การช้อปปิ้งในเมือง หรือการผ่อนคลายในบ่อน้ำพุร้อน การวางแผนการเดินทางอย่างชาญฉลาดและการลิ้มลองรสชาติอาหารท้องถิ่น จะทำให้ทริปท่องเที่ยวภูมิภาคคิวชูเต็มไปด้วยความคุ้มค่าอย่างแน่นอน สำหรับผู้ที่เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นมาแล้ว ก็อย่าลืมมาแชร์ความทรงจำในการไปเที่ยวญี่ปุ่นกับพวกเราได้ในกิจกรรม Memories of Japan ที่จัดขึ้นในเพจ FAV A GOOD LAB ทุก ๆ เดือนนะคะ
























